มอสโก 20 ส.ค. – การยุติสงครามในยูเครนต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนอีกระลอกเมื่อรัสเซียแสดงท่าทีไม่ให้ความสำคัญกับการเจรจากับยูเครนตามที่ผู้นำสหรัฐกำลังผลักดันให้มีการเจรจาระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศ
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียเพิ่งบอกกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐว่าเขาเปิดรับแนวคิดในการเจรจาโดยตรงกับนายวลาดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน แต่มาในวันรุ่งขึ้น นายเซอร์เก ราฟลอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกลับปรับลดความสำคัญของการเจรจาดังกล่าวลงส่งผลให้ความพยายามในการยุติสงครามในยูเครนต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนมากขึ้น
นายราฟลอฟกล่าวว่าการประชุมใดๆก็ตามจะต้องมีการเตรียมการอย่างค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากการประชุมระดับผู้เชี่ยวชาญ จากนั้นจึงดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นทั้งหมด ขณะที่นายดมิทรี โปเลียนสกี รองผู้แทนรัสเซียประจำสหปราะชาชาติบอกว่าไม่มีใครปฏิเสธโอกาสในการเจรจาโดยตรง แต่ก็ไม่ควรเป็นการเจรจาเพียงแค่ว่าได้มาพบปะกันเท่านั้น
มีรายงานว่าเมื่อวานนี้ปูตินได้แนะกับทรัมป์ว่าเซเลนสกีสามารถเดินทางมาเจรจาที่กรุงมอสโกได้ แต่เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ยูเครนไม่มีวันยอมรับอย่างแน่นอน ซึ่งข้อเสนอนี้อาจจะเป็นวิธีการของรัสเซียในการเสนอทางเลือกที่ยูเครนจะไม่มีวันยอมตกลงได้
การประชุมสุดยอดระหว่างทรัมป์กับผู้นำรัสเซีย และผู้นำยูเครนรวมทั้งผู้นำพันธมิตรในยุโรปในช่วงไม่มีกี่วันมานี้ อาจทำให้ทรัมป์ได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเกี่ยวกับความซับซ้อนของสงครามและช่องหว่างระหว่างข้อเรียกร้องของรัสเซียกับจุดยืนของยูเครน ทรัมป์ยอมรับว่าปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนเป็นเรื่องยากที่จะแก้ไข พร้อมกับยอมรับด้วยว่าปูตินอาจจะไม่สนใจที่จะยุติการสู้รบ และเป็นไปได้ที่ผู้นำรัสเซียจะไม่ต้องการทำข้อตกลง ซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนั้นปูตินจะต้องเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างแน่นอน แต่ทรัมป์ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆเพิ่มเติม.-816.-สำนักข่าวไทย