รักษาการประธานาธิบดีเมียนมา “มินต์ ส่วย” ถึงแก่อสัญกรรม

ย่างกุ้ง 7 ส.ค. – มิ้นต์ ส่วย (Myint Swe) ซึ่งดำรงตำแหน่งรักษาการประธานาธิบดีเมียนมาในระหว่างการรัฐประหารปี 2021 หลังกองทัพโค่นล้มรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งและมอบอำนาจให้แก่กองทัพในการบริหารประเทศในทันที ถึงแก่อสัญกรรมแล้วในวันนี้ หลังจากพักรักษาตัวจากอาการป่วยเป็นเวลาหนึ่งปี มินต์ ส่วย วัย 74 ปี เข้ารักษาการในตำแหน่งประธานาธิบดีหลังจากที่นายวิน มินต์ ประธานาธิบดีคนก่อนหน้าถูกจับกุมตัวในระหว่างที่กองทัพก่อรัฐประหาร พร้อมกับนางอองซาน ซูจี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนเมียนมาในขณะนั้น ทั้งคู่ถูกควบคุมตัวนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มินต์ ส่วย เคยดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีก่อนที่จะกลายมารักษาการในตำแหน่งประธานาธิบดีโดยคณะรัฐประหารพึ่งพาเขาในการลงนามในคำสั่งต่างๆ เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการบริหารปกครองประเทศ มินต์ ส่วย ลาพักรักษาตัวเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วและส่งมอบหน้าที่ของเขาให้แก่นายพลอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่เป็นผู้นำในการยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กองทัพได้ถ่ายโอนอำนาจให้กับรัฐบาลรักษาการก่อนการเลือกตั้งที่กำหนดไว้ แต่ผู้บัญชาการทหารสูงสุดยังคงเป็นผู้รับผิดชอบการบริหารประเทศที่เสียหายจากสงครามในอีกบทบาทหนึ่งคือผู้รักษาการประธานาธิบดี.-813.-สำนักข่าวไทย

ฝรั่งเศสเผชิญไฟป่าครั้งใหญ่ในรอบ 80 ปี-เสียชีวิต 1 ราย

แซงต์-โลรองต์-เดอ-ลา-กาเบรริส, ฝรั่งเศส 6 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ดับเพลิงฝรั่งเศสกำลังเร่งควบคุมไฟป่าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในรอบเกือบ 80 ปี โดยไฟป่าในภูมิภาคโอดทางตอนใต้ได้เผาผลาญพื้นที่ไปเป็นบริเวณกว้าง เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตหนึ่งรายในหมู่บ้านแซงต์-โลรองต์-เดอ-ลา-กาเบรริส ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองแปร์ปิยงประมาณ 30 กิโลเมตร ไฟป่าครั้งนี้ลุกลามอย่างรวดเร็วผ่านป่าและหมู่บ้านต่างๆ และได้เผาทำลายบ้านเรือนไปแล้วอย่างน้อย 25 หลัง ทำให้ผู้พักอาศัยและนักท่องเที่ยวต้องอพยพออกจากพื้นที่และถนนหลายสายถูกปิด นายกรัฐมนตรีฟรองซัวส์ เบย์รู ของฝรั่งเศสกล่าวขณะเดินทางไปเยี่ยมหมู่บ้านแซงต์-โลรองต์-เดอ-ลา-กาเบรริสว่า เพลิงไหม้ครั้งนี้เป็นภัยพิบัติในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จนถึงขณะนี้ มีพื้นที่ถูกไฟไหม้ไปแล้วกว่า กว่า 95,000 ไร่ ซึ่งเทีบบเท่ากับพื้นที่ทั้งหมดที่ถูกไฟไหม้ทั่วฝรั่งเศสรวมกันในหลายปีที่ผ่านมา นายบรูโน เรเตออียู รัฐมนตรีมหาดไทยกล่าวเพิ่มเติมว่า ตัวเลขนี้ถือว่าเป็นพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้จากไฟป่าครั้งเดียวที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศสนับตั้งแต่ปี 1949 เป็นต้นมา เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่าไฟป่าลุกลาม “เร็วมาก” และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเกือบ 2,000 นายกำลังพยายามควบคุมสถานการณ์ ขณะนี้มีบ้านเรือนประมาณ 2,500 หลังที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ โฆษกสำนักงานดับเพลิงกล่าวว่าไฟป่ากำลังลุกลามด้วยความเร็ว 5.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าทิศทางลมอาจเปลี่ยนไป ซึ่งจะทำให้การดับไฟป่ายุ่งยากซับซ้อนยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน สเปนกำลังเผชิญกับคลื่นความร้อนที่ยาวนานตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมาและคาดว่าจะดำเนินต่อไปจนถึงสัปดาห์หน้า โดยอุณหภูมิในบางพื้นที่สูงถึง 43 องศาเซลเซียส อุณหภูมิที่สูงได้เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดไฟป่าหลายแห่ง สำหรับในโปรตุเกส […]

‘ทรัมป์’ เรียกเก็บภาษีสินค้าอินเดียเพิ่มอีก 25%

วอชิงตัน/นิวเดลี 7 ส.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐประกาศในวันพุธ เรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติม 25% กับสินค้าจากอินเดีย โดยให้เหตุผลว่ารัฐบาลนิวเดลียังคงนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียอย่างต่อเนื่อง การเคลื่อนไหวนี้ทำให้ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมาก หลังจากที่การเจรจาทางการค้าไม่สามารถหาข้อสรุปได้ อัตราภาษีนำเข้าใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ 21 วันหลังจากวันที่ 7 สิงหาคม ซึ่งจะทำให้อากรขาเข้าสำหรับสินค้าส่งออกบางประเภทของอินเดียพุ่งสูงถึง 50% ซึ่งเป็นหนึ่งในอัตราภาษีที่สูงที่สุดที่สหรัฐเคยเรียกเก็บจากประเทศคู่ค้า คำสั่งทางการบริหารของนายทรัมป์ที่เรียกเก็บภาษีเพิ่มไม่ได้กล่าวถึงจีน ซึ่งเป็นอีกประเทศที่นำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย แต่นายทรัมป์กล่าวในภายหลังว่า เขาสามารถประกาศเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมในลักษณะเดียวกันกับสินค้าจีนได้ นักวิเคราะห์กล่าวว่า การกระทำของนายทรัมป์ครั้งนี้ถือเป็นจุดตกต่ำที่สุดในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ-อินเดียนับตั้งแต่เขากลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา อัตราภาษีดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการเข้าถึงตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย ซึ่งมีมูลค่าการส่งออกรวมเกือบ 8.7 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2024 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น สิ่งทอ รองเท้า อัญมณี และเครื่องประดับ นอกจากนี้ยังถือเป็นการเปลี่ยนแปลงจากความสัมพันธ์อันดีที่เคยเห็นในช่วงการพบปะกันของนายทรัมป์และนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดียในเดือนกุมภาพันธ์ โดยนักวิเคราะห์ชี้ให้เห็นถึงคำพูดล่าสุดของนายทรัมป์ที่เรียกเศรษฐกิจของอินเดียว่า “ตายไปแล้ว” และกล่าวว่ามาตรการกีดกันทางการค้าของอินเดียนั้น “น่ารังเกียจ” พร้อมทั้งกล่าวหาว่าอินเดียได้ผลประโยชน์จากน้ำมันรัสเซียราคาถูกในขณะที่เพิกเฉยต่อการสังหารชาวยูเครนในการรุกรานของรัสเซียที่ดำเนินมาสามปีครึ่ง กระทรวงการต่างประเทศของอินเดียกล่าวว่า การตัดสินใจของสหรัฐครั้งนี้ “น่าเสียดายอย่างยิ่ง” และชี้ว่าประเทศอื่นๆ อีกมากมายก็มีการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียเพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศตนเช่นกัน พร้อมกับระบุว่า อินเดียจะดำเนินมาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ […]

พบผู้ป่วยชิคุนกุนยา 7,000 รายในมณฑลกวางตุ้งของจีน

กวางตุ้ง 7 ส.ค. – จีนเผชิญการระบาดของโรคชิคุนกุนยา หรือ โรคไข้ปวดข้อยุงลาย ซึ่งเป็นโรคที่มียุงเป็นพาหะ พบผู้ป่วยแล้วกว่า 7,000 รายทั่วทั้งมณฑลกวางตุ้งตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ส่งผลให้ต้องใช้มาตรการควบคุมที่คล้ายคลึงกับช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมืองฝอซานซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด กำหนดมาตรการให้ผู้ป่วยโรคชิคุนกุนยาต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลและนอนกางมุ้งตลอดเวลา โดยจะอนุญาตให้กลับบ้านได้เมื่อผลตรวจเป็นลบหรือหลังจากเข้ารับการรักษาเป็นเวลา 7 วัน ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกในหมู่ประชาชน เนื่องจากเป็นโรคที่ไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในจีน นอกเหนือจากเมืองฝอซานแล้ว ยังมีอีกอย่างน้อย 12 เมืองในมณฑลกวางตุ้งที่รายงานผู้ติดเชื้อ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา มีรายงานผู้ป่วยแล้วกว่า 7,000 รายทั่วทั้งมณฑลกวางตุ้ง ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเพียงสัปดาห์เดียว พบผู้ป่วยเกือบ 3,000 ราย ขณะที่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ฮ่องกงรายงานผู้ป่วยรายแรกในเด็กชายวัย 12 ปี ที่มีอาการไข้ ผื่น และปวดข้อ หลังจากเดินทางไปฝอซานในเดือนกรกฎาคม ไวรัสชิคุนกุนยาไม่สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้โดยตรง แต่จะแพร่กระจายเมื่อยุงกัดผู้ติดเชื้อแล้วไปกัดคนอื่นต่อ ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่า ผู้ป่วยที่รายงานมาทั้งหมดมีอาการไม่รุนแรง กว่าร้อยละ 95 ของผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลได้ภายใน 7 วัน อย่างไรก็ตาม ทางการมณฑลกวางตุ้งได้ประกาศใช้มาตรการรเด็ดขาดและเฉียบขาดเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคนี้ทั่วทั้งมณฑล โดยผู้ที่มีอาการ เช่น ไข้ ปวดข้อ หรือมีผื่นขึ้น […]

เร่งค้นหาผู้สูญหายโคลนถล่มอินเดีย

นิวเดลี 7 ส.ค. – ทหารจากกองทัพอินเดียเดินหน้าลุยค้นหาผู้สูญหายที่ยังไม่ทราบชะตากรรมอีกมากกว่า 50 คน ในเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันและดินโคลนถล่มในรัฐอุตตราขัณฑ์ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 คน กองทัพอินเดียได้นำสุนัขดมกลิ่น, โดรนและเครื่องมือหนักในการขนดิน ออกค้นหาผู้สูญหายจำนวนมาก หนึ่งวันหลังเกิดน้ำท่วมฉับพลันรุนแรงในบริเวณเทือกเขาหิมาลัย เจ้าหน้าที่กู้ภัยแถลงว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย และยังไม่ทราบชะตากรรมอีกกว่า 50 คน หลังจากน้ำผสมดินโคลนและเศษซากต่าง ๆ ไหลบ่าลงมาตามภูมิประเทศที่เป็นภูเขา เข้าท่วมถนน อาคารและร้านค้าต่างๆ หมู่บ้านธาราลี (Dharali) ในเขตอุตตาร์คาชี แหล่งท่องเที่ยวหน้าร้อนชื่อดังในรัฐอุตตราขัณฑ์ ฝนที่ยังคงตกหนักต่อเนื่อง เป็นอุปสรรคต่อความพยายามกู้ภัย การสื่อสารอยู่ทำได้อย่างจำกัดและสายส่งโทรศัพท์ได้รับความเสียหาย เส้นทางที่มุ่งไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบพังถล่มหรือถูกปิดกั้นด้วยก้อนหิน ทำให้การเข้าถึงทำได้ยาก อย่างไรก็ตาม เมื่อทหารและทีมกู้ภัยไปถึงที่เกิดเหตุ การประเมินจำนวนผู้สูญหายก็ลดลง จากเดิมที่มีรายงานว่าสูญหายราว 100 คนเมื่อช่วงค่ำวันอังคารที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ทหาร 11 นายก็ยังสูญหายไม่ทราบชะตากรรมจากหมู่บ้านฮาร์ซิล ที่อยู่ใกล้เคียงและเผชิญเหตุน้ำท่วมฉับพลันและดินโคลนด้วย ขณะที่ก่อนหน้านี้ ทหารและเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้อพยพผู้ประสบภัยออกมาได้แล้วราว 130 คน.-815.-สำนักข่าวไทย

อินเดียเร่งกู้ภัยดินถล่ม

นิวเดลี 6 ส.ค. – รัฐบาลท้องถิ่นรัฐอุตตราขัณฑ์ ในภูมิภาคหุบเขาหิมาลัย ภาคเหนือของอินเดีย เร่งภารกิจค้นหาและกู้ภัยเหตุน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันอังคาร นายพุชการ์ ซิงห์ ธามี (Pushkar Singh Dhami) มุขมนตรีรัฐอุตตราขัณฑ์ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจความเสียหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันและดินปริมาณมหาศาลถล่มลงมาจากภูเขา ไหลทะลักเข้าทับถมอาคารและบ้านเรือนประชาชนที่อยู่เบื้องล่าง อันเป็นผลจากปรากฏการณ์ คลาวด์เบิร์ส หรือ เมฆระเบิด ที่ทำให้เกิดฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างหนักและฉับพลัน ในระยะเวลาสั้น ส่วนใหญ่เกิดในเขตภูเขาซึ่งมักก่อผลกระทบอย่างรุนแรง เหตุภัยพิบัติเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงวันอังคาร พื้นที่เกิดเหตุเป็นหมู่บ้านดาราลีและเขตอุตตรากาสี แหล่งท่องเที่ยวหน้าร้อนชื่อดังของภูมิภาค มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คนและมีผู้สูญหายระหว่าง 50-100 คน ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย ทำได้อย่างยากลำบาก เนื่องจากดินถล่มกีดขวางการจราจรบนทางด่วนสายหลักและถนนหลายจุดทรุดตัวและขาด อีกทั้งยังเกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง นายธามีกล่าวว่า สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้แล้ว 130 คน ส่วนกรณีระบบการสื่อสารประสบปัญหาขัดข้อง เพราะเสาส่งสัญญาณ และ เสาไฟฟ้าถูกกระแสน้ำซัดหายไป เจ้าหน้าที่ได้มอบโทรศัพท์ดาวเทียม ให้ทีมกู้ภัยใช้ติดต่อสื่อสาร พร้อมกันนี้ ยังจัดเตรียมเฮลิคอปเตอร์ไว้รองรับการจัดส่งสิ่งของช่วยเหลือให้กับผู้ประสบภัยที่ยังติดค้างอยู่ตามที่ต่างๆ ขณะที่สถานีข่าว เอ็นดีทีวี รายงานด้วยว่า ค่ายทหารในเมืองฮาร์ซิลที่อยู่ห่างจากหมู่บ้านดาราลี 4 กิโลเมตร เผชิญเหตุน้ำท่วมฉับพลันด้วยและมีเจ้าหน้าที่ทหารสูญหาย […]

ยูเอ็นห่วงอิสราเอลอาจยึดฉนวนกาซาทั้งหมด

สหประชาชาติ 6 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น แสดงความเป็นห่วง หลังสื่อรายงานว่านายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล กำลังผลักดันขยายปฏิบัติการทางทหารและอาจเข้ายึดครองฉนวนกาซาอย่างเบ็ดเสร็จ นายเนทันยาฮู แถลงผ่านคลิปวิดีโอ ที่สำนักงานสื่อของรัฐบาลอิสราเอลเผยแพร่เมื่อวานนี้ว่า อิสราเอลมีภารกิจ 3 ประการที่ต้องทำให้สำเร็จในฉนวนกาซา อันเป็นการเน้นย้ำถึงเป้าหมายการทำสงครามของรัฐบาล ประกอบด้วยความจำเป็นต้องเอาชนะศัตรูในฉนวนกาซา การช่วยเหลือปล่อยตัวประกันทั้งหมด และการสร้างหลักประกันว่าฉนวนกาซาจะไม่เป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอลอีกต่อไป คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมาหลังจากการนายเนทันยาฮู เดินทางไปตรวจเยี่ยมฐานเกณฑ์ทหาร ในพื้นที่ภาคกลางของอิสราเอลและคณะรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง จะประชุมกันวันพฤหัสบดีนี้เพื่อตัดสินใจถึงมาตรการขั้นถัดไปในฉนวนกาซา หลังการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงทางอ้อมกับกลุ่มฮามาสที่ประเทศกาตาร์ หยุดชะงักไป โดยไม่มีความคืบหน้า ด้านสื่อของอิสราเอล รวมทั้งสถานีโทรทัศน์ช่อง แชนแนล12 รายงานด้วยว่า นายเนทันยาฮู กำลังพยายามเสนอแผนเพื่อขยายปฏิบัติการทางทหาร และเข้าควบคุมฉนวนกาซาอย่างเบ็ดเสร็จ หลังสงครามต่อต้านกลุ่มฮามาส เกิดขึ้นต่อเนื่องมานานกว่า 22 เดือนแล้ว แต่สถานการณ์ยังคงยืดเยื้อและเกิดการสู้รบต่อเนื่อง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ปฏิเสธที่จะกล่าวว่าเขาสนับสนุนหรือไม่เห็นด้วยกับการที่อิสราเอลอาจจะใช้กำลังทหารเข้ายึดครองฉนวนกาซา แต่เลี่ยงไปกล่าวถึงเรื่องการจัดส่งความช่วยเหลือแทน โดยระบุว่า รัฐบาลสหรัฐเน้นไปที่เรื่องการผลักดันเพิ่มการจัดส่งความช่วยเหลือเข้าสู่ฉนวนกาซา เรื่องอื่นๆ เขาพูดไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับอิสราเอล นายมิโลสลาฟ เยนกา ผู้ช่วยเลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวถึงแผนการเข้ายึดฉนวนกาซาของนายกรัฐมนตรีของอิสราเอลอีกครั้ง ตามที่สื่อรายงานออกมานั้น […]

มรสุมรุนแรงทางตอนใต้ของจีน-ดินถล่ม

ปักกิ่ง 6 ส.ค. – เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเร่งกำจัดซากปรักหักพังและระบายน้ำจากถนนที่ถูกน้ำท่วม ในขณะที่ภาคใต้ของจีนเตรียมรับมือกับฝนตกหนักและปัญหาการแพร่ระบาดของโรค หลังจากเผชิญกับฝนตกที่หนักที่สุดในรอบศตวรรษ ซึ่งเป็นผลมาจากมรสุมเอเชียตะวันออก เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศเตือนถึงพายุฝนฟ้าคะนอง หลังจากฝนเดือนสิงหาคม ที่ตกหนักที่สุดเป็นอันดับสองในรอบศตวรรษ ถล่มเมืองกว่างโจว เมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง ทำให้สนามบินไป๋หยุน ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามบินที่มีผู้โดยสารพลุกพล่านที่สุดในโลก ต้องยกเลิกเที่ยวบิน 363 เที่ยว และมีเที่ยวบินล่าช้า 311 เที่ยว สื่อของทางการจีนระบุว่า ทีมกู้ภัยในมณฑลกวางตุ้งเร่งระบายน้ำและสูบน้ำออกจากพื้นที่ในเมือง เนื่องจากฝนที่ตกหนักได้ทำให้เกิดโคลนถล่มและต้นไม้หักโค่นล้มบนทางหลวง ทำให้ถนนได้รับความเสียหาย คลิปภาพวิดีโอแสดงให้เห็นถนนที่กลายเป็นเส้นทางน้ำสีน้ำตาล ซึ่งเสี่ยงที่จะทำให้การระบาดครั้งใหญ่ของโรคชิคุนกุนยา เลวร้ายลงอีก โดยโรคนี้แพร่ระบาดจากยุงที่เติบโตในน้ำท่วมขัง ซึ่งก่อนหน้านี้มีแนวโน้มลดลงก่อนที่จะเกิดฝนตกครั้งล่าสุด มณฑลกวางตุ้งเคยรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสนี้กว่า 7,000 ราย สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนระบุว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา รัฐบาลปักกิ่งได้จัดสรรเงินบรรเทาสาธารณภัยมากกว่า 1,000 ล้านหยวน (ประมาณ 4,960 ล้านบาท) สำหรับมณฑลกวางตุ้งและมณฑลเหอเป่ย์ทางตอนเหนือ รวมถึงกรุงปักกิ่ง และภูมิภาคทางตอนเหนือของเขตมองโกเลียใน ซึ่งรวมถึงเงินอุดหนุนสำหรับพื้นที่เพาะปลูกธัญพืชที่ได้รับความเสียหายด้วย แต่สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดอาจจะยังไม่สิ้นสุด โดยเจ้าหน้าที่จัดการเหตุฉุกเฉินกล่าวเมื่อวันอังคารว่า คาดว่าจะมีพายุไต้ฝุ่น 2-3 ลูกพัดถล่มในเดือนสิงหาคมนี้.-813.-สำนักข่าวไทย

จีน-ญี่ปุ่นปฏิเสธข่าวบริจาคโดรนให้กัมพูชา-ไทย

กรุงเทพฯ 6 ส.ค. – จีนปฏิเสธข่าวที่ว่าได้บริจาคโดรนให้กัมพูชา เพื่อใช้ตามแนวชายแดน ในขณะเดียวกันญี่ปุ่นก็ปฏิเสธข่าวที่ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะจัดหาอากาศยานต่อสู้ไร้คนขับ ให้กับประเทศไทย เฟซบุ๊กของสถานทูตจีนประจำประเทศไทยโพสต์ข้อความระบุว่า โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ตอบคำถามสื่อมวลชนที่ว่ามีรายงานข่าวจากบางสำนักอ้างว่าจีนได้บริจาคโดรนให้แก่กัมพูชา เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยระบุว่าจากการตรวจสอบแล้วขอยืนยันว่ารายงานข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ภาพที่ถูกนำไปใช้ในรายงานข่าวเหล่านั้นเป็นภาพที่ถ่ายในระหว่างงานสาธิตการบิน ซึ่งจัดโดย “บริษัท ไชนา เนชั่นแนล แอโร-เทคโนโลยี อิมพอร์ต แอนด์ เอ็กซ์พอร์ต คอร์ปอเรชั่น” (China National Aero-Technology Import & Export Corporation) หรือ “แคทิค” (CATIC) ในกัมพูชาเมื่อเดือนมกราคม 2024 และไม่มีความเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ปัจจุบันแต่อย่างใด ฝ่ายจีนขอยืนยันอีกครั้งว่านับตั้งแต่ความขัดแย้งตามแนวชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาปะทุขึ้น จีน ในฐานะที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นมิตร ได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อลดความตึงเครียดด้วยวิธีการของตนเอง จีนไม่ได้แสวงหาผลประโยชน์ใดๆ จากเรื่องนี้ และสนับสนุนให้อาเซียนในการอำนวยความสะดวกเพื่อหาทางออกทางการเมืองสำหรับสถานการณ์ระหว่างไทยและกัมพูชาผ่านแนวทางของอาเซียน จีนพร้อมที่จะสื่อสารอย่างใกล้ชิดกับประเทศในภูมิภาค ได้แก่ ไทย กัมพูชา และมาเลเซีย เพื่อมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในการเสริมสร้างการหยุดยิงให้มีความมั่นคงและฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพโดยเร็วที่สุด ในขณะเดียวกันสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำกรุงพนมเปญของกัมพูชา ออกแถลงการณ์เผยแพร่ทางเฟซบุ๊กของสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำกัมพูชา ชี้แจงข่าวลือที่แพร่กระจายในขณะนี้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนที่จะจัดหาโดรนรบให้กับประเทศไทย สถานทูตฯ ขอยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง และขอชี้แจงอย่างชัดเจนว่าทางการญี่ปุ่นไม่เคยมีแผนที่จะมอบอุปกรณ์ประเภทนี้ให้แก่ไทย […]

สิงคโปร์ว่าเหตุปะทะไทย-กัมพูชาเป็นความถดถอยของอาเซียน

สิงคโปร์ 6 ส.ค. – นายวิเวียน บาลากริชนัน รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า เหตุปะทะด้วยระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชาที่เกิดขึ้นล่าสุด ไม่เพียงแต่เป็นความถดถอยสำหรับสันติภาพในภูมิภาคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความน่าเชื่อถือของอาเซียนด้วย ปัญหาเรื่องดินแดนที่เกิดขึ้นได้จุดประเด็นคำถามเกี่ยวกับความสามารถของอาเซียนในการป้องกันและการจัดการกับวิกฤติการณ์และนายบาลากริชนันกล่าวว่า แม้ปัญหาเรื่องดินแดนดังกล่าวจะไม่ใช่เรื่องแปลกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่เขาก็เน้นย้ำว่าความรุนแรงเป็นสิ่งที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ นายบาลากริชนันกล่าวว่า เมื่อมีความรุนแรงเกิดขึ้น เป็นการสะท้อนถึงความล้มเหลวของความเป็นผู้นำ เขายังเตือนไม่ให้ปล่อยให้เรื่องต่างๆ เลวร้ายลงจนกลายเป็นเหตุวิกฤติร้ายแรง เนื่องจากภูมิภาคนี้กำลังเผชิญกับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นและภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจโลกที่แตกแยกมากขึ้นเรื่อยๆ นายบาลากริชนัน กล่าวเรื่องนี้ในเวทีการประชุมอาเซียนและเอเชียครั้งที่ 17 ซึ่งจัดโดยสถาบันกิจการระหว่างประเทศแห่งสิงคโปร์ในวันที่ 5 สิงหาคม โดยเขาอธิบายว่าความขัดแย้งระหว่างกัมพูชาและไทยเป็นความเสียหายร้ายแรงสำหรับกลุ่มอาเซียน รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์กล่าวต่อผู้ฟังซึ่งประกอบด้วยนักการทูต นักวิชาการ และผู้นำทางธุรกิจประมาณ 300 คนที่โรงแรมพาร์ครอยัล บีชโร้ดว่า “ไม่จำเป็นต้องพูดให้ดูดีกว่าความเป็นจริง นี่คือความถดถอย ความถดถอยครั้งใหญ่ ไม่ใช่แค่เพื่อสันติภาพและเสถียรภาพเท่านั้น แต่เพื่อความน่าเชื่อถือในอาเซียนด้วย” เขากล่าวว่า ประเทศในภูมิภาคนี้อยู่กับข้อพิพาทด้านดินแดนที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขมานาน ซึ่ง นายบาลากริชนันกล่าวย้ำว่าการมีอยู่ของข้อพิพาทเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าจะต้องนำไปสู่ความรุนแรงเสมอไป แค่มีพื้นที่ที่ยังไม่ได้กำหนดขอบเขตหรือกำลังมีข้อพิพาท ไม่ได้หมายความว่าจะต้องนำไปสู่ความรุนแรง และความจริงที่ว่าความรุนแรงเกิดขึ้นเป็นความล้มเหลวทางการทูต และอาจมีความซับซ้อนเมื่อความเป็นผู้นำมีความอ่อนแอ นายบาลากริชนันกล่าวว่า ทางแก้คือให้ประเทศต่างๆ ดูแลสังคมของตนเองก่อน ซึ่งเป็นประเด็นที่เขามักจะเน้นย้ำโดยกล่าวว่านโยบายต่างประเทศเริ่มต้นจากภายในประเทศ เขาตั้งข้อสังเกตว่าการต่อต้านโลกาภิวัตน์และการค้า รวมถึงการใช้อัตราภาษีและห่วงโซ่อุปทานเป็นเครื่องมือ มักมีต้นกำเนิดมาจากความไม่มั่นคงภายในและการขาดความเชื่อมั่นว่าระบบที่มีอยู่ เขาระบุว่า หากแนวรบภายในประเทศไม่สงบ […]

บังกลาเทศรำลึกครบรอบปีแรกของการโค่นล้มรัฐบาล

ธากา 6 ส.ค. – ชาวบังกลาเทศหลายพันคนรวมตัวกันในกรุงธากาในวันอังคารเพื่อร่วมรำลึกวาระครบรอบหนึ่งปีของการประท้วงครั้งใหญ่ที่โค่นล้มรัฐบาลของชีค ฮาสินา ในขณะที่รัฐบาลเฉพาะกาลเปิดเผยแผนการปฏิรูปประชาธิปไตยพร้อมกับการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้า กิจกรรมต่าง ๆ เช่น การชุมนุม คอนเสิร์ต และพิธีสวดมนต์จัดขึ้นในเมืองหลวง ขณะที่ประชาชนเฉลิมฉลองสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า “การปลดปล่อยครั้งที่สอง” ของประเทศ โดยกิจกรรมเหล่านี้ปิดท้ายด้วยการที่นายมูฮัมหมัด ยูนุส เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ซึ่งเป็นผู้นำเฉพาะกาลได้อ่าน “ปฏิญญาเดือนกรกฎาคม” ซึ่งต้องการให้การรับรองตามรัฐธรรมนูญ เหตุการณ์ที่นักศึกษาลุกฮือในปี 2024 เพื่อต่อต้านการกดขี่และความยากลำบากทางเศรษฐกิจและส่งผลให้นางฮาซินา ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ต้องก้าวลงจากตำแหน่งและเดินทางไปยังอินเดียเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม นายยูนุสกล่าวว่า ประชาชนชาวบังกลาเทศแสดงความปรารถนาว่าการลุกฮือของนักศึกษา-ประชาชนในปี 2024 จะได้รับการยอมรับจากรัฐและรัฐธรรมนูญอย่างเหมาะสม ปฏิญญาเดือนกรกฎาคมจะปรากฏในตารางเวลาของรัฐธรรมนูญที่ได้รับการปฏิรูปซึ่งจัดทำขึ้นโดยรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งระดับชาติครั้งต่อไป นายยูนุสกล่าวด้วยว่า เขาจะขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้งจัดการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2026 เขาระบุด้วยว่า จะต้องแน่ใจว่ารัฐบาลในอนาคตจะไม่สามารถกลายเป็นเผด็จการได้อีก รัฐจะต้องได้รับการจัดโครงสร้างใหม่ในลักษณะที่สัญญาณของการปกครองแบบเผด็จการใดๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะปรากฏที่ใด สามารถถูกกำจัดได้ทันทีในจุดนั้น พรรคชาตินิยมบังกลาเทศ ซึ่งนำโดยอดีตนายกรัฐมนตรีคาเลดา เซีย ที่เรียกร้องให้มีการเลือกตั้งก่อนสิ้นปี 2025 เพื่อป้องกันสุญญากาศทางการเมือง ยินดีกับแผนการจัดการเลือกต้ังในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ในขณะที่พรรคสันนิบาตอะวามีของฮาสินายังคงถูกสั่งระงับการดำเนินกิจกรรมแต่หลายคนเชื่อว่าควรอนุญาตให้พรรคเข้าร่วมในการเลือกต้ังได้ แม้ว่าผู้นำระดับสูงจะเผชิญกับการดำเนินคดีในข้อหาละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ถูกกล่าวหาในระหว่างการประท้วงเมื่อปีที่แล้ว.-813.-สำนักข่าวไทย

คนกัมพูชาหันไปใช้สินค้าในประเทศแทนสินค้าไทย

พนมเปญ 6 ส.ค. – ผู้บริโภคชาวกัมพูชา เปลี่ยนไปใช้บริการสินค้าท้องถิ่นมากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกแทนสินค้าไทย หลังเกิดการปะทะทางทหารบริเวณพรมแดนระหว่างกัมพูชากับไทย ผู้บริโภคชาวกัมพูชา กำลังหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและมองหาทางเลือกอื่นแทนสินค้าไทย นับตั้งแต่เกิดการปะทะระหว่างกองทัพทั้งสองประเทศตามแนวชายแดนที่เป็นข้อพิพาท เมื่อ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยในกรุงพนมเปญ ร้านกาแฟท้องถิ่นคึกคักไปด้วยลูกค้า ต่างจากร้านกาแฟไทยชื่อดังซึ่งเคยเป็นที่นิยมของชาวกัมพูชาในเมืองหลวง แต่ตอนนี้แทบไม่มีลูกค้าเข้าใช้บริการ ในช่วงหลายปีมานี้ สินค้าแบรนด์ไทยขยายตัวอย่างรวดเร็วในกัมพูชา โดยมีสถานีบริการน้ำมันกว่า 180 แห่ง, ร้านกาแฟกว่า 250 แห่ง ร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารกว่า 100 แห่งที่บริษัทไทยเป็นเจ้าของ ทั้งหมดนี้ล้วนพบว่าจำนวนผู้บริโภคลดลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ผู้บริโภคชาวกัมพูชาหลายคนบอกว่า พวกเขาเริ่มหันมาอุดหนุนสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศมากขึ้น จากปัญหาความขัดแย้งบริเวณชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย หลายคนบอกว่าตอนนี้ไม่อยากอุดหนุนสินค้าไทย อยากใช้ของกัมพูชามากกว่า และหวังว่าสินค้ากัมพูชาจะเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้น ส่วนผู้ค้าปลีกและผู้นำเข้าสินค้าในท้องถิ่นบอกว่า พวกเขารู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคเช่นกัน พนักงานซูเปอร์มาร์เก็ตรายหนึ่งบอกว่า เมื่อก่อนลูกค้ามองหาสินค้าไทย แต่ตอนนี้พวกเขาเริ่มมองหาสินค้ากัมพูชาและสนับสนุนสินค้ากัมพูชามากขึ้น ร้านค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งบอกว่า จะปรับเปลี่ยนการจำหน่ายสินค้าเพื่อสนับสนุนสินค้าแบรนด์ท้องถิ่นให้มากขึ้น หลังจากการประชุมนัดพิเศษที่มีนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำมาเลเซียเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นเมื่อ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา กัมพูชาและไทยตกลงที่จะหยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไขมีผลบังคับใช้ในเวลาหลังเที่ยงคืนวันดังกล่าว ยุติการปะทะกันนาน 5 วัน.-815.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 665