“น้องเทนนิส”แก้บนไข่ต้ม 1,200 ฟอง หลวงพ่อพระพุทธโสธร

ฉะเชิงเทรา 12 ส.ค. – “น้องเทนนิส” แก้บนไข่ต้ม 1,200 ฟอง หลวงพ่อพระพุทธโสธร จ.ฉะเชิงเทรา หลังคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์เทควันโดโอลิมปิกเกมส์ “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ฮีโร่เหรียญทองประวัติศาสตร์เทควันโดโอลิมปิกเกมส์ 2020 รุ่น 49 กก.พร้อมคุณพ่อ สิริชัย ได้นำไข่ต้ม 1,200 ฟอง ไปถวายแก้บนหลวงพ่อพระพุทธโสธร ที่วัดโสธรวรารามวรวิหารจ.ฉะเชิงเทรา ที่ได้บนเอาไว้ ก่อนเดินทางไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น.-สำนักข่าวไทย

”สมเด็จธงชัย” มอบชื่อ “ชัชชัย” แปลว่ามีชัยชนะที่มั่นคง ให้โค้ชเช

“โค้ชเช” หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทยชาวเกาหลีใต้ เข้ากราบนมัสการ สมเด็จธงชัย ที่วัดไตรมิตรฯ เพื่อขอใช้ชื่อไทยที่สมเด็จธงชัย มอบชื่ออันเป็นมงคลนามว่า “ชัชชัย” แปลว่า “มีชัยชนะที่มั่นคง” ให้กับโค้ชเช

“ศิวกร”มอบถังออกซิเจนแก่ มูลนิธิมาดามแป้ง สู้วิกฤตโควิด-19

กรุงเทพฯ  11 ส.ค.64- “ศิวกร จักขุประสาท” นักฟุตบอลสโมสรการท่าเรือ เอฟ.ซี. พร้อมด้วยครอบครัวจักขุประสาทส่งมอบถังออกซิเจนจำนวน 5 ถัง เพื่อใช้ในศูนย์พักคอยช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 แก่มูลนิธิมาดามแป้ง โดย “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ หลังสูญเสียคุณยายจากไวรัสโควิด-19 ในช่วงสถานการณ์ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย “กัปตันกลิ้ง” ศิวกร จักขุประสาท เผยถึงความรู้สึกกับการบริจาคในครั้งนี้ว่า “ปฏิเสธไม่ได้ว่าโควิด-19 ระบาดไปทุกพื้นที่จนเป็นเรื่องใกล้ตัวเรา กระทั่งต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา อาม่าของผมได้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 การบริจาคในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการทำบุญให้อาม่าแล้ว ยังเป็นการได้ร่วมช่วยชีวิตผู้ติดเชื้อโควิด-19 อีกด้วย เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้เห็นว่า ถังออกซิเจนนั้นจำเป็นจริงๆ ผมขอเป็นกำลังใจให้คนไทยทุกคนผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกันนะครับ” ด้าน “มาดามแป้ง” ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟ.ซี. ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิมาดามแป้ง กล่าวว่า “ตอนนี้เราได้สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์พักคอยรองรับผู้ป่วย 4 มุมเมืองอยู่ ทั้งบุคลากรทางการแพทย์และอุปกรณ์จำเป็นเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่จะช่วยเหลือผู้ป่วยในยามวิกฤต ความตั้งใจดีครั้งนี้จะเป็นกุศลครั้งใหญ่ที่ช่วยเหลือผู้คนที่กำลังเดือดร้อนอีกมากมาย” ผู้สนใจสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการให้ สามารถบริจาคและสมทบทุนได้ที่บัญชี ธนาคารกสิกรไทย บัญชีเลขที่092-2-61340-0 ชื่อบัญชี มูลนิธิมาดามแป้ง เพื่อโครงการสร้างสังคมแห่งการให้ หรือร่วมสมัครเป็นทีมอาสากล้าใหม่กับเราได้ที่ http://bitly.ws/dsfM-สำนักข่าวไทย.

“สุธี-สาคร” หวังสร้างผลงาน ทิ้งทวน หนสุดท้าย “พาราลิมปิกเกมส์”

นครราชสีมา 11 ส.ค.62- ทีมวีลแชร์เทนนิสทีมชาติไทย ที่มีนักกีฬาได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน “พาราลิมปิกเกมส์2020” จำนวน 3 คน ประกอบด้วย สุธี คลองรั้ว (ชายเดี่ยว) บรรจบ สุวรรณ (ชายเดี่ยว) และ สาคร ขันทะสิทธ์ (หญิงเดี่ยว) ทั้งหมดเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ จ.นครราชสีมา “สุธี คลองรั้ว” นักวีลแชร์เทนนิสทีมชาติไทย ประสบการณ์สูงที่ผ่านพาราลิมปิกเกมส์มาแล้วถึง 4 สมัย เปิดเผยถึงความพร้อมของตนเองว่า ในเวลานี้สภาพร่างกายรวมถึงสภาพจิตใจของตนเองถือว่าพร้อมแบบร้อยเปอร์เซ็นแล้ว ได้มีโอกาสเก็บตัวอย่างต่อเนื่องเต็มที่มากว่า 2 ปี และคิดว่าตัวเองพร้อมสำหรับพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งนี้ ซึ่งน่าจะเป็นสุดท้ายของตัวเองแล้ว” “ส่วนเป้าหมายในพาราลิมปิกเกมส์ในครั้งนี้ผมค่อนข้างตั้งใจ แต่ไม่ได้ตั้งเป้าหมายอะไรสูง แต่ก็หวังจะสามารถทำผลงานให้ดีกว่าครั้งที่แล้ว นั้นคือผ่านเข้าสู่รอบสองให้ได้เป็นอย่างน้อย เพราะในการแข่งขันระดับพาราลิมปิกเกมส์ต้องยอมรับว่าทุกคนถือเป็นนักกีฬาที่มีความสามารถสูง แพ้ชนะกันได้หมด ซึ่งตนเองหวังจะไม่เจอมืออันดับโลกที่เป็นตัวเต็งในรอบแรก ก็จะทำให้เรามีโอกาสทำผลงานผ่านเข้ารอบต่อได้ง่ายขึ้น” ขณะที่ บรรจบ สุวรรณ นักวีลแชร์เทนนิสทีมชาติไทย เผยว่า นี่เป็นพาราลิมเกมส์ครั้งแรกในชีวิต ทำให้ไม่ได้ตั้งเป้าหมาย หวังเพียงแค่ว่าจะไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด ยอมรับเลยว่าตื่นเต้นมากๆ เพราะพาราลิมปิกเกมส์เป็นแหล่งร่วมของนักกีฬาฝีมือดีแถวหน้าของโลก เลยไม่อยากตั้งความหวังให้กดดันตัวเองจนมากเกินไป แต่ก็จะทำหน้าที่ของตนเองอย่างสุดความสามารถในฐานะตัวแทนคนไทย ด้าน สาคร ขันทะสิทธ์ นักวีลแชร์เทนนิสหญิงทีมชาติไทย ที่ผ่านมาพาราลิมปิกเกมส์มาถึง 5 สมัย นับตั้งแต่ปี 2000 ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย กล่าวว่า จริงๆแล้วนี่คงเป็นพาราลิมปิกเกมส์ครั้งสุดท้ายแล้ว ทำให้ตนเองหวังที่จะทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด เหมือนกลับพาราลิมปิกเกมส์หนแรกในปี 2000 ที่เคยเข้าไปถึงรอบ 8 คนสุดท้ายมาแล้ว ทำให้ตนก็หวังว่าจะใช้ประสบการณ์จาก 5 ครั้งที่ผ่านมาเพื่อผลงานในพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งสุดท้ายอย่างเต็มที่ “อย่างไรก็ดีในฐานะตัวแทนนักกีฬาวีลแชร์เทนนิส พวกเราอยากขอบคุณ คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทยและคุณจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ที่ดูแลและสนับสนุนเราในทุกด้านเป็นอย่างดีตลอดมา ส่งผลให้พวกเราสามารถทำผลงานคว้าโควต้าไปเข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ได้อีกครั้ง สุดท้ายอยากให้แฟนกีฬาชาวไทยช่วยเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยไม่ใช่เฉพาะกีฬาวีลแชร์เทนนิส แต่รวมถึงนักกีฬาทุกประเภทด้วย และพวกเราจะทำหน้าที่ตัวแทนคนไทยในพาราลิมปิกเกมส์ครั้งนี้อย่างเต็มที่เช่นกัน” สาคร กล่าว สำหรับทีมวีลแชร์เทนนิสทีมชาติไทย จะเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ในวันที่ 17 สิงหาคม 2564 ตามเวลาประเทศไทย

ช้างศึก U23 ร่วมสาย มาเลเซีย, สปป.ลาว, มองโกเลีย คัดชิงแชมป์เอเชีย 2022 ตามเดิม

มาเลเซีย 11 ส.ค.64-สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือเอเอฟซี จัดพิธี จับสลากแบ่งสายการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2022 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก ครั้งใหม่ ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่เกาหลีเหนือ ประกาศถอนทีม ผลการจับสลาก แบ่งสายมีดังนี้ กลุ่มจี : ออสเตรเลีย, จีน, อินโดนีเซีย, บรูไน  กลุ่มเอช : เกาหลีใต้, สิงคโปร์, ติมอร์-เลสเต, ฟิลิปปินส์  กลุ่มไอ : เวียดนาม, เมียนมา, ไต้หวัน กลุ่มเจ : ไทย, มาเลเซีย, สปป.ลาว, มองโกเลีย  กลุ่มเค : ญี่ปุ่น,  ฮ่องกง, กัมพูชา สำหรับการแข่งขันรอบคัดเลือกจะแข่งขัน ระหว่างที่ 23-31 ตุลาคม 2564 โดยจะหาทีมแชมป์กลุ่ม 11 กลุ่ม พร้อมด้วยรองแชมป์กลุ่มที่ดีที่สุด 4 จาก 11 กลุ่ม ผ่านเข้ารอบสุดท้ายไปแข่งขันที่ประเทศ อุซเบกิสถาน โดยการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย จะจัดขึ้นที่ประเทศอุซเบกิสถาน ระหว่างวันที่1-19 มิถุนายน 2565 โปรแกรมการแข่งขันของทีมชาติไทย ในรอบคัดเลือก จะแข่งขันกันที่ประเทศมองโกเลีย  วันที่ 27 ตุลาคม 2564 – ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติมองโกเลีย วันที่ 29 ตุลาคม 2564 – สปป.ลาว พบ ทีมชาติไทย วันที่ 31 ตุลาคม 2564 – ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติมาเลเซีย ส่วนเรื่องเวลาที่ทำการแข่งขัน และสนามแข่งขันจะมีการแจ้งให้ทราบในภายหลัง

สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ จัดพิธีเทวาภิเษก ปลุกเสกเหรียญพิชิตชัยฟุตซอลโลก

พิจิตร 11 ส.ค.64- สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ ทำพิธีเทวาภิเษก เหรียญพิชิตชัยฟุตซอลเวิลด์คัพ และเหรียญช้างศึกพิชิตชัย จำนวน 1,999 เหรียญ เป็นศิริมงคล นำโชคนำชัย ประสบความสำเร็จ แคล้วคลาด ณ วิหารหลวงพ่อเงิน วัดหิรัญญาราม(วัดบางคลาน) อ.โพธิ์ทะเล จ.พิจิตร โดยมี พระครูพิสุทธิวรากร มีเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม(วัดบางคลาน) ทำพิธีให้ พร้อมด้วย พระอธิการเพิ่มศักดิ์ พลปุณโณ(หลวงพ่อเค) เจ้าอาวาสวัดน้ำโจนเหนือ อ.เมือง จ.พิจิตร ซึ่ง วันกล้า ขวัญแก้ว นายกสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ พร้อมด้วย “บิ๊กสุ”สุทิน บัวตูม ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ฯ ผู้จัดการทีมฟุตซอลชาติไทยชุดสู้ศึกฟุตซอลโลก2021ที่ลิทัวเนีย พร้อมกรรมการสมาคมฯร่วมทำพิธี ศ.วิชัย สิทธิรัตน์ ศิลปินแห่งชาติผู้ออกแบบเหรียญ กล่าวถึงที่มาของเหรียญพิชิตชัย ว่า จะไปโอลิมปิกอย่างไร จึงนึกถึงประเทศญี่ปุ่น ที่จะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกเกมส์ 2020 นึกถึงดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น และเป็นแหล่งพลังงานของสิ่งมีชีวิตทั้งโลก ต่อด้วยนึกถึงประเทศไทย ที่มีคนไทยทุกภาคที่ร่วมใจกันมาให้กำลังใจนักกีฬาและนำคบเพลิงให้เห็นว่าคนไทยจับคบเพลิงร่วมกันในการร่วมมือให้กำลังใจนักกีฬาไทยไปสู่โอลิมปิก ส่วนอีกด้านหนึ่งนึกถึง “ช้าง” ที่เป็นสัตว์ที่มีคุณูปการต่อประเทศไทยมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในเรื่องการออกรบ เปรียบกับนักกีฬาที่ไปออกรบอย่างสันติในการแข่งขันกีฬา ชื่อเหรียญพิชิตชัยมาจากการที่สมาคมฯตั้งขึ้นมา แสดงให้เห็นว่านักกีฬาไทยจะไปสู่ชัยชนะ มีพระอาทิตย์ทรงกลด สื่อถึงเทวดาที่มาร่วมอวยพรในโอกาสที่สร้างเหรียญนี้ขึ้นมา ส่วนเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 ซม.และหนา 5 มม.หมายถึงขันธ์ 5 รวมกันแล็วเป็น 10 คือ เต็ม 10 เหรียญพิชิตชัยฟุตซอลเวิลด์คัพ และเหรียญช้างศึกพิชิตชัย จำนวน 1,999 เหรียญ แบ่งเป็น เหรียญพิชิตชัยฟุตซอลเวิลด์คัพ 999 เหรียญ มีรูป 4 มือชูคบเพลิงบ่งบอกถึงสัญลักษณ์ 4 ภูมิภาคของประเทศไทยสมัครสมานร่วมมือกันส่งแรงใจให้ทีมฟุตซอลไทยและทีมกีฬาไทยประสบความสำเร็จในศึกฟุตซอลโลกประดับรูปถ้วยฟุตซอลโลกพร้อมข้อความ รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย ลิทัวเนีย2021 ฟุตซอล เวิล์ดคัพ  ส่วนอีก 1000 เหรียญ เป็น เหรียญช้างศึกพิชิตชัย ที่มีสัญลักษณ์รูปช้างพร้อมข้อความ “พิชิตชัย”ที่ทำพิธีจัดพิธีเทวาภิเษกเรียบร้อย โดยการจัดทำเหรียญในครั้งนี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ประกอบด้วย 1.มอบให้กับสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทยเพื่อนำไปใช้สาธารณประโยชน์ , 2.มอบให้สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์นำไปใช้สาธารณประโยชน์ , 3.มอบให้กับโรงเรียนกีฬาเพื่อนำไปใช้ซื้ออุปกรณ์กีฬาให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลน , 4.มอบให้เป็นกำลังใจกับทีมฟุตซอลทีมชาติไทยเพื่อสู้ศึกฟุตซอลโลก2021 และ 5.มอบให้กับ วัดหิรัญญาราม(วัดบางคลาน) อ.โพธิ์ทะเล จ.พิจิตร เพื่อนำไปใช้ในสาธารณกุศลต่อไป ด้าน สุทิน บัวตูม ผู้จัดการทีมฟุตซอลทีมชาติไทย เผยว่า ในนามของสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์และผู้จัดการทีมฟุตซอลชาติไทยเราทำเรื่องนี้่ขึ้นมาเพื่อสาธารณกุศล ทำเพื่อประโยชน์กับสังคมอย่างแท้จริง ไม่ใช่การทำขึ้นมาเพื่อพุทธพาณิชย์ ซึ่งผมก็มีแนวคิดว่า ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ก็ได้ปรึกษากับท่านพระครูพิสุทธิวรากร อาวาสวัดหิรัญญารามหรือวัดบางคลาน จ.พิจิตร เพื่อทำเป็นภาระกิจพิเศษขึ้นมาสำหรับการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามที่ จ.พิจิตร เพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19ในเวลานี้ด้วย พร้อมกับนำให้กับนักฟุตซอลทีมชาติไทยเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้เล่นและทีมงานฟุตซอลไทยทุกคนในการไปสู้ศึกเวิล์ดคัพ2021ที่ลิทัวเนีย อีกทั้งจะเตรียมนำไปมอบให้กับชาติที่เป็นคู่แข่งของทีมฟุตซอลไทยที่ลิทัวเนีย เพื่อเป็นการแสดงถึงสัญลัษณ์และสร้างความประทับใจให้กับนานาชาตินอกสนามแข่งขันด้วย-สำนักข่าวไทย

“ทัพลูกเด้งพาราไทย” ลั่นเต็มถังพร้อมลุยพาราลิมปิกเกมส์

กรุงเทพฯ 11 ส.ค.64-ความเคลื่อนไหวของทีมเทเบิลเทนนิสคนพิการทีมชาติไทย คว้าโควต้าเข้าร่วมการแข่งขันได้ถึง12 คน ได้สิทธิ์ลงชิงชัยถึง 17 รายการ ซึ่งทั้งหมดเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาจ.นครราชสีมา เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนลุยศึก​ “พาราลิมปิกเกมส์ 2020” อย่างเต็มที่ “รุ่งโรจน์ ไทยนิยม” นักตบลูกเด้งพาราหนุ่มทีมชาติไทย ดีกรีเหรียญทองพาราลิมปิกเกมส์ 2012 และ เหรียญทองแดงปี 2016 เปิดเผยถึงความพร้อมของตนเองว่า “ที่ผ่านมาได้มีการเก็บตัวฝึกซ้อม และแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนสะสมมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะติดปัญหาบ้างเล็กน้อยในช่วงสถานการณ์โควิด แต่เรายังสามารถฝึกซ้อมได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ ไมตรี คงเรือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมเทเบิลเทนนิสทีมชาติไทย เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมของทีมเทเบิลเทนนิสพาราทีมชาติไทย ชุดเตรียมลุยศึกพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ต้องบอกว่าเป็นเรื่องน่ายินดีมากเพราะในครั้งนี้เรามีนักกีฬากีฬาที่ได้โควต้าเข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ถึง 12 คน และได้ลงแข่งขันถึง 17 รายการ ส่วนความพร้อมของนักกีฬาต้องบอกว่าเราพร้อมแบบเต็มร้อยเปอร์เซ็น เพราะที่ผ่านมาเรามีการเก็บตัวและออกไปแข่งขันมาอย่างต่อเนื่อง4 ปีเต็ม ทำให้ทุกลงตัวและพร้อมกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาก็ว่าได้ “ส่วนเป้าหมาย เราไม่อยากกดดันนักกีฬาว่าเราจะต้องกี่เหรียญทอง แต่สำหรับผมในฐานะหัวหน้าผู้ฝึกสอนค่อนข้ามีความมั่นใจว่าเรามีโอกาสเข้ารอบชิงฯอย่างน้อย 2 รายการ โดยเฉพาะในประเภทเดี่ยว คลาส TT 6 ของ รุ่งโรจน์ และประเภททีม คลาส TT 3 ที่มี อนุรักษ์ ลาววงษ์ กับ ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น ร่วมถึง คลาส TT6 – TT7 ที่มี เฉลิมพงษ์​ พันภู่กับ รุ่งโรจน์ ไทยนิยม ซึ่งน่าจะมีโอกาสเข้าไปลุ้นเหรียญทองมากที่สุด แต่อย่างไรดีต้องหากมองในภาพรวมในรายการอื่นก็มีโอกาสลุ้นเหรียญเช่นกันแต่เราต้องดูสายแข่งขันและผลการประกบคู่ของแต่ละรายการด้วยว่าเป็นอย่างไร เราจะสามารถคาดเดาได้มากขึ้น” สำหรับรายการชื่อนักกีฬาเทเบิลเทนนิสคนพิการทีมชาติไทย ทั้ง 12 คน มีดังนี้ ประเภทยืน 4 คน รุ่งโรจน์ ไทยนิยม(คลาส TT6), เฉลิมพงษ์ พันภู่ (คลาส TT7), พิสิษฐ์​ หวังผลพัฒนสิริ (คลาส TT 8), คมกฤษณ์ จริตสัจ (คลาส TT 8) และประเภทนั่ง 8 คน อนุรักษ์ ลาววงษ์ (คลาส TT3), ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น (คลาส TT3), วันชัย ชัยวุฒิ (คลาส TT4), ถิรายุ เชื้อวงษ์ (คลาส TT2), ชิลชิตพยัค บุตรวรรณสิริณา (คลาสTT2), ดารารัตน์ อาสายุทธ์ (คลาส TT3), วิจิตราใจอ่อน ( คลาส TT4), ปานวาด ศรีงาม (คลาส TT5) โดยทั้งหมดจะเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 17 สิงหาคม2564 โดยทัพนักกีฬาพาราทีมชาติไทย เข้าร่วมพาราลิมปิกเกมส์ ระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม ถึง 5 กันยายน นี้ ทั้งหมด 75 คนจาก 14 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย เทควันโด, ยิงธนู, แบดมินตัน, วีลแชร์ฟันดาบ, ยกน้ำหนัก, ว่ายน้ำ, เทเบิลเทนนิส, กรีฑา (ลู่-ลาน,วีลแชร์เรซซิ่ง), จักรยาน, ยิงปืน, วีลแชร์เทนนิส, บอคเซีย, ฟุตบอลตาบอด และยูโด ซึ่งถือเป็นการแข่งขันพาราลิมปิกที่มีนักกีฬาไทยผ่านเข้าไปร่วมแข่งขันจำนวนมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา-สำนักข่าวไทย

ธงกีฬาโอลิมปิก เดินทางถึงกรุงปารีส ‘คุณหญิงปัทมา’ ไปเชียร์พาราลิมปิกต่อ

10 ส.ค.64-คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซีเมมเบอร์) กล่าวว่า ภายหลังจากมหกรรมกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020 เสร็จส้ินการแข่งขันไปแล้ว ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 ที่เข้มงวด ทางโยชิฮิเดะ ซูกะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้แสดงความขอบคุณทุก ๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ที่ร่วมแรงร่วมใจทำให้การชิงชัยในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ขณะเดียวกัน ธงกีฬาโอลิมปิก ได้เดินทางจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ถึงกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แล้ว โดยอานน์ อีดัลโก นายกเทศมนตรีกรุงปารีส นำธงโอลิมปิกดังกล่าว พร้อมด้วยคณะผู้แทน ลงจากเครื่องบินที่สนามบินชาร์ลส์ เดอ โกล และนำธงดังกล่าว ไปเก็บไว้ที่ศาลากลางกรุงปารีส โดย โอลิมปิก ปารีส 2024 จะมีขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งเจ้าภาพ จะมีเวลาเตรียมการน้อยกว่าวงรอบโอลิมปิก ทั่วไป เนื่องจาก โอลิมปิก โตเกียว 2020 ถูกเลื่อนจากปี2020 มาแข่งขันในปี 2021 จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไอโอซีเมมเบอร์หญิงไทย กล่าวต่อว่า ตนยังคงเดินหน้าสร้างความสัมพันธ์กับนานาประเทศ เพื่อเชื่อมโยงมาสู่การพัฒนากีฬาของไทย อย่างต่อเนื่อง โดยหลังจบโอลิมปิก โตเกียว 2020 ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกีฬา จะกลับมาที่จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย ในวันที่ 13 สิงหาคม ก่อน เพื่อร่วมเปิดโครงการลานกีฬานำร่อง 25 จังหวัด สำหรับโครงการนี้ เป็นการดำเนินงานของ คณะอนุกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกีฬา ในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่มี ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เป็นประธาน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชน ได้ออกกำลังกายให้มากที่สุด อันเป็นการใช้กีฬาสร้างคนคนสร้างชาติ และจากนั้น การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) โดย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกกท. จะรับไม้ดำเนินการโครงการลานกีฬานี้ต่อไป  จากนั้น จะเดินทางต่อไปยังประเทศตุรกี ตามคำเชิญของ ดร.อู เออร์เดนเนอร์ ไอโอซีเมมเบอร์ และประธานโอลิมปิกตุรกี ฮุสเซน อัล มุสซาลาม ประธานสหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติ (ฟีน่า) ให้ร่วมเปิดการแข่งขันว่ายน้ำข้ามช่องแคบบอสฟอรัสระหว่างทวีปยุโรปกับเอเชีย Bosphorus Cross-Continental Swimming Race ต่อเนื่องจากนั้น มุ่งหน้าสู่กรุงโดฮาประเทศกาตาร์ ตามคำเชิญของ ชีค โจแอน บิน ฮามัส บิน คาร์ลิฟา อัลทานี เจ้าชายกาตาร์ เพื่อหารือและรับทราบความคืบหน้า การเตรียมการจัดฟุตบอลโลก เวิลด์ คัพ 2022 รอบสุดท้าย และเดินทางไปตามคำเชิญของประธานโอลิมปิกยูเออี พูดคุยถึงการเตรียมการจัดว่ายน้ำสระสั้น 25 เมตรชิงแชมป์โลก ที่จะมีขึ้นที่ยูเออี เดือนธันวาคม และยังจะมีการพูดคุยความร่วมมือด้านกีฬาระหว่าง ยูเออี และ ไทย ควบคู่กันไปด้วย “ปิดท้าย จะเดินทางกลับไปยังประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง เพื่อร่วมให้กำลังใจ นักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย ในมหกรรมกีฬาพาราลิมปิก โตเกียว 2020 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม-5 กันยายนนี้ และเชียร์นักแบดมินตันไทย หนึ่งในกีฬาความหวังของไทย-สำนักข่าวไทย.

‘มูลนิธิมาดามแป้ง’ ผนึกกำลังพันธมิตรเอกชน หนุนศูนย์พักคอย 4 มุมเมือง

กรุงเทพฯ- 10 ส.ค.64‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ ซีอีโอ บมจ. เมืองไทยประกันภัย และประธานกรรมการมูลนิธิมาดามแป้ง ในฐานะผู้สนับสนุนหลักการจัดตั้งศูนย์ นำคณะกรรมการมูลนิธิฯ เข้าตรวจเยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ ที่ วัดกำแพง (บางแวก) เขตภาษีเจริญ โดยมีผู้อำนวยการเขตภาษีเจริญ ประธานกรรมการโรงพยาบาลมิตรประชา ร่วมพูดคุยให้ข้อมูลการบริการประชาชนและระบบการทำงานต่าง ๆ เพื่อสานต่อความช่วยเหลือในระยะต่อไปแก่ศูนย์ฯ สามารถดูแลผู้ป่วยได้แบบ360 องศา โดยได้ให้กำลังใจผู้ป่วยผ่านระบบ INTERCOM ในการนี้ มูลนิธิมาดามแป้ง ยังได้พันธมิตรเอกชน เข้าร่วมสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์พักคอยทั้ง 4 มุมเมืองนี้เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้มากยิ่งขึ้น และสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานรัฐอีกทาง โดยมีรายนามดังนี้ บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน), อเมริกัน อีเกิล เอาท์ฟิตเตอร์ส (American Eagle Outfitters), บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน), บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน), บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่จำกัด (มหาชน) (ฟาร์มเฮ้าส์), บริษัท ล็อคตั้น วัฒนา อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ไทย วี พีคอร์ปอเรชั่น จำกัด, บริษัท พี แลนด์สเคป จำกัด, บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน), สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ รุ่น 47 และ บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด รวมถึงประชาชนจำนวนมากที่ร่วมสนับสนุนให้แก่มูลนิธิฯ อย่างต่อเนื่อง ด้าน ‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ กล่าวว่า “วันนี้พวกเราในฐานะมูลนิธิมาดามแป้ง มองว่าด้วยหนึ่งแรงช่วยเหลือคงจะน้อยนิดสำหรับความเดือดร้อนที่มีอยู่ในทุกหย่อมหญ้า การที่เราได้รับกำลังใจและแรงสนับสนุนจากพันธมิตรเข้ามาอย่างต่อเนื่อง บางท่านไม่ได้ให้แค่เงินสนับสนุน แต่ยังช่วยส่งทรัพยากรที่มี มาร่วมด้วยช่วยกัน ทั้งรถรับ-ส่ง, อาหาร, น้ำดื่ม ทำให้เราได้เห็นภาพความร่วมมือของภาคเอกชนที่ร่วมใจช่วยคนไทยในการต่อสู้วิกฤต และขอขอบคุณเงินทุกบาทของผู้ที่มีจิตศรัทธาที่หลั่งไหลมาตลอดตั้งแต่ช่วงที่เราเตรียมความพร้อม และเริ่มเปิด CI ทั้ง 4 ศูนย์ฯ” โดยขณะนี้ ศูนย์พักคอยวัดกำแพง (บางแวก) เขตภาษีเจริญ โดยโรงพยาบาลมิตรประชา มีขนาด 100 เตียง ซึ่งกำลังจะเพิ่มจำนวนเตียงรองรับผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองอ่อน ที่ลงทะเบียนผ่านระบบคัดกรองเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าจะรับผู้ป่วยได้เต็มจำนวนเตียงภายในสัปดาห์นี้-สำนักข่าวไทย

“ยกเหล็กพาราไทย” แอบลุ้น 1 ใน 3 มีเหรียญติดมือ ในพาราลิมปิก

10 ส.ค.64-  “ทีมยกน้ำหนักคนพิการทีมชาตืไทย” ที่สามารถคว้าสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน “พาราลิมปิกเกมส์ 2020” ได้ทั้งสิน 3 คน ประกอบด้วย ณรงค์​ แค​สนั่น (รุ่น 65 กก.ชาย), ทองสา มารศรี (รุ่น 72 กก.ชาย) และ สมควร​ อ​นนท์​ (รุ่น 61 กก. หญิง) ซึ่งเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่ สนามราชมังคลากีฬา อยู่ในเวลานี้ เพื่อเตรียมความพร้อมล่าเหรียญรางวัล ด้าน “โค้ชวุฒิ” วุฒิชัย สุขเสวตร หัวหน้าผู้ฝึกสอนกีฬายกน้ำหนักคนพิการทีมชาติไทย เผยว่า ที่ผ่านมาเราได้มีการเตรียมความพร้อมมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาเกือบ 4 ปี และที่สำคัญกว่าเราจะควอลิฟายผ่านมาได้ต้องบอกมันเป็นอะไรที่ยากลำบากมาก ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดขอโควิด-19 ทั่วโลกส่วนเรื่องความพร้อมต้องบอกว่าทีมยกน้ำหนักเราค่อนข้างมีความพร้อมกว่า 90 เปอร์เซ็นแล้ว ส่วนอีก 10 เปอร์เซ็น จะเป็นการใส่เรื่องเทคนิคต่างๆให้กับนักกีฬาเท่านั้น และไปเต็มที่ในวันแข่งขันอย่างแน่นอน เป้าหมายของเราแน่นอน เราหวังว่าอยากทำผลงานออกมาให้ดีที่สุดโดยการก้าวขึ้นไปคว้าเหรียญรางวัลมาครองให้ได้” “ส่วนรุ่นความหวังต้องบอกว่าทั้ง 3 มีโอกาสติดเหรียญรางวัลทั้งหมด แต่อย่างไรก็ดีต้องไปดูกันที่น่างานอีกทีเพราะกีฬายกน้ำหนักมันต้องใช้การวางแผนรวมถึงการเรียกน้ำหนัก ทำให้เราคงบอกไม่ได้ว่าจะไปมีลุ้นที่รุ่นไหน” “อย่างไรก็ดีกว่าจะมีถึงวันนี้ต้องยอมรับว่าเราได้รับความอนุเคราะห์และสนับสนุนจากคณะกรรมการพาราลิมแห่งประเทศไทยในทุกด้าน ทำให้ที่ผ่านมาเราจึงสามารถฝึกซ้อมได้อย่างเต็มที่และต้องขอบคุณ คุณจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ที่ดูแลและห่วงใยเรามาโดยตลอด จนทำให้ทีมนักกีฬายกน้ำหนักคนพิการสามารถคว้าโควต้าไปพาราลิมปิกเกมส์ได้ถึง 3 คนเลยทีเดียว สุดท้ายขอให้แฟนกีฬาชาวไทยเป็นกำลังใจให้พวกเรานักกีฬายกน้ำหนักคนพิการทีมชาติไทย ในพาราลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ด้วย” หัวหน้าผู้สอนทีมยกเหล็กพาราไทยกล่าวทิ้งท้าย สำหรับทีมนักกีฬายกน้ำหนักพาราไทย เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 19 สิงหาคม 2564 ตามเวลาประเทศไทย-สำนักข่าวไทย

“สายสุนีย์” วัย 47 ปี กร้าวขอหยิบเหรียญทองพาราลิมปิก อีกครั้ง

10 ส.ค.64-ความเคลื่อนไหวของ “ทัพนักกีฬาพาราทีมชาติไทย” ที่กำลังเตรียมความพร้อมเดินหน้า การแข่งขันมหกรรมกีฬา พาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 16 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จะแข่งขันกันระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม ถึง 5 กันยายน 3564 โดยมีนักกีฬาพาราไทย ได้สิทธิ์เข้าร่วมชิงชัยทั้งหมด 75 คน จาก 14 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย เทควันโด, ยิงธนู, แบดมินตัน, วีลแชร์ฟันดาบ, ยกน้ำหนัก, ว่ายน้ำ, เทเบิลเทนนิส, กรีฑา (ลู่-ลาน,วีลแชร์เรซซิ่ง), จักรยาน, ยิงปืน, วีลแชร์เทนนิส, บอคเซีย, ฟุตบอลตาบอด และยูโด ซึ่งถือเป็นการแข่งขันพาราลิมปิกที่มีนักกีฬาไทยผ่านเข้าไปร่วมแข่งขันจำนวนมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ขณะที่ “แวว” สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบหญิงทีมชาติ วัย 47 ปี ดีกรีเหรียญทองพาราลิมปิกเกมส์ 2004 และ 2012 เปิดเผยถึงความพร้อมของตนเองก่อนเข้าร่วม พาราลิมปิกเกมส์ 2020 ว่า ต้องถือว่าในครั้งนี้เป็นการเก็บตัวฝึกซ้อมที่ยาวนานกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ฝึกซ้อมมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 4 ปีกว่าแล้ว ทำให้สภาพร่างกายหรือจิตใจต้องบอกว่าพร้อมเกินร้อยเปอร์เซ็นแล้ว ส่วนเรื่องความกังวลก็คงเป็นเรื่องประสบการณ์ที่แพ้ในโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่แล้วที่ บราซิล ซึ่งเกิดจากความตื่นเต้น ทำให้ต้องกลับมาแก้เรื่องการคุมอารมณ์ของตนเอง ว่าผ่านเข้าชิงแล้วเราจะนิ่งได้แค่ไหน แต่ก็คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรเมื่อการแข่งขัน” “ส่วนเป้าหมายในพาราลิมปิกเกมส์หนนี้ ต้องบอกว่าครั้งนี้คาดหวังเลยว่าเราจะต้องคว้าเหรียญทองมาครองให้ได้ส่วนพาราลิมปิกเกมส์หนนี้ยังไม่ใช่พาราลิมปิกหนสุดท้ายแน่นอน เพราะที่ผ่านมาตนเองตั้งเป้าหมายของตัวเองแล้วจะต้องไปแข่งพาราลิมปิกเกมส์ ปารีส ให้ได้อีกครั้ง ก็จะรีไทร์เลย เพราะด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้น” “สายสุนีย์” กล่าวต่ออีกว่า “ที่ผ่านมาต้องบอกรับว่าคณะกรรมการพาลิมปิกแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะคุณจุตินันท์ภิรมย์ภักดี ให้การสนับสนุนพวกเรามาเป็นอย่างดีมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำดื่มสิงห์ หรือ อุปกรณ์การฝึกซ้อมหรืออุปกรณ์การแข่งขันหากเราขาดเหลืออะไรท่านพร้อมที่ซับพอร์ตพวกเราอย่างเต็มที่ อีกทั้งที่ผ่านมาท่านยังคอยผลักดันเรื่องเงินรางวัลและเรื่องอื่นๆ ก็ดูแลเรามีเป็นอย่างดีมาโดยตลอด” “สุดท้าย “แวว ก็อยากขอกำลังใจจากพี่น้องแฟนกีฬาชาวไทยทุกคนให้ช่วยเป็นกำลังใจให้พวกเราในครั้งนี้ เพราะด้วยสถานการณ์โควิด ทำให้ไม่มีผู้ชมและแฟนๆคงให้กำลังใจเราที่ข้างสนามไม่ได้ แต่ก็ยังสามารถส่งกำลังใจให้พวกเราทางออนไลน์ เพื่อติดตามเป็นกำลังให้พวกเราด้วยนะคะ” สำหรับ “สายสุนีย์ จ๊ะนะ” ถือเป็นหนึ่งนักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบความหวังเหรียญทองของ “ทัพพาราลิมปิกทีมชาติไทย” โดยผ่านประสบการณ์ผ่านการลงแข่งขันในพาราลิมปิกเกมส์มาอย่างต่อเนื่องถึง 5 สมัยติดต่อกัน และครั้งนี้จะเป็นสมัยที่ 6 พร้อมเคยคว้าเหรียญรางวัลในพาราลิมปิกเกมส์ มาแล้วถึง 2 เหรียญทอง ประเภท ดาบเอเป้ คลาส บี ในปี2004 และ 2012 และอีก 2 เหรียญทองแดง ในประเภท ดาบฟอยล์ คลาส บี ในปี 2004 และ ดาบเอเป้ คลาสบี ในปี2008 โดยครั้งล่าสุด ปี 2016 ที่ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ก็คว้าเหรียญเงินมาครองได้ สำหรับ สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบสาวทีมชาติไทย จะออกเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 17 สิงหาคม2664-สำนักข่าวไทย

“สิงห์” ขอบคุณฮีโร่ สร้างรอยยิ้มให้คนไทยในโอลิมปิก 2020

กรุงเทพฯ 9 ส.ค.64-ตลอดระยะเวลาของการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2020 ที่ผ่านมา สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนสมาคมกีฬาต่างๆมาอย่างยาวนาน จัดแคมเปญผ่านคอนเทนต์ออนไลน์ ภายใต้ Concept “ขอบคุณที่สร้างรอยยิ้มให้คนไทย” ซึ่งได้ร่วมกับ Stadium TH เพื่อเป็นตัวแทนในการขอบคุณเหล่านักกีฬาในการสร้างความสุขและรอยยิ้มจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2020 ให้คนไทย ซึ่งมีทัพนักกีฬาไทยตบเท้าเข้าร่วมการแข่งขันกันหลายคน อาทิเช่น  “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโด, “แต้ว” สุดาพร สีสอนดี,  “สด” ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี นักกีฬามวยสากล , “เมย์” รัชนก อินทนนท์ นักกีฬาแบดมินตัน , “เหมียว” ปภังกร ธวัชธนกิจ นักกีฬากอล์ฟ และ “เอิน” ณภัสวรรณ หย่างไพบูลย์ นักกีฬายิงปืน เป็นต้น   ทาง สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ได้เล็งเห็นถึงการเสียสละ และความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ ของทัพนักกีฬาไทยที่เป็นตัวแทนในการต่อสู้ เพื่อสร้างรอยยิ้ม และความสุข ให้คนไทยได้ร่วมลุ้น ร่วมเชียร์ ซึ่งนับว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความหมายเป็นอย่างมากในสถานการณ์ปัจจุบันเช่นนี้  สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จึงอยากที่จะขอบคุณเหล่านักกีฬาเหล่านี้ ในการสร้างความสุข และเป็นพลังบวกให้กับคนไทยทุกคน และสิงห์ คอร์เปอเรชั่น พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างและสนับสนุนเหล่านักกีฬาเหล่านี้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการสร้างความสุขให้คนไทยตลอดไป  

1 60 61 62 63 64 88