ขานรับนโยบายรัฐ จัด “Thailand by UTMB” วิ่งเทรลบนดอยอินทนนท์

กกท. 18 พ.ย.-ก.ท่องเที่ยวและกีฬา ขานรับนโยบายรัฐ จัด “Thailand by UTMB” วิ่งเทรลสัมผัสธรรมชาติบนดอยอินทนนท์ 9-12 ธันวาคมนี้ หวังดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักวิ่งเทรลทั่วโลก กระตุ้นเศรษฐกิจ

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานงานแถลงข่าวการแข่งขัน Thailand By UTMB 2021 โดยมี นายสิรภพ ดวงสอดศรี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายโชติ ตราชูปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, Mr.Sebastien Bertrand ผู้แทน UTMBI, ผู้ว่าจังหวัดเชียงใหม่, Mr. Sheung-yuen LEE, Director of HKETO และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หัวหมาก กรุงเทพฯ


นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า “ที่ผ่านมาเราได้เห็นประโยชน์สูงสุดในด้านต่างๆ ของการนำกีฬามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ได้มีการกระจายรายได้สู่ชุมชนในทางที่ดีมาก โดยเฉพาะกีฬาที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ความสนใจ คือ สนาม Thailand by UTMB ถือว่าเป็นรายการแข่งขันที่สำคัญของประเทศไทย และเป็นอีกหนึ่งอีเวนท์ที่เราจะใช้ในการเปิดประเทศตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีประกาศเปิดประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่น ดึงดูดนักกีฬาและนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศให้เดินทางเข้ามาร่วมแข่งขัน ควบคู่ไปกับมาตรการทางด้านสาธารณสุขในการจัดการแข่งขันที่ทั้งโลกยอมรับ”

“กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตั้งเป้าหมายให้สนามวิ่งเทรลอย่าง Thailand by UTMB ยกระดับมาตรฐานเป็นอันดับ 1 ของวงการวิ่งเทรลในเอเชีย ในขณะเดียวกันได้ผลักดันให้เกิด World Series สนามที่ 2 ของประเทศไทย ในปี 2565 Amazean Jungle Trail อำเภอเบตง จังหวัดยะลา โดยนำศักยภาพพื้นที่ของอำเภอเบตง ความเป็น Amazon แห่งอาเซียน พหุวัฒนธรรมประเพณีมาต่อยอดผ่านการวิ่งเทรล และช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้”


ด้าน นายสิรภพ ดวงสอดศรี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า “ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ ศอ.บต. และจังหวัดยะลาได้เล็งเห็นประโยชน์ที่สามารถพัฒนาควบคู่ไปกับการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในด้านการท่องเที่ยว ที่เป็นเมืองต้นแบบท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ภายหลังสถานการณ์โรคระบาดติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) คลี่คลาย และเพื่อเป็นการเปิดเมืองเบตงและจูงใจให้นักท่องเที่ยวมาเยือนเมืองเบตงในอนาคตมากยิ่งขึ้น กระตุ้นเศรษฐกิจเมืองเบตงและจังหวัดชายแดนภาคใต้ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้

จึงได้เตรียมโครงการจัดการแข่งขัน “AMAZEAN JUNGLE TRAIL” โดยการนำศักยภาพพื้นที่ของอำเภอเบตง มีสภาพป่าทัศนียภาพที่สวยงาม และอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น Amazon แห่งอาเซียน พหุวัฒนธรรม อาหารพื้นเมืองที่มีชื่อเสียง มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย มาต่อยอดผ่านการแข่งขันวิ่งในภูมิประเทศ (Trail Running) ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 7-8 พฤษภาคม 2565 สนามกีฬาเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา มีระยะทางแข่งขัน 3 ระยะ ดังนี้ ระยะ เบตง 100, ระยะ เบตง 50, ระยะ เปรัก 25 โดยมุ่งหวังการแข่งขัน “AMAZEAN JUNGLE TRAIL” ยกระดับการแข่งขันให้เป็น 1 ในรายการ World Series”

ขณะที่ นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กล่าว”การแข่งขัน Thailand by UTMB 2021 ในปีนี้จะบูรณาการการจัดแข่งขันระหว่างกีฬา ดนตรี วัฒนธรรม นาฏศิลป หัตถกรรม และธรรมชาติ เพื่อนำเสนออัตลักษณ์ของประเทศไทยเราสู่สายตาชาวโลก ให้มีคุณค่าและสามารถนำไปสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างภาคภูมิ นำมารวมไว้ในงาน Thailand by UTMB 2021 จะมุ่งมั่นให้ Thailand by UTMB ยกระดับเป็น 1 ในโซนเอเชียของสนาม World Series โลก เป็นสนามที่นักกีฬาทั่วโลกเดินทางมาเก็บคะแนน รวมถึงอีลีทที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลกอีกด้วย”


ส่วน ดร.ก้องศักด ยอดมณี “เชื่อมั่นได้ว่า Thailand by UTMB จะเป็นบิ๊กอีเวนต์ที่ดี จะสร้างสีสันในมุมของกีฬา ที่ดึงเศรษฐกิจให้กลับมามั่นคงอีกครั้ง โดยผู้เข้าร่วมแข่งขัน Thailand by UTMB ขณะนี้รวมถึง 2,400 คน และมีอีลีทจากทั่วโลกที่สนใจ และเดินทางมาเก็บคะแนนถึง 30 คน จาก 12 ประเทศทั่วโลก เช่น ประเทศญี่ปุ่น, ฮ่องกง, United Kingdom, ใต้หวัน, จีน, สิงคโปร์, ออสเตเลีย, นิวซีแลนด์, อาร์เจนตินา, ฟิลิปปินส์, United States เป็นต้น ซึ่งเป็นการดีที่สนาม Thailand by UTMB จะเกิดสถิติที่ดี เนื่องจากในปีนี้เราได้เพิ่มเงินรางวัลในการแข่งขันที่รวมถึง 1 ล้านบาท ให้นักกีฬาฝีมือดีมาชิงชัยกัน

ในลักษณะของกีฬาวิ่งเทรลนั้น เป็นกีฬามวลชนที่ต้องรวมตัวกัน ฉะนั้นการจัดการเรื่องมาตรการสาธารณสุข และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ทางเราได้จัดการโดยยึดแนวทางแนวปฏิบัติด้านสาธารณสุขเพื่อการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 COVID Free Setting และปฏิบัติตามคู่มือการปฏิบัติตามมาตรการผ่อนปรนกิจการและกิจกรรมด้านการกีฬา ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

ในปี 2021 ได้พัฒนาการจัดแข่งขัน เพื่อการยกระดับสู่ความเป็นสนามชั้นนำในเอเชีย จึงจะเน้นพัฒนางานใน 4 ด้าน

  1. เงินรางวัล Elite และ Brand Ambassador
  2. สื่อคุณภาพเพื่อเพิ่มการประชาสัมพันธ์ทั่วโลก
  3. อัตลักษณ์การแข่งขันที่สอดแทรกความเป็นไทยลงธีมการแข่งขัน เพื่อให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้จดจำ
  4. เพิ่มกิจกรรมเพื่อยกระดับวงการวิ่งเทรลของประเทศ เช่น Road to by Thailand by UTMB ที่นำ Elite ชั้นนำของโลกมาเป็นเฮดโค้ชให้กับนักวิ่งเทรลบ้านเรา โปรแกรม Your race plan ที่จะให้นักวิ่งสนาม Thailand by UTMB ได้วางแผนการแข่งขันทั้งเรื่องเวลาการจบ โภชนาการ ซึ่งเราจะนำตรงนี้มาต่อยอดและพัฒนาเป็นต้นแบบกับสนามวิ่งอื่นๆ และด้วยวาระแห่งชาติขับเคลื่อนประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG Economy เราได้นำนโยบายสู่การปฏิบัติด้วยการ
  1. ลดการใช้พลาสติก เช่น ลดการใช้ขวดน้ำพลาสติก แก้วน้ำพลาสติก ทดแทนด้วยการใช้เครื่องกรองน้ำที่จุดบริการ เป็นต้น
  2. การกลับมาใช้ซ้ำ โดยการนำเสื้อที่ระลึก/ เสื้อฟินิชเชอร์ปีที่ผ่านมา นำมาผลิตตุ๊กตาเป็นของรางวัลแก่ผู้ชนะ
  3. การแยกขยะ และนำไปกำจัดอย่างถูกต้องและปลอดภัย เช่น กำจัดขยะพลาสติกโดยมอบให้อุทยานเพื่อใช้ประโยชน์ นำไปรีไซเคิ้ล, ขยะประเภทเศษอาหารจะนำไปทำปุ๋ยหมัก เพื่อประโยชน์ทางการเกษตร
  4. ลดการใช้ยานพาหนะส่วนบุคคล โดยส่งเสริมให้ใช้รถเวียนของงาน

สำหรับ การแข่งขัน Thailand by UTMB® ในปี 2564 นี้ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-12 ธันวาคม 2564 โดยการแข่งขัน 5 ระยะ ได้แก่ 168 กิโลเมตร 107 กิโลเมตร 54 กิโลเมตร 23 กิโลเมตร และ 14 กิโลเมตร โดยผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมแข่งขันได้ที่ www.thailandbyutmb.com .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% ไม่พอใจเข้มปราบแก๊งคอลฯ

กระทรวงวัฒนธรรม 26 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดใจ ขอคนไทยรักกัน หันไปทะเลาะกับคนนอกประเทศก่อน ชี้ขัดแย้งกันเองยังรอได้ แฉกัมพูชาไม่พอใจไทยร่วมมือลาว – เมียนมา ปราบคอลเซ็นเตอร์ เผยสื่อนอกยังตั้งข้อสังเกต “กพช.” สั่งปิด รร.ยิงวันแรก เหมือนรู้ล่วงหน้าจะมีการรบ ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมติดตามมาตรการการรับมือ และช่วยช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 4 จังหวัด ที่กระทรวงวัฒนธรรม โดยนางสาวแพทองธารได้ยืนยันแถลงการณ์ของรัฐบาล ตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้แถลงไปเมื่อวานนี้ ที่ระบุว่ากัมพูชาถือว่าเป็นอาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง วิธีการต่าง ๆ ขัดต่อหลักสันติวิธีของกฎหมายระหว่างประเทศ และขัดหลักมนุษยธรรมที่ได้ปฏิบัติมาตลอด สถานการณ์ความรุนแรง เป็นสิ่งที่รัฐบาลได้ย้ำตลอดว่าไม่อยากให้เกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่สุด คือชีวิตของประชาชน เป็นสิ่งที่เรายึดถือ และพยายามไม่ให้เกิดการเสียเลือดเสียเนื้อ จนฝ่ายกัมพูชาได้ยิงก่อน ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา นางสาวแพทองธารยังกล่าวว่า มีสำนักข่าวต่างประเทศตั้งข้อสังเกตว่า จริงๆ แล้วเรามีหลักฐาน มีดิจิทัลฟุตปริ้นท์ที่สามารถทำให้เห็นว่าใครเป็นคนเริ่มก่อน และมีการตั้งข้อสังเกตว่าในวันนั้นนักเรียนของเราที่อยู่ชายแดนไปโรงเรียนตามปกติ […]

“เสธ.เบิร์ด” ชี้เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” ถือเป็นภัยคุกคาม

26 ก.ค.- “เสธ.เบิร์ด” ชี้ เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” วิถีไกล 130 กม. ถือเป็นภัยคุกคาม มองไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากกรณีกองทัพภาคที่ 2 เตือนเฝ้าระวังกัมพูชายิงขีปนาวุธ PHL-03 วิถีไกล 130 กม. เพื่อพุ่งเป้าหมายพื้นที่ยุทธศาสตร์และที่ตั้งทหารนั้น ล่าสุด พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวว่า การขยับขีปนาวุธ PHL-03 เป็นการขู่ และถือเป็นภัยคุกคาม ดังนั้นถ้าไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากการที่กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยใช้ปฏิบัติการทางอากาศเกินกว่าเหตุนั้น เราไม่ทำเกินกว่าเหตุ แต่สิ่งที่เราทำนี้เป็นเหตุผล เพราะฝ่ายกัมพูชา เคลื่อนกำลังจำนวนมากมาประชิดชายแดน ใช้อาวุธยิงระยะไกลทำร้ายประชาชนของไทย ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีบริการน้ำมัน ทำให้ประชาชนชาวไทยบาดเจ็บ และเสียชีวิต จากการมีภาพข่าวการเคลื่อนอาวุธยิงระยะไกล ถือว่าเป็นการข่มขู่คุกคามความมั่นคงของไทยอย่างชัดเจน ดังนั้นการปฏิบัติการทางอากาศ เพื่อลดการสูญเสีย สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้การปฏิบัติการทางอากาศของไทยทำลายเป้าหมายทางทหารเท่านั้น และมีความแม่นยำ -สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านลดต่อเนื่อง ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย

น่าน 26 ก.ค.- สถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองน่าน ลดลงต่อเนื่อง ส่วนอีกหลายจุดยังอ่วม ท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย ย่านการค้าและเศรษฐกิจสำคัญของเมืองน่าน บริเวณถนนสุมณเทวราช ซึ่งเคยน้ำท่วมสูงเกือบถึงคอ แต่ตอนนี้น้ำลดลงเหลือประมาณหน้าขา เท่ากับลดไปราว 1 เมตร แต่บริเวณโดยรอบยังมีน้ำท่วมเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำ ยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจความเสียหายของโรงแรงแห่งหนึ่งกลางเมืองน่าน ซึ่งสภาพภายในเต็มไปด้วยคราบโคลน รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ที่จอดไว้เสียหายจำนวนมาก ขณะที่เจ้าของร้านค้าย่านนี้ เริ่มสำรวจความเสียหายจากน้ำท่วม อีกจุดหนึ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักคือที่โรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมสูงเต็มพื้นที่ 40 ไร่ บางจุดท่วมเกือบมิดหัว ตอนนี้น้ำลดแล้ว แต่ตามอาคารต่างๆ น้ำทะลักท่วมยาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ได้รับความเสียหาย แต่ผู้ป่วยใน ราว 3 ร้อยคน ยังปลอดภัย คุณหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาด เพื่อให้โรงพยาบาลกลับมาเปิดบริการตามปกติให้เร็วที่สุด ช่วงสายที่ผ่านมา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายใจกลางเขตเศรษฐกิจเมืองน่านด้วย -สำนักข่าวไทย