บังกลาเทศจะย้ายชาวโรฮิงญากลุ่มใหม่ไปเกาะร้าง

ธากา 28 ธ.ค. – บังกลาเทศจะย้ายชาวโรฮิงญากลุ่มที่สองในค่ายผู้ลี้ภัยไปยังเกาะที่มีพื้นที่ลุ่มต่ำในอ่าวเบงกอล แม้ว่ากลุ่มสิทธิเรียกร้องให้บังกลาเทศหยุดการย้ายชาวโรฮิงญาเพราะไม่ปลอดภัย เจ้าหน้าที่บังกลาเทศเผยว่า ทางการบังกลาเทศจะย้ายชาวโรฮิงญากว่า 1,100 คน ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมที่หนีข้ามพรมแดนเมียนมาเข้ามาอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยไปยังเกาะพาชันจาร์ ทางการเตรียมรถประจำทางและรถบรรทุกหลายคันไว้พร้อมสำหรับการย้ายชาวโรฮิงญาและขนสัมภาระต่าง ๆ ไปยังท่าเรือจิตตะกองในวันนี้ จากนั้นจะย้ายลงเรือกองทัพเรือไปยังเกาะพาชันจาร์ในวันพรุ่งนี้ ทางการบังกลาเทศเพิ่งย้ายชาวโรฮิงญากลุ่มแรกกว่า 1,600 คนไปยังเกาะดังกล่าวเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ ด้านหน่วยงานด้านมนุษยธรรมและกลุ่มสิทธิได้ท้วงติงการจัดหาที่อยู่ใหม่ให้ชาวโรฮิงญา โดยระบุว่า เกาะดังกล่าวตั้งอยู่ห่างไกลจากแผ่นดินใหญ่ เสี่ยงต่ออุทกภัยและพายุไซโคลนบ่อยครั้ง รวมถึงอาจจมอยู่ใต้น้ำในช่วงที่มีคลื่นสูง แต่ทางการบังกลาเทศแย้งว่า ทางการได้สร้างทำนบกันคลื่นยาว 12 กิโลเมตรป้องกันปัญหาน้ำท่วมเกาะ พร้อมกับสร้างบ้านให้ชาวโรฮิงญาอยู่ได้ราว 100,000 คน และการเดินทางย้ายที่อยู่อาศัยเป็นไปตามความสมัครใจของชาวโรฮิงญาโดยที่ทางการไม่ได้บังคับขู่เข็ญ อย่างไรก็ดี ผู้ลี้ภัยและเจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรมหลายรายเผยว่า ชาวโรฮิงญาบางส่วนถูกบีบบังคับให้ย้ายไปยังเกาะพาชันจาร์ที่มีพื้นที่เพียง 52 ตารางกิโลเมตร และก่อตัวจากตะกอนเทือกเขาหิมาลัยในปี 2549 ที่โผล่พ้นน้ำเมื่อ 20 ปีก่อน โดยที่ไม่เคยมีใครอยู่อาศัยมาก่อน ชาวโรฮิงญากว่า 730,000 คนหนีข้ามพรมแดนมาจากเมียนมาในปี 2560 หลังเกิดเหตุกวาดล้างชาวโรฮิงญาภายใต้การนำของกองทัพเมียนมาที่องค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็นระบุว่ามีเจตนาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แต่กองทัพเมียนมาออกมาปฏิเสธเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่ากองทัพตั้งเป้าโจมตีทหารโรฮิงญาที่โจมตีสำนักงานของตำรวจเมียนมา. -สำนักข่าวไทย

เม็กซิโกจะฉีดวัคซีนให้ผู้สูงวัยเดือนหน้า

เม็กซิโกซิตี 28 ธ.ค. – เม็กซิโกคาดว่าจะฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดสแรกให้แก่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ทั้งหมดภายในช่วงต้นเดือนมกราคมปีหน้า และจะฉีดให้ผู้สูงอายุในช่วงครึ่งหลังของเดือนเดียวกัน ประธานาธิบดีอันเดรส  มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ของเม็กซิโกกล่าวผ่านคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ในทวิตเตอร์ว่า หากทางการเม็กซิโกฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ทั้งหมดแล้ว จะเริ่มฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุในช่วงครึ่งหลังของเดือนมกราคม และจะฉีดวัคซีนให้ผู้ที่เข้าสู่มาตรการกักตัวในสถานที่ต่าง ๆ ด้วย ผู้นำเม็กซิโกยังกล่าวต่อว่า ทางการเม็กซิโกได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวนสองล็อตจากไฟเซอร์ บริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐแล้ว และบริษัทยาดังกล่าวจะทยอยจัดส่งวัคซีนเพิ่มจนเพียงพอที่จะฉีดให้ชาวเม็กซิโกราว 700,000 – 750,000 คนในเดือนมีนาคมปีหน้า ผู้นำเม็กซิโกยังคาดการณ์ว่า เม็กซิโกจะได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 35 ล้านโดสที่ทำข้อตกลงซื้อกับคังซีโน ไบโอโลจิกส์ บริษัทยาของจีนตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป ทั้งนี้ วัคซีนของคังซีโนจะฉีดเพียงโดสเดียวเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากวัคซีนของไฟเซอร์ที่จะต้องฉีด 2 โดส โดยที่การฉีดโดสที่ 2 จะทิ้งระยะห่างจากโดสแรกเพียงไม่กี่สัปดาห์ ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขเม็กซิโกได้เริ่มโครงการฉีดวัคซีนให้แก่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เป็นวันที่สองแล้ว พร้อมทั้งรายงานว่า มียอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 6,217 คน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 400 คน ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 1.38 […]

ซิดนีย์ขอให้ประชาชนดูพลุปีใหม่จากบ้าน

ซิดนีย์ 28 ธ.ค. – ออสเตรเลียสั่งห้ามการรวมตัวของประชาชนเป็นกลุ่มใหญ่ในค่ำคืนที่มีการจัดงานเคาต์ดาวน์ต้อนรับปีใหม่ในนครซิดนีย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายเมืองใหญ่ที่จัดงานเคาต์ดาวน์ต้อนรับปีใหม่เป็นที่แรก ๆ ของโลกท่ามกลางสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 นางแกลดิส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่มีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอกกล่าวในงานแถลงข่าวว่า ทางการได้ใช้คำสั่งห้ามประชาชนส่วนใหญ่มารวมตัวกันในย่านใจกลางเมืองของนครซิดนีย์ในค่ำคืนเคาต์ดาวน์ และจำกัดการรวมตัวของประชาชนในพื้นที่สาธารณะได้สูงสุดไม่เกิน 50 คน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ยังกล่าวต่อว่า ทางการไม่ต้องการจัดงานที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็วในวันส่งท้ายปีเก่า ซึ่งจะเป็นการทำลายแผนควบคุมการระบาดที่กำลังมีแนวโน้มไปในทางที่ดี ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า ทางการไม่ต้องการให้ฝูงชนรวมตัวกันบริเวณริมฝั่งของอ่าวซิดนีย์ และขอให้ประชาชนรับชมการถ่ายทอดสดพลุปีใหม่ที่บ้านเพราะเป็นแนวทางที่ปลอดภัยที่สุดในช่วงนี้ ทางการรัฐนิวเซาท์เวลส์เผยว่า ทางการจะอนุญาตให้แค่ผู้ที่ได้รับอนุญาตเข้าพักในโรงแรมย่านใจกลางเมืองเข้าร่วมงานเคาต์ดาวน์ในวันส่งท้ายปีเก่าได้ และครอบครัวในนครซิดนีย์สามารถรวมตัวกันได้สูงสุด 10 คนจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ทางการรัฐนิวเซาท์เวลส์ยังรายงานวันนี้ว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 5 คน ทำให้ย่านชานเมืองบริเวณชายหาดทางตอนเหนือของนครซิดนีย์ที่เกิดการระบาดใหม่ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนที่ผ่านมามีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มเป็น 125 คนใน ขณะที่ประชาชนราว 250,000 คนในพื้นที่ดังกล่าวต้องใช้ชีวิตภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ไปจนถึงวันที่ 9 มกราคมปีหน้า ขณะนี้ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 28,300 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยติดเชื้อในรัฐวิกตอเรีย และผู้เสียชีวิต 908 คน. -สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้พบผู้ป่วยโควิดกลายพันธุ์แล้ว

โซล 28 ธ.ค. – เกาหลีใต้พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 กลายพันธุ์จากอังกฤษ 3 คน ซึ่งถือเป็นกลุ่มแรกในประเทศ สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้หรือเคดีซีเอรายงานว่า ผู้ป่วยโรคโควิดกลายพันธุ์ทั้งสามคนเป็นครอบครัวที่อาศัยอยู่ในกรุงลอนดอนของอังกฤษ พวกเขาเดินทางมาถึงเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมาและเข้าสู่มาตรการกักตัวตั้งแต่มีผลตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นบวก นอกจากนี้ ทางการเกาหลีใต้ยังได้ชันสูตรศพผู้สูงอายุรายหนึ่งที่มีผลตรวจหาเชื้อเป็นบวกหลังเสียชีวิต เนื่องจากเขามีประวัติเดินทางกลับมาจากอังกฤษในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เคดีซีเอรายงานด้วยว่า เกาหลีใต้พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 808 คน ซึ่งถือเป็นตัวเลขต่ำสุดนับตั้งแต่ทำสถิติผู้ป่วยติดเชื้อสูงสุด 1,241 คนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะนี้ เกาหลีใต้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 57,680 คน และผู้เสียชีวิต 819 คน อังกฤษเป็นประเทศแรกที่พบเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ ซึ่งทำให้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนวิตกกังวลว่าจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้เร็วกว่าเดิม ส่งผลให้กว่า 50 ประเทศทั่วโลกใช้คำสั่งระงับการเดินทางจากอังกฤษ เกาหลีใต้ห้ามเที่ยวบินขาเข้าจากอังกฤษจนถึงสิ้นปีนี้ ในขณะเดียวกันหลายประเทศในทวีปยุโรปยังพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์จากอังกฤษแล้วรวมถึงแคนาดา จอร์แดน และญี่ปุ่น. -สำนักข่าวไทย

เทศกาลคริสต์มาสทั่วโลกเงียบเหงาเพราะโควิด

นครรัฐวาติกัน 25 ธ.ค. – เทศกาลฉลองคริสต์มาสทั่วโลกเริ่มต้นขึ้นแล้วในวันนี้ ขณะที่ประชาชนหลายร้อยล้านคนทั่วโลกต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้มาตรการเข้มงวดที่รวมถึงคำสั่งห้ามเดินทางและจำกัดการรวมตัว เพื่อควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โบสถ์หลายแห่งในเกาหลีใต้แทบไร้เงาผู้คน เนื่องจากคริสต์ศาสนิกชนตัดสินใจประกอบพิธีทางศาสนาผ่านระบบออนไลน์หลังเกาหลีใต้พบผู้ป่วยติดเชื้อรายวันพุ่งสูงขึ้นเป็นสถิติใหม่ในวันนี้ ขณะที่พิธีทางศาสนาในวันคริสต์มาสของฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ต้องประสบเหตุแผ่นดินไหวขนาดความรุนแรง 6.3 ในช่วงเช้าวันนี้ที่ทำให้พิธีหยุดชะงักไปชั่วครู่ ตลอดจนการใช้คำสั่งห้ามจัดงานเลี้ยงฉลองและการร่วมร้องเพลงคริสต์มาสที่ทำให้บรรยากาศการประกอบพิธีดำเนินไปอย่างเงียบเหงา ด้านชาวออสเตรเลียต่างเลี่ยงการเดินทางไปปิกนิกบนชายหาดบอนไดบีชในนครซิดนีย์เหมือนอย่างเคย ทำให้พื้นที่ชายหาดและท้องทะเลเงียบเหงา และมีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจลาดตระเวนทำหน้าที่ควบคุมการใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเท่านั้น ส่วนสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส องค์พระประมุขของศาสนจักรโรมันคาทอลิกที่มีศาสนิกชนราว 1,300 ล้านคนทั่วโลกทรงประกอบพิธีเนื่องในวันคริสต์มาสอีฟภายในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมพิธีส่วนใหญ่เป็นพนักงานที่สวมหน้ากากอนามัยของรัฐบาลนครรัฐวาติกันไม่ถึง 200 คน ขณะนี้ทั่วโลกมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมแตะ 80 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 1.7 ล้านคน. -603

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงฉลองคริสต์มาสลำพัง

ลอนดอน 25 พ.ค. – สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ของอังกฤษจะทรงกล่าวถึงความยากลำบากในช่วงที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในการพระราชทานพรแก่ประชาชนเนื่องในวันคริสต์มาสในวันนี้ บรรษัทกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซีรายงานว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะทรงฉลองเทศกาลคริสต์มาสร่วมกับเจ้าชายฟิลลิปส์ ดยุกแห่งเอดินบะระ พระราชสวามีภายในพระราชวังวินด์เซอร์ ซึ่งตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้วต้องเป็นพระราชวังซานดริงแฮม แต่ในปีนี้ทั้งสองพระองค์ทรงไม่ได้ฉลองเทศกาลคริสต์มาร่วมกับพระราชวงศ์ ซึ่งไม่สามารถเดินทางมารวมตัวกันได้เนื่องจากมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 บีบีซียังคาดการณ์ว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะทรงงดการเข้าร่วมพิธีในโบสถ์ และจะทรงสวดมนต์เป็นการส่วนพระองค์เพื่อเลี่ยงการพบปะประชาชนจำนวนมาก ขณะที่การพระราชทานพรเนื่องในวันคริสต์มาสจะได้รับการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ในเวลา 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระชนมพรรษา 94 ปี และเจ้าชายฟิลลิปส์ พระชนมพรรษา 99 ปีทรงประทับอยู่ที่พระราชวังวินด์เซอร์ในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมด้วยข้าราชบริพารจำนวนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองพระองค์ทรงไม่ได้ฉลองเทศกาลคริสต์มาสที่พระราชวังซานดริงแฮมนับตั้งแต่ในช่วงกลางทศวรรษหลังปี 1980. -สำนักข่าวไทย

สิงคโปร์ให้ลูกเรือสวมอุปกรณ์ป้องกันโควิดกลายพันธุ์

สิงคโปร์ 25 ธ.ค. – สิงคโปร์แอร์ไลน์ สายการบินแห่งชาติของสิงคโปร์กำหนดให้ลูกเรือที่ปฏิบัติงานบนเที่ยวบินจากกรุงลอนดอนของอังกฤษสวมหน้ากากอนามัย N95 และอุปกรณ์ป้องกันหลังเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่กลายพันธุ์ในอังกฤษ หนังสือพิมพ์เดอะสเตรทส์ไทม์ของสิงคโปร์รายงานว่า สิงคโปร์แอร์ไลน์ออกข้อบังคับให้ลูกเรือบนเที่ยวบินจากกรุงลอนดอนต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาด้วยวิธีตรวจหาเชื้อจากโพรงจมูกและคอ และไม่อนุญาตให้ลูกเรือไปปฏิบัติงานบนเที่ยวบินอื่น ๆ จนกว่าจะมีผลตรวจหาเชื้อเป็นลบ ซึ่งเป็นมาตรการเดียวกันกับที่ใช้ในผู้ที่เดินทางบนเที่ยวบินที่มาจากพื้นที่ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโคโรนาสูง นอกจากนี้ สิงคโปร์แอร์ไลน์ยังกำหนดให้ลูกเรือบนเที่ยวบินจากกรุงลอนดอนต้องสวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น แว่นครอบตา ถุงมือ และหน้ากากอนามัยตลอดทั้งเที่ยวบินตั้งแต่เมื่อวานนี้ เมื่อสัปดาห์ก่อน อังกฤษพบการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาที่กลายพันธุ์ ซึ่งทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมถึงร้อยละ 70 ขณะที่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สิงคโปร์เป็น 1 ใน 40 ประเทศที่ประกาศใช้มาตรการเข้มงวดกับผู้ที่เดินทางมาจากอังกฤษ ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ระบุว่า ทางการไม่อนุญาตให้ผู้ที่มีวีซ่าประเภทพำนักระยะยาวและระยะสั้นที่มีประวัติเดินทางไปยังอังกฤษในช่วง 14 วันที่ผ่านมาเดินทางเข้าประเทศหรือแวะพักเปลี่ยนเครื่องที่สิงคโปร์ ขณะนี้สิงคโปร์มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 58,500 คน และผู้เสียชีวิตทั้งหมด 29 คน. -สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นเผยแผนฉีดวัคซีนโควิดเดือน ก.พ. ปีหน้า

โตเกียว 25 ธ.ค. – ญี่ปุ่นเผยว่า จะวางแผนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า กลุ่มผู้สูงอายุในช่วงปลายเดือนมีนาคม และตามมาด้วยกลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นเผยว่า คณะผู้เชี่ยวชาญได้ให้ความเห็นชอบแผนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของกระทรวงแล้ว แผนดังกล่าวจะมุ่งเน้นการฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้ป่วยที่รักษาตัวในโรงพยาบาลหรือต้องนัดพบแพทย์เป็นประจำเนื่องจากมีโรคประจำตัว เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคทางเดินหายใจ โรคไต และโรคเบาหวาน นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงผู้ที่มีอาการทางระบบประสาทเนื่องจากความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกัน ความผิดปกติของโครโมโซม ความผิดปกติทางร่างกายและจิตใจ และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ อย่างไรก็ดี กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า จะไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่สตรีมีครรภ์เพราะยังไม่มีข้อมูลรับรองด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนที่เพียงพอ โดยคาดว่าจะสามารถฉีดวัคซีนให้แก่ชาวญี่ปุ่นได้ราว 8.2 ล้านคนตามแผนการที่วางไว้ ขณะนี้ ญี่ปุ่นมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 206,000 คน และผู้เสียชีวิตทั้งหมด 3,050 คน. -สำนักข่าวไทย

อังกฤษฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชนกว่า 600,000 คนแล้ว

ลอนดอน 25 ธ.ค. – อังกฤษฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดสแรกของไฟเซอร์/ไบออนเทคให้ประชาชนไปแล้วกว่า 600,000 คน แถลงการณ์ของกระทรวงสาธารณสุขและบริการสังคมอังกฤษระบุว่า รัฐบาลอังกฤษได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ชาวอังกฤษทั้งสิ้น 616,933 คนในระหว่างวันที่ 8 – 20 ธ.ค. ที่ผ่านมา นายแมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษเผยว่า ทางการได้สั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 40 ล้านโดสจากไฟเซอร์ และคาดว่าจะได้รับวัคซีนเพิ่มอีกหลายล้านโดสภายในสิ้นปีนี้ ส่วนแอสตราเซนเนกา บริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของอังกฤษได้ส่งข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้หน่วยงานกำกับดูแลยาอังกฤษพิจารณาแล้ว ขณะที่ทางการอังกฤษระบุว่า ได้ฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ที่อยู่ในศูนย์ดูแลผู้ป่วย ผู้สูงวัยที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไป และเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ผ่านจุดให้บริการฉีดวัคซีนกว่า 500 แห่ง ขณะนี้ เชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ชนิดใหม่กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในอังกฤษในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งทำให้หลายพื้นที่ของอังกฤษต้องเข้าสู่มาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มงวด ทั้งนี้ เชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ชนิดใหม่หรือรู้จักกันในชื่อ B.1.1.7 ทำให้เกิดการแพร่เชื้อได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมถึงร้อยละ 70 และก่อให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการระบาดในกลุ่มเด็กเล็ก ทั้งนี้ อังกฤษกำลังประสบปัญหาอย่างหนัก เนื่องจากถูกหลายประเทศใช้คำสั่งห้ามคนอังกฤษเดินทางเข้าประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการค้ากับกลุ่มประเทศในทวีปยุโรปและยิ่งทำให้อังกฤษถูกโดดเดี่ยวมากยิ่งขึ้น. -สำนักข่าวไทย

เยอรมนีพบผู้ป่วยโควิดกลายพันธุ์จากอังกฤษรายแรก

แฟรงก์เฟิร์ต 25 ธ.ค. – เยอรมนีพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่มีการกลายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในอังกฤษเป็นรายแรก แถลงการณ์ของกระทรวงสาธารณสุขรัฐบาเดิน-เวอร์ทเทมแบร์กทางตะวันตกเฉียงใต้ของเยอรมนีระบุว่า ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่กลายพันธุ์เดินทางมาจากท่าอากาศยานฮีทโธรว์ในกรุงลอนดอนของอังกฤษเมื่อวันที่ 20 ธันวาคมเพื่อเยี่ยมญาติในเยอรมนี แต่กลับมีผลตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นบวกที่สนามบิน ขณะที่ห้องปฏิบัติการในกรุงเบอร์ลินเผยผลตรวจหาสารพันธุกรรมจากตัวอย่างที่ส่งตรวจว่าเป็นการติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่มีการกลายพันธุ์ B.1.1.7 ที่แพร่เชื้อได้รวดเร็วกว่าเดิม ซึ่งถือเป็นผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์รายแรกของเยอรมนี กระทรวงสาธารณสุขรัฐบาเดิน-เวอร์ทเทมแบร์กยังระบุเพิ่มเติมว่า ผู้ป่วยติดเชื้อคนดังกล่าวมีอาการป่วยเล็กน้อยก่อนเดินทางมาถึงเยอรมนี และมีสมาชิกในครอบครัวขับรถยนต์มารับที่สนามบินเพื่อเข้าสู่มาตรการกักตัวในที่พักของครอบครัวในรัฐบาเดิน-เวอร์ทเทมแบร์ก ขณะที่ผู้มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยติดเชื้ออีก 3 คนได้เข้าสู่มาตรการกักตัวแล้ว ก่อนหน้านี้ หลายประเทศในทวีปยุโรปตัดสินใจปิดพรมแดนที่เชื่อมต่อการขนส่งกับอังกฤษหลังพบการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาที่มีการกลายพันธุ์อย่างรวดเร็ว ขณะที่เมื่อวานนี้สิงคโปร์เพิ่งพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์เป็นรายแรกเช่นกัน. -สำนักข่าวไทย

แก๊งยากูซ่าญี่ปุ่นยกเลิกจัดงานฉลองปีใหม่

คานางาวะ 24 ธ.ค. – อินางาวะ-ไค แก๊งยากูซ่าใหญ่เป็นอันดับ 3 ในญี่ปุ่นประกาศยกเลิกการจัดงานฉลองในช่วงเทศกาลขึ้นปีใหม่เนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เดอะโตเกียวรีพอร์เตอร์ เว็บไซต์ข่าวของญี่ปุ่นรายงานว่า แก๊งอินางาวะ-ไคประกาศยกเลิกการจัดงานส่งท้ายปีเก่าในวันที่ 27-28 ธ.ค. และงานต้อนรับปีใหม่ในวันที่ 7 ม.ค. สื่อดังกล่าวยังอ้างตำรวจว่า สำนักงานใหญ่ของอินางาวะ-ไคส่งโทรสารไปยังแก๊งยากูซ่าในสังกัดโดยมีใจความว่า  ‘โปรดระวังการระบาดของโรคโควิด-19’ แหล่งข่าวสืบสวนสอบสวนระบุว่า สมาชิกแก๊งยากูซ่าหลายคนเป็นผู้สูงอายุและมีสุขภาพไม่แข็งแรง ประกาศดังกล่าวทำให้เห็นว่า พวกเขาปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ อย่างเคร่งครัดมากกว่าประชาชนทั่วไปเสียอีก ซึ่งรวมถึงการจำกัดจำนวนสมาชิกแก๊งยากูซ่าที่เข้ามาทำงานในสำนักงานและการใช้คำสั่งห้ามจัดงานเลี้ยงดื่มสุรา ทางการญี่ปุ่นไม่สนับสนุนให้ประชาชนรวมตัวกันเพื่อจัดงานเลี้ยงฉลองรูปแบบดังกล่าว เนื่องจากมียอดผู้ป่วยติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นในเดือนนี้ ขณะนี้ญี่ปุ่นมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 203,000 คน และผู้เสียชีวิตแตะ 3,000 คนแล้ว. -สำนักข่าวไทย

เวียดนามตั้งเป้าติดอันดับมหาวิทยาลัยโลก

ฮานอย 24 ธ.ค. – เวียดนามตั้งเป้าผลักดันมหาวิทยาลัยที่สอนคณิตศาสตร์อย่างน้อย 5 แห่งให้ติดอันดับ 500 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกภายในปี 2573 เพื่อพัฒนาและส่งเสริมการศึกษาคณิตศาสตร์ นายกรัฐมนตรีเหงียน ซวน ฟุก ของเวียดนามประกาศแผนงานระดับชาติดังกล่าวเพื่อพัฒนาและส่งเสริมการศึกษาวิชาคณิตศาสตร์ผ่านการวิจัย การประยุกต์ และการศึกษา อีกทั้งยังนำวิชาคณิตศาสตร์ไปบูรณาการเข้ากับการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี เศรษฐกิจและสังคม นอกจากนี้ ทางการได้ตั้งเป้าผลักดันให้มหาวิทยาลัยเวียดนาม 2 แห่งติดอันดับ 400 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกภายในปี 2573 เพิ่มจำนวนผลงานวิชาการของประเทศเป็นสองเท่าของช่วงปี 2553-2563 ในฐานข้อมูลบรรณานุกรมและรายการอ้างอิง (SCIE) ที่มีวารสารวิทยาศาสตร์กว่า 8,500 เล่มที่ครอบคลุม 150 สาขาวิชา และทำให้มีผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกราว 400 คนในสาขาคณิตศาสตร์ คณิตศาสตร์ประยุกต์ และสถิติ โดยที่แต่ละคนต้องมีผลงานวิชาการที่ได้รับการตีพิมพ์อย่างน้อยคนละ 2 เล่มในฐานข้อมูลดังกล่าว ยิ่งไปกว่านั้น ทางการเวียดนามยังเตรียมเชิญนักวิทยาศาสตร์ชาวต่างชาติให้เดินทางมายังเวียดนามเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิทยาศาสตร์ให้มากขึ้นกว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาถึงสองเท่า ทางการเวียดนามวางแผนงานดังกล่าวเพื่อตั้งเป้ายกระดับการศึกษาวิชาคณิตศาสตร์ รวมถึงการส่งเสริมงานวิจัยและสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญในสาขาคณิตศาสตร์ โดยมีกระทรวงศึกษาและฝึกอบรมของเวียดนามจะเป็นผู้ควบคุมแผนงานและมีสถาบันศึกษาคณิตศาสตร์ขั้นสูงแห่งเวียดนามเป็นผู้ดำเนินแผนงาน. -สำนักข่าวไทย

1 303 304 305 306 307 315