ธากา 28 ธ.ค. – บังกลาเทศจะย้ายชาวโรฮิงญากลุ่มที่สองในค่ายผู้ลี้ภัยไปยังเกาะที่มีพื้นที่ลุ่มต่ำในอ่าวเบงกอล แม้ว่ากลุ่มสิทธิเรียกร้องให้บังกลาเทศหยุดการย้ายชาวโรฮิงญาเพราะไม่ปลอดภัย
เจ้าหน้าที่บังกลาเทศเผยว่า ทางการบังกลาเทศจะย้ายชาวโรฮิงญากว่า 1,100 คน ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมที่หนีข้ามพรมแดนเมียนมาเข้ามาอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยไปยังเกาะพาชันจาร์ ทางการเตรียมรถประจำทางและรถบรรทุกหลายคันไว้พร้อมสำหรับการย้ายชาวโรฮิงญาและขนสัมภาระต่าง ๆ ไปยังท่าเรือจิตตะกองในวันนี้ จากนั้นจะย้ายลงเรือกองทัพเรือไปยังเกาะพาชันจาร์ในวันพรุ่งนี้ ทางการบังกลาเทศเพิ่งย้ายชาวโรฮิงญากลุ่มแรกกว่า 1,600 คนไปยังเกาะดังกล่าวเมื่อช่วงต้นเดือนนี้
ด้านหน่วยงานด้านมนุษยธรรมและกลุ่มสิทธิได้ท้วงติงการจัดหาที่อยู่ใหม่ให้ชาวโรฮิงญา โดยระบุว่า เกาะดังกล่าวตั้งอยู่ห่างไกลจากแผ่นดินใหญ่ เสี่ยงต่ออุทกภัยและพายุไซโคลนบ่อยครั้ง รวมถึงอาจจมอยู่ใต้น้ำในช่วงที่มีคลื่นสูง แต่ทางการบังกลาเทศแย้งว่า ทางการได้สร้างทำนบกันคลื่นยาว 12 กิโลเมตรป้องกันปัญหาน้ำท่วมเกาะ พร้อมกับสร้างบ้านให้ชาวโรฮิงญาอยู่ได้ราว 100,000 คน และการเดินทางย้ายที่อยู่อาศัยเป็นไปตามความสมัครใจของชาวโรฮิงญาโดยที่ทางการไม่ได้บังคับขู่เข็ญ อย่างไรก็ดี ผู้ลี้ภัยและเจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรมหลายรายเผยว่า ชาวโรฮิงญาบางส่วนถูกบีบบังคับให้ย้ายไปยังเกาะพาชันจาร์ที่มีพื้นที่เพียง 52 ตารางกิโลเมตร และก่อตัวจากตะกอนเทือกเขาหิมาลัยในปี 2549 ที่โผล่พ้นน้ำเมื่อ 20 ปีก่อน โดยที่ไม่เคยมีใครอยู่อาศัยมาก่อน
ชาวโรฮิงญากว่า 730,000 คนหนีข้ามพรมแดนมาจากเมียนมาในปี 2560 หลังเกิดเหตุกวาดล้างชาวโรฮิงญาภายใต้การนำของกองทัพเมียนมาที่องค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็นระบุว่ามีเจตนาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แต่กองทัพเมียนมาออกมาปฏิเสธเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่ากองทัพตั้งเป้าโจมตีทหารโรฮิงญาที่โจมตีสำนักงานของตำรวจเมียนมา. -สำนักข่าวไทย