ไฟไหม้อพาร์ทเมนต์ในนครนิวยอร์กของสหรัฐ ตาย 19 ราย

นิวยอร์ก 10 ม.ค. – เหตุเพลิงไหม้อาคารที่พักอาศัยในนครนิวยอร์กของสหรัฐเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 ราย ซึ่งมีเด็กรวมอยู่ด้วย 9 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 32 คน นายอีริค อดัมส์ นายกเทศมนตรีของนครนิวยอร์ก เผยว่า เหตุเพลิงไหม้อพาร์ทเมนต์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 ราย ซึ่งมีเด็ก 9 รายรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บ 32 คนซึ่งถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว ในจำนวนนี้ มีผู้ที่มีอาการสาหัสหลายคน ขณะที่หัวหน้าหน่วยดับเพลิงของนครนิวยอร์กระบุว่า เจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บบนทุกชั้นของอพาร์ทเมนต์ดังกล่าวที่มีความสูง 19 ชั้น และยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นก็เป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 30 ปีของนครนิวยอร์ก ทางการนครนิวยอร์กเผยว่า เหตุเพลิงไหม้ลุกลามที่บริเวณชั้นสองและสามของอพาร์ทเมนต์ดังกล่าวที่ตั้งอยู่ในเขตบร็องซ์ของนครนิวยอร์กเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. เมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ดับเพลิงราว 200 นายได้ลงพื้นที่เพื่อควบคุมเพลิงไหม้ที่คาดว่ามีสาเหตุมาจากเครื่องฮีตเตอร์ไฟฟ้าขัดข้องจนทำให้เกิดไฟไหม้กินวงกว้างครอบคลุม 2 ชั้นของอพาร์ทเมนต์ แต่ควันไฟได้ลอยกระจายไปทั่วทั้งอาคาร ทั้งนี้ เหตุเพลิงไหม้อพาร์ทเมนต์ในนครนิวยอร์กมีขึ้นหลังจากที่เพิ่งเกิดเหตุเพลิงไหม้อพาร์ทเมนต์ในเมืองฟิลาเดลเฟียของรัฐเพนซิลเวเนียที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย ซึ่งรวมถึงเด็ก 8 ราย เมื่อสัปดาห์ก่อน.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำคาซัคสถานสั่งยิงทิ้ง “ผู้ก่อการร้าย”

อัลมาตี 7 ม.ค.- ประธานาธิบดีคาซีม-โยมาร์ต โตคาเยฟ ของคาซัคสถานเผยว่า ได้ออกคำสั่งให้ยิงทิ้งเพื่อจัดการกับเหตุวุ่นวายจากกลุ่มคนที่เขาเรียกว่า “โจร” และ “ผู้ก่อการร้าย” พร้อมกับเตือนว่า คนที่ไม่ยอมจำนนจะถูกบดขยี้ ประธานาธิบดีโตคาเยฟแถลงทางโทรทัศน์ในวันนี้ หนึ่งสัปดาห์หลังจากเหตุประท้วงราคาเชื้อเพลิงแพงได้ลุกลามกลายเป็นการก่อความไม่สงบทั่วประเทศว่า “โจร” มากถึง 20,000 คนได้ก่อเหตุในเมืองอัลมาตี เมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ และทำลายทรัพย์สินของรัฐ เขาจึงได้สั่งการให้หน่วยงานรักษากฎหมายและกองทัพ “ยิงสังหารโดยไม่ต้องเตือนล่วงหน้า” อันเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย กลุ่มติดอาวุธไม่ยอมวางอาวุธ และยังคงก่ออาชญากรรมหรือเตรียมก่ออาชญกรรม ทางการจะต้องจัดการกับคนเหล่านี้จนถึงที่สุด ผู้ที่ไม่ยอมจำนนจะถูกบดขยี้ ผู้นำคาซัคสถานยืนกรานไม่เจรจากับผู้ประท้วง และได้ขอบคุณประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย ผู้นำจีน อุซเบกิซสถานและตุรกีที่ให้ความช่วยเหลือ โดยกล่าวว่ากองกำลังรักษาสันติภาพจากประเทศเพื่อนบ้านมาถึงคาซัคสถานแล้วตามคำร้องขอ และจะประจำการเป็นการชั่วคราวเพื่อรับประกันความมั่นคงให้คาซัคสถาน.-สำนักข่าวไทย

ชาวเมียนมาต่อต้าน “ฮุน เซน” เยือนเมียนมา

ย่างกุ้ง 7 ม.ค. – ชาวเมียนมาในหลายพื้นที่ของประเทศออกมาชุมนุมต่อต้านการเดินทางเยือนเมียนมาของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชา เนื่องจากหวั่นเกรงว่าจะเป็นการสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาลทหารเมียนมา ในขณะที่ผู้นำกัมพูชาได้รับการต้อนรับที่ท่าอากาศยานด้วยการเดินพรมแดงที่มีแถวทหารกองเกียรติยศ ชาวเมียนมาที่เมืองเดปายิน ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงเนปิดอว์ไปทางเหนือราว 300 กิโลเมตร ได้ออกมาชุมนุมประท้วงการเดินทางเยือนเมียนมาของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ด้วยการจุดไฟเผารูปผู้นำกัมพูชาและพูดพร้อมกันว่า ‘นายกรัฐมนตรีฮุน เซนอย่ามาเมียนมา พวกเราไม่ต้องการผู้นำเผด็จการจากกัมพูชา’ (Hun Sen don’t come to Myanmar. We don’t want dictator Hun Sen.) นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ชาวเมียนมาในเขตมัณฑะเลย์ เขตตะนาวศรี และเขตโมนยวา ต่างออกมาชุมนุมต่อต้านเช่นเดียวกัน ส่วนผู้นำกลุ่มนักเคลื่อนไหวในเมียนมาคนหนึ่งโพสต์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียว่า นายกรัฐมนตรีฮุน เซน จะเผชิญกับเหตุประท้วงครั้งใหญ่ในระหว่างการเดินทางเยือนเมียนมา ซึ่งจะทำให้สถานะของอาเซียนย่ำแย่ลง ในขณะเดียวกัน กระทรวงต่างประเทศกัมพูชาระบุในแถลงการณ์ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน เซน จะเข้าพบพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา เพื่อหารือและแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับความร่วมมือระดับทวิภาคีและพหุภาคี รวมถึงความคืบหน้าล่าสุดของอาเซียน ขณะที่โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมายืนยันว่า นายกรัฐมนตรีฮุน เซน […]

ผู้โดยสารเครื่องบินจากอิตาลีหนีกักโรคที่อินเดีย

อัมริตสาร์ 7 ม.ค.- เมืองอัมริตสาร์ในรัฐปัญจาบของอินเดียแจ้งว่า ผู้โดยสารเที่ยวบินเช่าเหมาลำจากอิตาลี 13 คน ได้หนีจากการกักโรคเมื่อเดินทางมาถึงอินเดีย เที่ยวบินเช่าเหมาลำนำผู้โดยสารทั้งหมด 160 คน เดินทางจากนครมิลานของอิตาลีมาถึงเมืองอัมริตสาร์เมื่อบ่ายวันพุธตามเวลาอินเดีย ในจำนวนนี้ 125 คนติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ผู้ติดเชื้อ 9 คนหลบหนีเมื่อมาถึงท่าอากาศยาน และอีก 4 คนหลบหนีออกจากโรงพยาบาลกักโรค ภาพข่าวทางสถานีโทรทัศน์เห็นขบวนรถพยาบาลจอดรอที่ท่าอากาศยานเพื่อรอรับตัวผู้ติดเชื้อไปยังโรงพยาบาล และมีฝูงชนรอเบียดเสียดอยู่นอกประตูทางออก เจ้าหน้าที่ไม่ทราบว่า ผู้ติดเชื้อ 9 คนหลบหนีที่ท่าอากาศยานได้อย่างไร แต่ทราบว่าผู้ติดเชื้อ 4 คนที่โรงพยาบาลกักโรคได้ใช้ลูกไม้หลอกบุคลากรทางการแพทย์ ด้านตำรวจประกาศผ่านสถานีโทรทัศน์เอ็นดีทีวี (NDTV) ว่า ได้ดำเนินการขั้นต้นเพื่อยกเลิกหนังสือเดินทางของผู้หลบหนีแล้ว หากไม่มามอบตัวภายในเช้าวันพรุ่งนี้ ทางการจะเผยแพร่ภาพถ่ายในหน้าหนังสือพิมพ์ และดำเนินคดี รัฐปัญจาบที่อยู่ทางตอนเหนือของอินเดียเป็นหนึ่งในหลายรัฐที่นำมาตรการจำกัดกลับมาใช้เพื่อควบคุมยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น เช่น ประกาศห้ามออกนอกเคหสถานยามวิกาลเป็นการชั่วคราว ปิดสถานศึกษาทุกแห่ง อินเดียพบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 100,000 คนในวันนี้ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ส่วนใหญ่เป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน.-สำนักข่าวไทย

จีนสั่งปรับเงิน บ. ค้าปลีกญี่ปุ่นเรียกไต้หวันเป็นรัฐอิสระ

ปักกิ่ง 7 ม.ค. – จีนสั่งปรับเงินเซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิงส์ บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของญี่ปุ่นที่เป็นเจ้าของร้านค้าสะดวกซื้อ ‘เซเว่น-อีเลฟเว่น’ ในจีน 150,000 หยวน (ราว 800,000 บาท) หลังบริษัทดังกล่าวระบุว่าไต้หวันเป็นรัฐอิสระบนเว็บไซต์ สำนักข่าวบลูมเบิร์กของสหรัฐรายงานอ้างคำพูดโฆษกของเซเว่นแอนด์ไอว่า ทางการท้องถิ่นในกรุงปักกิ่งของจีนได้สั่งปรับเงินบริษัท 150,000 หยวน เซเว่นแอนด์ไอกำลังเร่งแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังและหาทางป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นอีก รายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์กยังระบุว่า เซเว่นแอนด์ไอยังไม่ใส่ชื่อภาษาจีนกำกับบนเกาะหลายแห่งในทะเลจีนใต้ เช่น หมู่เกาะที่จีนเรียกว่า เตียวหยู แต่ญี่ปุ่นเรียกว่า เซนกากุ ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทระหว่างสองประเทศ นอกจากนี้ ยังพบข้อผิดพลาดในแผนที่ที่มีการใส่ชื่อกำกับบริเวณชายแดนของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์และเขตปกครองตนเองทิเบต ก่อนหน้านี้ บริษัทต่างชาติหลายแห่งในจีน เช่น แกป อิงค์ แบรนด์เสื้อผ้าสัญชาติอเมริกัน เดมเลอร์ เอจี บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมันและเจ้าของแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ สายการบินยูไนเต็ดของสหรัฐ และสายการบินออล นิปปอน แอร์เวย์ หรือเอเอ็นเอ ของญี่ปุ่น ต้องออกมาขอโทษหรือแก้ไขข้อมูลบนเว็บไซต์ เนื่องจากระบุว่าไต้หวันเป็นรัฐอิสระ ทั้งนี้ จีนระบุว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน ไม่ใช่ดินแดนที่แยกตัวออกจากจีน ส่วนฮ่องกงเป็นเขตปกครองพิเศษของจีน. -สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้ชี้เกาหลีเหนืออ้างเกินจริงขีปนาวุธเหนือเสียง

โซล 7 ม.ค.- กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ระบุว่า การที่เกาหลีเหนืออ้างว่าประสบความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงเมื่อวันพุธดูเหมือนจะเกินจริง เพราะเกาหลีเหนือยังไม่มีเทคโนโลยีสำหรับขีปนาวุธก้าวหน้าเช่นนั้น กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้แถลงว่า ผลการวิเคราะห์เบื้องต้นพบว่า ขีปนาวุธดังกล่าวเดินทางเป็นระยะทางไม่ถึง 700 กิโลเมตร ด้วยความเร็วสูงสุด 6 มัค หรือเร็วกว่าเสียง 6 เท่า ที่ระดับความสูงไม่ถึง 50 กิโลเมตร แตกต่างจากที่สำนักข่าวกลางเกาหลีหรือเคซีเอ็นเอ (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือรายงานเมื่อวานนี้ว่า ขีปนาวุธดังกล่าวโจมตีเป้าหมายที่อยู่ห่างออกไป 700 กิโลเมตรได้อย่างแม่นยำ และเคลื่อนที่ไปด้านข้างเป็นระยะทาง 120 กิโลเมตร กลาโหมเกาหลีใต้ระบุว่า ข้ออ้างของเกาหลีเหนือเรื่องศักยภาพของขีปนาวุธ ทั้งพิสัยทำการและการเคลื่อนที่ไปด้านข้าง ดูเหมือนจะเกินความเป็นจริง เพราะเกาหลีเหนือยังไม่มีเทคโนโลยีที่จะผลิตขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงรุ่นนี้ กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ชี้ด้วยว่า การทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือไม่ใช่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีครั้งใหม่ เมื่อเทียบกับขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงที่เกาหลีเหนือทดสอบยิงครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน และนำมาจัดแสดงที่กรุงเปียงยางในเดือนตุลาคม ขอย้ำว่าเกาหลีใต้และสหรัฐมั่นใจว่า ศักยภาพทางกลาโหมของสองประเทศรวมกันสามารถตรวจจับและสกัดขีปนาวุธล่าสุดของเกาหลีเหนือได้.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นอนุมัติใช้มาตรการจำกัดโควิดกับ 3 จังหวัด

โตเกียว 7 ม.ค.- รัฐบาลญี่ปุ่นอนุมัติให้ใช้มาตรการจำกัดเพื่อควบคุมยอดติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นมากใน 3 จังหวัดทางตะวันตกเฉียงใต้ ประกอบด้วยโอกินาวะ ยามากุจิ และฮิโรชิมะ นายไดชิโระ ยามากิวะ รัฐมนตรีที่ดูแลเรื่องการรับมือโควิด-19 กล่าวในการประชุมคณะกรรมการของรัฐบาลว่า เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ทำให้ระบบสาธารณสุขเสี่ยงต้องแบกรับภาระหนักในอีกไม่นาน รัฐบาลจึงออกมาตรการจำกัดครั้งใหม่ ใน 3 จังหวัด เช่น ให้ปิดร้านอาหารเร็วขึ้น ห้ามเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงานที่มีคนจำนวนมาก เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์นี้ไปจนถึงสิ้นเดือน อย่างไรก็ดี รายละเอียดของมาตรการจะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ญี่ปุ่นใช้มาตรการจำกัดหลายครั้งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และยกเลิกมาตรการครั้งหลังสุดไปเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน การระบาดของสายพันธุ์โอไมครอนในขณะนี้ดูเหมือนจะเริ่มมาจากจังหวัดที่เป็นที่ตั้งฐานทัพสหรัฐ จังหวัดโอกินาวะซึ่งมีทหารอเมริกันมากที่สุดจากที่อยู่ในญี่ปุ่นทั้งหมด 55,000 นาย มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 30 เท่าในสัปดาห์เดียว และพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,400 คนในวันนี้ เพิ่มขึ้นจาก 981 คนเมื่อวันก่อน ญี่ปุ่นมียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 1 ล้าน 7 แสน 4 หมื่นคน เสียชีวิตมากกว่า 18,300 คน […]

อินเดียพบผู้ป่วยโควิดสูงสุดในรอบ 7 เดือน

นิวเดลี 7 ม.ค. – อินเดียพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่ 117,100 คน ทำสถิติสูงสุดตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมิถุนายนปีก่อน ในขณะที่เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนกำลังแพร่ระบาดเป็นสายพันธุ์หลักในอินเดียแทนเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา นพ. เอ็ม.ดี. กุปเต อดีตผู้อำนวยการสถาบันระบาดวิทยาแห่งชาติของอินเดียและที่ปรึกษาด้านภูมิคุ้มกันของรัฐบาลอินเดีย เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า อินเดียจะมียอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาสั้น ๆ และจะทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ โดยจะมีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อรายวันแซงหน้าสหรัฐ เนื่องจากอินเดียมีประชากรมากกว่า แต่ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะมีอาการป่วยไม่รุนแรง จึงไม่จำเป็นต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือใช้เครื่องช่วยหายใจ ทั้งยังระบุว่า อัตราผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่พุ่งสูงและการฉีดวัคซีนโควิดในช่วงที่มีการระบาดรุนแรงในเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมปีก่อนช่วยลดอาการป่วยรุนแรงในกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของกรุงนิวเดลีและรัฐมหาราษฏระที่มีนครมุมไบเป็นเมืองเอก ซึ่งพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่อยู่ในระดับสูง กล่าวว่า โรงพยาบาลและศูนย์ตรวจหาเชื้อโควิดยังไม่ประสบปัญหาภาวะตึงตัว เนื่องจากผู้ป่วยติดเชื้อจำนวนมากสามารถรักษาตัวจนหายป่วยได้เองที่บ้าน อย่างไรก็ดี รัฐมหาราษฏระได้ประกาศปิดการสอนในโรงเรียนและวิทยาลัย สั่งจำกัดจำนวนผู้เข้าชมในโรงภาพยนตร์และแขกในงานแต่งงาน ขณะที่นครเดลี ซึ่งพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดพุ่งขึ้น 5 เท่าในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลา 55 ชั่วโมงตั้งแต่ช่วงคืนวันนี้ถึงเช้าวันจันทร์ ขณะนี้ อินเดียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 35.2 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 483,000 คน. -สำนักข่าวไทย

เด็กเปรูเกือบแสนคนเป็นกำพร้าเพราะโควิด

ลิมา 7 ม.ค.- รัฐบาลเปรูเผยว่า เด็กเกือบ 100,000 คน ต้องเป็นกำพร้าสูญเสียบิดา หรือมารดา หรือผู้ปกครองหลักอย่างน้อย 1 คนเพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ทำให้เปรูมีอัตราส่วนผู้เสียชีวิตสูงที่สุดในโลก อนาฮี ดูรัน รัฐมนตรีสตรีของเปรูอ้างตัวเลขที่เผยแพร่ในวารสารการแพทย์แลนเซ็ตว่า เด็กชาวเปรูราว 98,000 คน สูญเสียบิดา หรือมารดา หรือผู้ปกครองเพราะโควิด รายงานระบุว่า เปรูมีอัตราการเสียชีวิตเพราะโควิดต่อหัวประชากรสูงที่สุดในโลกมากกว่า 6,000 คนต่อ 1 ล้านคน และรัฐบาลกำลังแจกเงินช่วยเหลือประชาชนกว่า 18,000 ครัวเรือน ครัวเรือนละ 50 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,680 บาท) ทุก 2 เดือน นางดูรันหวังว่า จะขยายสวัสดิการนี้ให้ครอบคลุมถึงการดูแลทางจิตใจและการศึกษา โดยให้ครอบคลุมเด็กและวัยรุ่นมากกว่า 83,000 คน ปัญหาสำคัญขณะนี้คือ หลายครอบครัวไม่มีเอกสารรับรองการเสียชีวิตเพราะโควิด ซึ่งเป็นเงื่อนไขในการขอสวัสดิการจากรัฐ เพราะหลายคนเสียชีวิตที่บ้านระหว่างการระบาดระลอกแรกและระลอกสอง เปรูซึ่งมีประชากร 33 ล้านคนกำลังเผชิญการระบาดระลอกสาม โดยมียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า […]

คาซัคสถานเผยฟื้นฟูระเบียบรัฐธรรมนูญได้หลังเหตุประท้วง

อัลมาตี 7 ม.ค. – ประธานาธิบดีคาซีม-โยมาร์ต โตคาเยฟ ของคาซัคสถาน เผยวันนี้ว่า ระเบียบการปกครองตามระบอบรัฐธรรมนูญของประเทศได้รับการฟื้นฟูแล้วหลังเกิดเหตุประท้วงรุนแรงในสัปดาห์นี้ สำนักประธานาธิบดีคาซัคสถานระบุในแถลงการณ์โดยอ้างคำพูดของประธานาธิบดีโตคาเยฟว่า คาซัคสถานได้เริ่มปฏิบัติการต่อต้านผู้ก่อการร้าย จากนี้จะมีการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการต่าง ๆ อย่างเข้มงวด และระเบียบตามรัฐธรรมนูญของคาซัคสถานก็ได้รับการฟื้นฟูในทุกภูมิภาคของประเทศแล้ว ทางการท้องถิ่นได้เข้าควบคุมสถานการณ์ไม่สงบที่เกิดขึ้น แต่กลุ่มก่อการร้ายยังคงใช้อาวุธทำลายทรัพย์สินของประชาชน คาซัคสถานจึงต้องเดินหน้าใช้ปฏิบัติการต่อต้านกลุ่มก่อการร้ายต่อไปจนกว่าจะจำกัดกลุ่มคนเหล่านี้ได้ทั้งหมด ประธานาธิบดีโตคาเยฟมีกำหนดกล่าวคำปราศรัยต่อคนทั้งประเทศในวันนี้ โดยจะขอให้ประชาชนงดเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ทั่วเมืองอัลมาตี ในขณะที่ทางการกำลังเร่งค้นหาตัวผู้ก่อการร้ายที่กำลังหลบหนี กระทรวงมหาดไทยของคาซัคสถานระบุในแถลงการณ์อีกฉบับว่า กองกำลังของคาซัคสถานได้สังหาร “อาชญากรติดอาวุธ” ไป  26 ราย และจับกุมได้อีกกว่า 3,000 คน นอกจากนี้ ยังมีตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต 18 นายนับตั้งแต่เกิดเหตุประท้วงช่วงหลังปีใหม่เป็นต้นมา ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า รถลำเลียงพลหุ้มเกราะและเจ้าหน้าที่ทหารจำนวนมากได้ลงพื้นที่ประจำการบริเวณจัตุรัสหลักของเมืองอัลมาตี ซึ่งเป็นเมืองใหญ่สุดของคาซัคสถาน เมื่อช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่รัสเซียระบุเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ได้ส่งกำลังทหารพลร่มไปยังคาซัคสถานเพื่อช่วยควบคุมเหตุประท้วงรุนแรงทั่วประเทศ เนื่องจากคาซัคสถานได้ขอความช่วยเหลือดังกล่าวจากองค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วมกัน หรือซีเอสทีโอ ที่มีรัสเซียเป็นแกนนำ ทั้งนี้ คาซัคสถานเผชิญกับเหตุประท้วงครั้งใหญ่ติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายวัน นับตั้งแต่ขึ้นราคาน้ำมันในวันปีใหม่.-สำนักข่าวไทย

หิมะตกในโตเกียวทำคนเข้าโรงพยาบาลกว่า 200 คน

กรุงโตเกียวของญี่ปุ่นแจ้งว่า เมื่อวานและวันนี้ มีคนเข้าโรงพยาบาลมากกว่า 200 คน เพราะลื่นล้มจากหิมะและน้ำแข็งที่เกาะตามผิวถนน หลังจากกรุงโตเกียวมีหิมะตกหนักครั้งแรกในรอบ 4 ปี

ญี่ปุ่น-สหรัฐชี้จีนพยายามบั่นทอนระเบียบที่มีกฎเป็นพื้นฐาน

โตเกียว 7 ม.ค.- รัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีกลาโหมของญี่ปุ่นและสหรัฐแสดงความกังวลร่วมกันเรื่องจีนพยายามบั่นทอนระเบียบที่มีกฎเป็นพื้นฐาน พร้อมกับประกาศจะร่วมมือกันขัดขวางและตอบโต้การกระทำที่สั่นคลอนเสถียรภาพ นายโยชิมาสะ ฮายาชิ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น นายโนบูโอะ คิชิ รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่น นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ และนายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ออกแถลงการณ์ร่วมหลังจากประชุมออนไลน์ในวันนี้ ย้ำเรื่องความสำคัญของสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน คัดค้านการกระทำตามอำเภอใจที่คุกคามการที่ญี่ปุ่นดูแลหมู่เกาะเซนกากุในทะเลจีนตะวันออก จีนเรียกหมู่เกาะดังกล่าวว่าเตียวหยูและอ้างกรรมสิทธิครอบครองแม้ว่าญี่ปุ่นควบคุมอยู่ นอกจากนี้ยังแสดงความกังวลอย่างยิ่งเรื่องสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์และฮ่องกงที่อยู่ภายใต้การปกครองของจีน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐชี้ว่า สหรัฐและญี่ปุ่นจะต้องสร้างเครื่องมือใหม่ ๆ เพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่กำลังเกิดขึ้นจากประเทศที่หาทางบั่นทอนระเบียบสากลที่มีกฎเป็นพื้นฐานอย่างจีนและเกาหลีเหนือ ขณะนี้ทั้งสองประเทศได้ริเริ่มข้อตกลงการวิจัยและพัฒนาที่จะเอื้อให้นักวิทยาศาสตร์ร่วมมือกันง่ายขึ้นในประเด็นด้านกลาโหม มีตั้งแต่การรับมือกับภัยขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงไปจนถึงการพัฒนาศักยภาพด้านอวกาศ.-สำนักข่าวไทย

1 135 136 137 138 139 315