เวียดนามจะไม่ปิดโรงงานแม้ยอดติดโควิดเพิ่ม

ฮานอย 14 ก.พ.- เวียดนามจะไม่ปิดโรงงานผลิตทุกประเภท แม้ยอดผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มขึ้น หลังจากที่เคยใช้นโยบายล็อกดาวน์อย่างกว้างขวางเมื่อปีก่อน กระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของร้านค้าปลีกสัญชาติตะวันตกที่ครอบคลุมกระบวนการตั้งแต่การผลิตสินค้าไปจนถึงการจัดส่งถึงมือผู้บริโภค รัฐบาลเวียดนามชี้แจงว่า ขณะนี้คนงานจำนวนมากได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และมีการพิสูจน์แล้วว่าการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนมีความรุนแรงน้อยกว่าการระบาดของสายพันธุ์เดลตาเมื่อ 9 เดือนก่อน ครั้งนั้นโรงงานผลิตให้แก่สินค้าชื่อดังอย่างไนกี้ ซาร่า แอปเปิล ซัมซุง ต้องปิดนานหลายเดือน เวียดนามเริ่มผ่อนคลายมาตรการจำกัดการระบาดแล้ว โดยให้โรงเรียนเปิดการเรียนการสอนเมื่อสัปดาห์ก่อน และจะยกเลิกมาตรการจำกัดเที่ยวบินโดยสารระหว่างประเทศตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ แม้ว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 26,000 คนเมื่อวันอาทิตย์ หรือ 2 เท่าของช่วงที่เดลตาระบาดสูงสุด ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขเวียดนามระบุว่า ประชากรมากกว่าร้อยละ 76 ฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 2 เข็ม เทียบกับต้นเดือนกันยายนปีก่อนที่ฉีดเพียงร้อยละ 3.3 เท่านั้น หอการค้าอเมริกันในเวียดนามคาดว่า สถานการณ์ในปีนี้จะดีกว่าปีก่อน และไม่คิดว่าทางการเวียดนามจะล็อกดาวน์ทั่วประเทศอีกครั้ง เพราะจำนวนผู้ป่วยอาการหนักในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศอยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้ และทางการได้เรียนรู้แล้วว่ามาตรการจำกัดที่กระทบต่อเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่ไม่ยั่งยืน นอกจากนี้หากโรงงานในเวียดนามดำเนินงานอย่างราบรื่นก็จะช่วยแก้ปัญหาห่วงโซ่อุปทานติดขัดที่ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นทั่วโลก เพราะช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเวียดนามได้กลายเป็นตัวเลือกฐานการผลิตของธุรกิจจำนวนมากที่ต้องการลดการพึ่งพาจีน.-สำนักข่าวไทย

ฝูงนกในเม็กซิโกร่วงกระแทกพื้นตายเกลื่อนไม่ทราบสาเหตุ

เม็กซิโกซิตี 14 ก.พ. – หนังสือพิมพ์นิวยอร์กโพสต์ของสหรัฐรายงานว่า ผู้ใช้งานสื่อโซเชียลมีเดียกำลังพยายามหาคำตอบเกี่ยวกับปริศนาการตายอย่างลึกลับของฝูงนกแบล็กเบิร์ดหัวเหลือง หลังมีคลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นภาพฝูงนกดังกล่าวจำนวนมากร่วงจากท้องฟ้าตกกระแทกพื้นจนทำให้มีนกหลายสิบตัวตายเกลื่อนบนถนนที่เมืองหนึ่งของรัฐชีวาวาในเม็กซิโก นายแมตต์ ชแลปป์ ประธานสหภาพอนุรักษ์นิยมอเมริกัน (American Conservative Union) กล่าวหลังได้ชมคลิปวิดีโอดังกล่าวที่ตกเป็นกระแสในโลกออนไลน์เมื่อวันเสาร์ว่า เขาหวังว่าปรากฏการณ์นี้ไม่ได้เกิดจากโรคไข้หวัดนก ขณะที่หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของรัฐชีวาวาที่ตีพิมพ์เป็นภาษาสเปน รายงานว่า ฝูงนกที่ตกลงมาเสียชีวิตบนทางเท้าที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมืองกูโอเตม็อกของรัฐชีวาวาเป็นนกแบล็กเบิร์ดหัวเหลือง (yellow-headed blackbird) โดยที่นกเหล่านี้มักจะอพยพจากพื้นที่ทางตอนเหนือของแคนาดามายังเม็กซิโกในช่วงฤดูหนาว ขณะนี้ ยังไม่มีผู้ใดทราบแน่ชัดเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้ฝูงนกแบล็กเบิร์ดหัวเหลืองตกกระแทกพื้นตายเกลื่อนหลายสิบตัว แต่มีผู้เชี่ยวชาญบางส่วนคาดว่าฝูงนกดังกล่าวอาจได้รับผลกระทบจากปัญหามลพิษที่เพิ่มขึ้น ซึ่งกำลังปกคลุมไปทั่วรัฐชีวาวาของเม็กซิโก. -สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นอพยพ จนท.ส่วนใหญ่ออกจากสถานทูตในยูเครน

โตเกียว 14 ก.พ.- สถานทูตญี่ปุ่นในกรุงเคียฟของยูเครนเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่จะเดินทางออกจากยูเครน เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดขึ้นอย่างรวดเร็วจากเรื่องที่รัสเซียอาจรุกรานยูเครนหลังจากระดมกำลังพลไว้ใกล้ชายแดน สถานทูตญี่ปุ่นในกรุงเคียฟได้ส่งอีเมลแจ้งพลเรือนชาวญี่ปุ่นตั้งแต่วันศุกร์ให้เร่งเดินทางออกจากยูเครนโดยทันที และแจ้งว่าสถานทูตจะให้บริการอย่างจำกัดตั้งแต่วันจันทร์ เนื่องจากจะเหลือเจ้าหน้าที่ไว้เพียงจำนวนน้อยเท่านั้น ขณะที่นายโยชิมาสะ ฮายาชิ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นเผยกับสื่อเมื่อวันเสาร์หลังการเจรจา 3 ฝ่ายกับสหรัฐและเกาหลีใต้ว่า ทางการได้ขอให้ชาวญี่ปุ่นในยูเครนเร่งอพยพอย่างปลอดภัยโดยทันที ด้านเจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นเผยในวันนี้ว่า คาดว่าจำนวนเจ้าหน้าที่สถานทูตญี่ปุ่นในกรุงเคียฟจะเหลือไม่ถึง 10 คน โดยมีเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นรวมอยู่ด้วย เว็บไซต์สำนักข่าวเกียวโดนิวส์รายงานว่า สถานทูตญี่ปุ่นในยูเครนอ้างถึงรายงานข่าวที่อ้างอิงความเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐว่า รัสเซียอาจเริ่มรุกรานยูเครนในขณะที่กำลังมีการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวปักกิ่ง 2022 อยู่ในขณะนี้ และว่ารัฐบาลสหรัฐได้สั่งให้พลเรือนอเมริกันอพยพออกจากยูเครนแล้ว.-สำนักข่าวไทย

คลื่นสูงซัดชาวอินโดฯ ประกอบพิธีกรรมริมหาด ตาย 10 ราย

จาการ์ตา 14 ก.พ. – กลุ่มชาวอินโดนีเซียที่จัดพิธีกรรมนั่งสมาธิริมชายหาดแห่งหนึ่งในจังหวัดชวาตะวันออกของอินโดนีเซีย ถูกคลื่นสูงซัดจมทะเลเสียชีวิตอย่างน้อย 10 รายเมื่อช่วงเช้ามืดของวันอาทิตย์ ตำรวจท้องถิ่นของจังหวัดชวาตะวันออกเผยว่า กลุ่มชาวอินโดนีเซีย 23 คนได้จัดพิธีกรรมจับมือนั่งสมาธิที่บริเวณชายหาดปายางันในจังหวัดชวาตะวันออกเมื่อช่วงเช้ามืดของวันอาทิตย์ คนกลุ่มนี้นั่งอยู่ใกล้ทะเลมากเกินไปจนทำให้ไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้เมื่อถูกคลื่นสูงซัดจนลอยออกไปไกลฝั่ง ขณะนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบร่างผู้เสียชีวิตในทะเลแล้ว 10 ราย ช่วยผู้รอดชีวิตได้ 12 คน และมีผู้สูญหายอีก 1 คนเป็นชายวัย 40 ปี ทั้งนี้ ตำรวจท้องถิ่นยังไม่ทราบข้อมูลแน่ชัดเกี่ยวกับการจัดพิธีกรรมดังกล่าว แต่จะสืบสวนผู้นำจิตวิญญาณของกลุ่มที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้ต่อไป ในขณะเดียวกัน สื่อท้องถิ่นของอินโดนีเซียรายงานว่า คนกลุ่มนี้เดินทางมาจากเมืองใกล้เคียง บางคนเป็นญาติพี่น้องกัน ส่วนผู้บัญชาการกองทัพระดับภูมิภาคของอินโดนีเซียระบุว่า ปกติจะมีเจ้าหน้าที่เฝ้ายามที่หาดดังกล่าวและปิดหาดในช่วงกลางคืน แต่คาดว่ากลุ่มคนเหล่านี้อาจหาทางลักลอบเข้าไปในพื้นที่จนทำให้เกิดเหตุเศร้าสลดขึ้น ทั้งยังเตือนไม่ให้ประชาชนที่เดินทางไปท่องเที่ยวชายหาดปายางันลงไปว่ายน้ำหรือเข้าใกล้ทะเล เนื่องจากมีรายงานแจ้งเตือนคลื่นสูงที่หาดดังกล่าว. -สำนักข่าวไทย

ตร.นิวซีแลนด์โวยสภาใช้เพลงไล่ผู้ประท้วงต้านวัคซีนโควิด

เวลลิงตัน 14 ก.พ.- ตำรวจนิวซีแลนด์ที่กำลังรับมือกับผู้ปักหลักประท้วงหน้ารัฐสภาต่อต้านวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ตำหนิรัฐสภาที่ใช้การเปิดเพลงเสียงดังเป็นวิธีไล่ผู้ประท้วง นายตำรวจกรุงเวลลิงตันเผยกับสถานีวิทยุในประเทศว่า การที่เจ้าหน้าที่รัฐสภาระดมเปิดเพลงติดหูอย่าง เบบี้ชาร์ก มากาเรนา และแมนดีของแบร์รี แมนิโลว์ทำให้ผู้ประท้วงอยากปักหลักอยู่ต่อไปมากกว่าคิดจะแยกย้าย เป็นวิธีที่ตำรวจไม่เห็นด้วยและไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น พร้อมกับถือโอกาสนี้ชี้แจงเรื่องที่ตำรวจพยายามผลักดันผู้ประท้วงตั้งแต่วันพฤหัสบดีจนเกิดการปะทะกันและมีผู้ถูกจับกุมมากกว่า 120 คน ตำรวจขอให้ผู้ขับยวดยานมาปิดกั้นถนนหน้ารัฐสภาตั้งแต่สัปดาห์ก่อนเคลื่อนย้ายรถออกไปและขอให้ผู้จัดการประท้วงหันมาเจรจา ด้านนายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์นของนิวซีแลนด์กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ในประเทศว่า เห็นได้ชัดว่าการประท้วงในนิวซีแลนด์ถูกครอบงำโดยกลุ่มคนต่อต้านวัคซีน ต่างจากแคนาดาที่คนขับยวดยานไปปิดถนนเพื่อประท้วงการบังคับฉีดวัคซีน นอกจากนี้ผู้ประท้วงยังแสดงพฤติกรรมน่ากลัว เช่น ตะโกนใส่ผู้สัญจรผ่านที่สวมหน้ากากอนามัย ผู้นำนิวซีแลนด์ไม่ได้แสดงความเห็นเรื่องรัฐสภาใช้เพลงไล่ผู้ประท้วง แต่นักการเมืองฝ่ายค้านพากันตำหนินายเทรเวอร์ มัลลาร์ด ประธานสภาผู้แทนราษฎร สังกัดพรรคแรงงานของนางอาร์เดิร์นที่อนุมัติให้เจ้าหน้าที่ใช้วิธีนี้ว่า น่าอาย ไร้ผล ทำตัวเหมือนเด็ก และยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง.-สำนักข่าวไทย

ตำรวจแคนาดาสลายม็อบประท้วงโควิดปิดสะพานได้แล้ว

ออตตาวา 14 ก.พ. – ตำรวจแคนาดาสลายม็อบรถบรรทุกปิดสะพานหลักที่เป็นเส้นทางสัญจรเชื่อมระหว่างแคนาดากับสหรัฐได้แล้ว หลังม็อบดังกล่าวได้ชุมนุมขัดขวางการเดินทางในเส้นทางดังกล่าวมาเป็นเวลา 1 สัปดาห์เพื่อต่อต้านมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ของรัฐบาลแคนาดา ตำรวจแคนาดาระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ตำรวจได้จับกุมกลุ่มผู้ชุมนุมที่หลงเหลืออยู่หลายสิบคนในความผิดฐานสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินหรือกระทำการก่อกวน รวมถึงได้เคลื่อนย้ายรถบรรทุกหลายคันออกจากพื้นที่โดยที่ไม่มีกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาขัดขวาง ทั้งนี้ ตำรวจแคนาดาได้พยายามสลายการชุมนุมตั้งแต่ช่วงเช้าวันเสาร์ เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนมากยอมออกจากพื้นที่โดยสันติหลังตำรวจประกาศคำสั่งให้ออกจากพื้นที่ดังกล่าว อย่างไรก็ดี เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ยังคงมีกลุ่มผู้ชุมนุมหลงเหลืออยู่หลายสิบคนจนทำให้ตำรวจต้องจับกุมผู้ชุมนุมกลุ่มนี้ ในขณะเดียวกัน ตำรวจเมืองวินเซอร์ในรัฐออนแทรีโอของแคนาดา ซึ่งมีพรมแดนติดกับเมืองดีทรอยต์ในรัฐมิชิแกนของสหรัฐ ระบุผ่านทวิตเตอร์แจ้งเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสะพานแอมบาสเดอร์ เนื่องจากยังคงมีคำสั่งบังคับใช้ทางกฎหมายเกี่ยวกับการชุมนุมและตำรวจจะดำเนินการอย่างเข้มงวดต่อกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ขณะนี้ ตำรวจสามารถควบคุมเส้นทางสัญจรที่สะพานดังกล่าวได้แล้ว แต่ยังคงไม่เปิดสะพาน บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า กลุ่มคนขับรถบรรทุกชาวแคนาดาได้ออกมาชุมนุมต่อต้านข้อกำหนดใช้ใบรับรองฉีดวัคซีนโควิดของรัฐบาลเพื่อเดินทางข้ามพรมแดนจนทำให้เส้นทางการค้าที่สะพานแอมบาสเดอร์เป็นอัมพาต ก่อนหน้านี้ ผู้พิพากษาของศาลแคนาดาได้ออกคำสั่งเมื่อวันศุกร์ให้สลายการชุมนุมดังกล่าว แต่ยังคงมีผู้ประท้วงหลายสิบคนที่ไม่ยอมออกจากพื้นที่. -สำนักข่าวไทย

ตร.ฝรั่งเศสรวบม็อบรถต้านวัคซีนโควิด

ปารีส 14 ก.พ.- ตำรวจกรุงปารีสของฝรั่งเศสจับกุมผู้เข้าร่วมขบวนรถปิดกั้นถนนเพื่อต่อต้านการบังคับใช้ใบรับรองฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดยยังคงควบคุมตัวอยู่ในขณะนี้ 81 คนจากที่จับกุมทั้งหมด 97 คน ผู้ประท้วงจากทั่วฝรั่งเศสขับยวดยานมาปิดกั้นถนนในกรุงปารีสเมื่อวันเสาร์ เลียนแบบการประท้วงในแคนาดา บางส่วนขับต่อไปยังกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมซึ่งเป็นที่ตั้งของสหภาพยุโรป ขณะที่บางส่วนมากกว่า 100 คันรวมตัวกันที่ถนนช็องเซลีเซในกรุงปารีส ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม จนเกิดภาพคล้ายกับเมื่อครั้งที่มีการประท้วงเสื้อกั๊กเหลืองช่วงปี 2561-2562 ตำรวจควบคุมตัวผู้ประท้วงที่ยังไม่ยอมออกจากพื้นที่เมื่อวันอาทิตย์ได้ 97 คน ก่อนปล่อยไปบางส่วนเหลือควบคุมตัวอยู่ 81 คน การประท้วงในฝรั่งเศสเป็นการประท้วงมาตรการบังคับให้ต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนเมื่อจะใช้บริการสถานที่สาธารณะ ขณะที่การประท้วงในแคนาดาเป็นการประท้วงมาตรการบังคับให้คนขับรถบรรทุกข้ามพรมแดนแคนาดา-สหรัฐต้องฉีดวัคซีน ด้านเบลเยียมห้ามการชุมนุมและขอให้ผู้ขับขี่ยวดยานกลับไปประท้วงในประเทศตัวเอง ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสที่คาดกันว่าจะลงเลือกตั้งอีกสมัยในเดือนเมษายนนี้เผยว่า เข้าใจดีว่าประชาชนเหนื่อยล้ากับการระบาดที่ยืดเยื้อมา 2 ปี และความเหนื่อยล้ามักนำมาซึ่งความโกรธ แต่ขอให้ทุกคนใจเย็นให้มากที่สุด รัฐบาลเตรียมผ่อนคลายมาตรการบังคับสวมหน้ากากอนามัยภายในสิ้นเดือนนี้ และหวังว่าจะสามารถยกเลิกการใช้บัตรผ่านวัคซีนได้ภายในปลายเดือนมีนาคมหรือต้นเมษายน.-สำนักข่าวไทย

ยูเครนเร่งหาทางจัดประชุมกับรัสเซียใน 48 ชม.

เคียฟ 14 ก.พ. – ยูเครนเรียกร้องให้จัดการประชุมกับรัสเซียและประเทศสมาชิกหลักของกลุ่มความมั่นคงทวีปยุโรปเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณพรมแดนรัสเซียกับยูเครน นายดมิทโตร คูเลบา รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของยูเครน กล่าวว่า รัสเซียได้ปฏิเสธคำร้องขออย่างเป็นทางการจากยูเครนที่ขอให้อธิบายสาเหตุของการวางกำลังพลบริเวณพรมแดนรัสเซียที่ติดกับยูเครน ขั้นต่อไปยูเครนกำลังขอจัดการประชุมภายใน 48 ชั่วโมงกับรัสเซียเพื่อให้ทราบถึงความโปร่งใสเกี่ยวกับแผนวางกำลังพลดังกล่าว นายคูเลบายังระบุว่า ยูเครนได้เรียกร้องคำตอบจากรัสเซียเกี่ยวกับเจตนาของรัสเซียภายใต้ข้อกำหนดของเอกสารเวียนนา (Vienna Document) ซึ่งเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับประเด็นด้านความมั่นคงที่รับรองโดยประเทศสมาชิกขององค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป หรือโอเอสซีอี ที่รัสเซียเป็นสมาชิกด้วย ทั้งนี้ หากรัสเซียให้ความสำคัญเรื่องความมั่นคงภายใต้กรอบโอเอสซีอี ก็ต้องปฏิบัติตามพันธสัญญาเกี่ยวกับความโปร่งใสทางทหารเพื่อบรรเทาสถานการณ์ตึงเครียดและส่งเสริมความมั่นคงต่อทุกประเทศ อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ซึ่งเคยติงว่าอาจเกิดความตระหนกในวงกว้างจากข้อกล่าวหาเรื่องรัสเซียอาจบุกยูเครน กล่าวว่า เขายังไม่เห็นหลักฐานที่ชี้ว่ารัสเซียกำลังวางแผนบุกยูเครนในเร็ว ๆ นี้ ขณะที่บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดีเซเลนสกีได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ เมื่อวันอาทิตย์เป็นเวลาเกือบ 1 ชั่วโมง โดยที่ผู้นำสหรัฐได้เน้นย้ำว่า สหรัฐพร้อมให้การสนับสนุนยูเครน และผู้นำของทั้งสองประเทศเห็นพ้องต้องกันในประเด็นเกี่ยวกับความสำคัญของการเดินหน้าทางการทูตและการป้องปรามต่อไป ทั้งนี้ ประธานาธิบดีเซเลนสกีได้กล่าวขอบคุณสหรัฐสำหรับการสนับสนุนที่ไม่เปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งกล่าวเชิญประธานาธิบดีไบเดนเดินทางเยือนยูเครนอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำฮ่องกงเผยโควิดระลอก 5 รุนแรงเกินรับไหวแล้ว

ฮ่องกง 14 ก.พ.- นางแคร์รี หล่ำ ผู้นำฮ่องกงระบุว่า สถานการณ์การติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในฮ่องกงขณะนี้มีความรุนแรงจนเกินศักยภาพที่จะรับไหว ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เดินหน้าทำสถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่อง นางหล่ำกล่าวว่า รัฐบาลจะประสานงานกับเจ้าหน้าที่จีนเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เลวร้ายลง หลังจากจีนเผยว่าจะช่วยฮ่องกงเรื่องการตรวจหาเชื้อ รักษาและกักโรคผู้ติดเชื้อ การจู่โจมของการระบาดระลอก 5 ส่งผลกระทบอย่างหนักและเกินศักยภาพในการรับมือของฮ่องกง ยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นทำให้ผู้ติดเชื้อต้องรอนานขึ้นกว่าจะได้เข้าสถานกักโรค เป็นสถานการณ์ที่ไม่น่าปรารถนาอย่างยิ่ง รัฐบาลรู้สึกกังวลและเสียใจ อย่างไรก็ดี ผู้นำฮ่องกงยืนยันว่า จะพยายามอย่างเต็มกำลังในการปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ควบคุมโควิดให้เป็นศูนย์ต่อไป ฮ่องกงมีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้น 13 เท่าในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากประมาณ 100 คนเมื่อเริ่มต้นเดือนกุมภาพันธ์ เป็นมากกว่า 1,300 คนเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ และมีผู้ต้องสงสัยติดเชื้ออีก 2,000 คน ทำให้ระบบสาธารณสุขตึงตัวอย่างมาก ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ยอดติดเชื้อรายวันอาจแตะ 28,000 คนภายในสิ้นเดือนมีนาคม ผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเป็นกลุ่มที่เป็นน่าห่วงเป็นพิเศษ อัตราผู้ป่วยโควิดครองเตียงในโรงพยาบาลสูงถึงร้อยละ 90 และสถานกักโรคก็ใกล้เต็มศักยภาพแล้ว ส่วนยอดติดเชื้อสะสมราว 24,000 คน และเสียชีวิตราว 200 คน.-สำนักข่าวไทย

เผย “มาครง” ไม่ให้รัสเซียตรวจโควิดเพราะหวั่นขโมย DNA

ปารีส 11 ก.พ. – แหล่งข่าวที่อยู่ในคณะผู้ติดตามประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เผยว่า ผู้นำฝรั่งเศสไม่ยอมเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดตามคำขอของทางการรัสเซียในขณะที่เดินทางเข้าพบประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียเมื่อวันจันทร์ เพื่อป้องกันไม่ให้รัสเซียได้ข้อมูลดีเอ็นเอของประธานาธิบดีมาครง แหล่งข่าวใกล้ชิดด้านข้อกำหนดทางสุขภาพของประธานาธิบดีมาครงเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า ผู้นำฝรั่งเศสมี 2 ทางเลือก คือ ยอมเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดแบบซีพีอาร์ของทางการรัสเซียเพื่อให้ได้รับอนุญาตเข้าใกล้ประธานาธิบดีปูติน หรือปฏิเสธการตรวจหาเชื้อโควิดและต้องเว้นระยะห่างทางสังคมกับผู้นำรัสเซีย ทั้งยังระบุว่า ฝรั่งเศสทราบดีว่าการเดินทางเยือนรัสเซียของประธานาธิบดีมาครงในครั้งนี้จะไม่มีภาพการจับมือระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศและต้องมีการใช้โต๊ะยาว เพราะฝรั่งเศสไม่ยอมให้รัสเซียได้ข้อมูลดีเอ็นเอของประธานาธิบดีมาครงอย่างแน่นอน ในขณะเดียวกัน แหล่งข่าวที่อยู่ในคณะผู้ติดตามประธานาธิบดีมาครงยืนยันว่า ผู้นำฝรั่งเศสได้ปฏิเสธเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดแบบพีซีอาร์โดยแพทย์ชาวรัสเซียจริง โดยเลือกตรวจหาเชื้อโควิดแบบพีซีอาร์ที่ฝรั่งเศสก่อนออกเดินทางไปรัสเซียและให้แพทย์ประจำตัวที่เป็นชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ตรวจหาเชื้อโควิดอีกครั้งเมื่อเดินทางถึงรัสเซีย สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามคำบอกเล่าของแหล่งข่าวใกล้ชิดเป็นเหตุให้ประธานาธิบดีมาครงต้องรักษาระยะห่างทางสังคมกับประธานาธิบดีปูตินในระหว่างการเดินทางเยือนรัสเซียเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาวิกฤตการณ์ในยูเครน ขณะที่นักวิเคราะห์และนักการทูตหลายรายตั้งข้อสังเกตว่า ภาพถ่ายที่มีประธานาธิบดีปูตินนั่งหารือกับประธานาธิบดีมาครงบนโต๊ะยาว 4 เมตรเมื่อวันจันทร์อาจสะท้อนให้เห็นว่า ผู้นำรัสเซียต้องการส่งสารแสดงท่าทีทางการทูตบางอย่าง.-สำนักข่าวไทย

ฮ่องกงหวั่นขาดอาหารสดซ้ำหลังคนขับรถบรรทุกติดโควิดเพิ่ม

ฮ่องกงหวั่นประสบปัญหาขาดแคลนอาหารสดซ้ำอีกครั้ง หลังจีนพบคนขับรถบรรทุกจากฮ่องกงที่มีหน้าที่ขนส่งอาหารจากจีนมายังฮ่องกง มีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวกเพิ่มขึ้นที่บริเวณพรมแดนจีน

ออสเตรเลียขึ้นบัญชีโคอาลาเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์

ออสเตรเลียขึ้นบัญชีโคอาลาเป็นสิ่งมีชีวิตใกล้สูญพันธุ์ (endangered species) ในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกส่วนใหญ่ของออสเตรเลีย หลังพบว่าโคอาลามีจำนวนลดลงอย่างน่าตกใจ

1 117 118 119 120 121 315