ดัชเชสคามิลลาทรงติดเชื้อโควิด

ลอนดอน 15 ก.พ. – พระตำหนักแคลเรนซ์ของอังกฤษยืนยันว่า คามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์และพระชายาของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ ทรงมีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นบวกและอยู่ในระหว่างการกักพระองค์แล้ว บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พระชนมายุ 73 พรรษา ทรงติดเชื้อโควิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว แต่ดัชเชสคามิลลา พระชันษา 74 ปี ทรงเข้าร่วมงานสาธารณะ 3 งานในวันเดียวกันหลังมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบ โดยที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงติดโควิดหลังจากที่ทรงเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระชนมพรรษา 95 พรรษา ได้เพียง 2 วัน ขณะที่สำนักพระราชวังบักกิงแฮมระบุว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงไม่มีพระอาการที่เชื่อมโยงกับโรคโควิด และไม่ได้ยืนยันว่าพระองค์ทรงเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดหรือไม่ โดยอ้างเหตุผลว่าเป็นข้อมูลทางการแพทย์ส่วนพระองค์ ทั้งนี้ คามิลลาทรงติดเชื้อโควิดเป็นครั้งแรก ในขณะที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงติดโควิดเป็นครั้งที่สองแล้ว ในขณะเดียวกัน โฆษกพระตำหนักแคลเรนซ์ระบุว่า ดัชเชสคามิลลาจะทรงกักพระองค์และปฏิบัติตามข้อกำหนดของรัฐบาลอังกฤษต่อไป พร้อมทั้งแจ้งเตือนให้คณะผู้จัดงานสาธารณะที่ดัชเชสคามิลลาทรงเข้าร่วมเมื่อวันพฤหัสบดี รวมถึงสื่อมวลชนในงานดังกล่าวที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดระมัดระวังตนเองและเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด. -สำนักข่าวไทย

ผู้นำสหรัฐ-อังกฤษยังหวังใช้การทูตยุติวิกฤตยูเครน

วอชิงตัน 15 ก.พ.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐและนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษเห็นตรงกันว่า ยังไม่หมดหวังเรื่องจะมีหนทางทางการทูตแก้ไขวิกฤตยูเครน แต่เตือนว่าสถานการณ์ยังคงเปราะบาง สำนักนายกรัฐมนตรีอังกฤษแถลงว่า ในการสนทนาทางโทรศัพท์นาน 40 นาที ผู้นำอังกฤษและสหรัฐได้แลกเปลี่ยนผลการหารือเมื่อไม่นานมานี้กับผู้นำชาติอื่น ๆ และเห็นตรงกันว่ายังคงมีโอกาสที่จะมีข้อตกลงทางการทูต และโอกาสให้รัสเซียได้ก้าวถอยหลังจากการคุกคามยูเครน ผู้นำทั้งสองย้ำว่า การรุกรานยูเครนจะทำให้รัสเซียเผชิญกับวิกฤตยืดเยื้อ เป็นความเสียหายที่แผ่ขยายไปทั่วทั้งต่อรัสเซียและประชาคมโลก นายกรัฐมนตรีจอห์นสันกล่าวว่า อังกฤษพร้อมทำทุกอย่างที่จะสามารถช่วยได้ ขณะที่ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวตอบว่า สหรัฐจะไม่เดินหน้าโดยไม่มีอังกฤษ คาดว่าผู้นำอังกฤษจะเรียกประชุมพิเศษในวันนี้เพื่อหารือท่าทีของอังกฤษต่อไป ด้านนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกล่าวในวันเดียวกันว่า ยังมีความเป็นไปได้อยู่อีกมากที่รัสเซียจะบรรลุข้อตกลงกับชาติตะวันตก ขณะที่หลายประเทศได้ขอให้พลเรือนเดินทางออกจากยูเครนโดยทันที หลังจากสหรัฐระบุว่า อาจมีการทิ้งระเบิดทางอากาศเกิดขึ้นได้ทุกเวลา.-สำนักข่าวไทย

รบ. ทหารเมียนมาประกาศไม่ร่วมประชุมอาเซียนสัปดาห์นี้

ย่างกุ้ง 15 ก.พ. – รัฐบาลทหารเมียนมาระบุว่า จะไม่เข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีต่างประเทศของอาเซียนที่มีกำหนดจัดขึ้นในสัปดาห์นี้ หลังสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ไม่อนุญาตให้รัฐมนตรีต่างประเทศของรัฐบาลทหารเมียนมาเข้าร่วมประชุม เนื่องจากขาดความคืบหน้าด้านการเดินหน้ายุติความรุนแรงในประเทศนับตั้งแต่เกิดเหตุรัฐประหารเมื่อปีก่อน กระทรวงต่างประเทศของรัฐบาลทหารเมียนมาระบุในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ว่า การที่อาเซียนไม่อนุญาตให้นายวันนา หม่อง ลวิน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลทหาร เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่กัมพูชาเป็นเจ้าภาพถือเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง ด้วยเหตุนี้ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เมียนมาจะไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมหรือแม้แต่แต่งตั้งตัวแทนที่ไม่ใช่ฝ่ายการเมืองไปเข้าร่วมการประชุม แถลงการณ์ยังได้กล่าวโทษสมาชิกอาเซียนบางประเทศโดยไม่ระบุชื่อว่า ยังคงยึดมั่นตามการตัดสินใจแต่ฝ่ายเดียวของอาเซียนเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อนที่ห้าม พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ก่อนหน้านี้ อาเซียนได้ลงมติไม่ให้รัฐมนตรีต่างประเทศของรัฐบาลทหารเมียนมาเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว แต่ยินยอมให้รัฐบาลทหารส่งตัวแทนที่ไม่ใช่ฝ่ายการเมืองเข้าร่วมการประชุมแทน เนื่องจากเมียนมาขาดความคืบหน้าในการดำเนินงานตามแผนฉันทามติ 5 ข้อตามที่ตกลงไว้กับอาเซียนเมื่อปีก่อนเพื่ออำนวยความสะดวกให้ตัวแทนจากอาเซียนมีโอกาสเจรจากับกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา ขณะนี้ เมียนมายังคงเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารกับกองทัพเมียนมา. -สำนักข่าวไทย

เผยจรวดที่จะชนดวงจันทร์เป็นของจีนไม่ใช่สเปซเอ็กซ์

วอชิงตัน 15 ก.พ.- ผู้เชี่ยวชาญด้านดาราศาสตร์ชี้แจงว่า จรวดที่คาดจะชนพื้นผิวดวงจันทร์ในต้นเดือนมีนาคมเป็นจรวดของจีน ไม่ใช่ของสเปซเอ็กซ์ตามที่เคยเข้าใจผิดก่อนหน้านี้ นายบิล เกรย์ นักดาราศาสตร์ ผู้เปิดเผยเป็นคนแรกว่า จรวดของสเปซเอ็กซ์ บริษัทของนายอีลอน มัสก์ จะชนพื้นผิวดวงจันทร์ในวันที่ 4 มีนาคม ได้ยอมรับเมื่อสุดสัปดาห์ก่อนว่าตีความผิดพลาด เพราะแท้จริงแล้วจรวดที่จะชนคือ 2014-065B ที่ใช้ขับเคลื่อนฉางเอ๋อ 5-T1 ซึ่งเป็นยานอวกาศหุ่นยนต์ทดลองที่สำนักงานอวกาศจีนปล่อยไปยังดวงจันทร์เมื่อเดือนตุลาคม 2557 ในโครงการสำรวจดวงจันทร์ ด้านนายโจนาธาน แมคโดเวลล์ นักดาราศาสตร์ที่สนับสนุนให้เพิ่มการกำกับดูแลขยะอวกาศทวีตว่า เรื่องนี้ย้ำให้เห็นถึงปัญหาของการที่ไม่มีการติดตามวัตถุในอวกาศอย่างเหมาะสม ขณะที่องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐหรือนาซาแถลงเมื่อปลายเดือนมกราคมว่า จะใช้ยานสำรวจดวงจันทร์หรือแอลอาร์โอ (LRO) ของนาซาที่กำลังโคจรรอบดวงจันทร์ สังเกตการณ์หลุมบนพื้นผิวดวงจันทร์ที่จะเกิดจากการถูกจรวดชน เพราะถือเป็นโอกาสด้านการวิจัยที่น่าตื่นเต้น.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำแคนาดาประกาศใช้ พ.ร.บ. ฉุกเฉินคุมม็อบประท้วงโควิด

ออตตาวา 15 ก.พ. – นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา ประกาศใช้พระราชบัญญัติฉุกเฉิน (Emergencies Act) เพื่อปราบปรามกลุ่มม็อบคนขับรถบรรทุกที่ชุมนุมต่อต้านมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ของรัฐบาล โดยที่กฎหมายดังกล่าวมีผลให้ธนาคารสามารถอายัดบัญชีธนาคารส่วนตัวของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประท้วงดังกล่าวได้ นายกรัฐมนตรีทรูโด กล่าวว่า การประกาศใช้ พ.ร.บ. ฉุกเฉินในครั้งนี้มีระยะเวลาจำกัด สมเหตุสมผล และสมควรต่อเหตุการณ์ แต่จะไม่สั่งให้ทหารลงพื้นที่ ธนาคารจะสามารถอายัดบัญชีธนาคารส่วนตัวของผู้ที่เชื่อมโยงกับการประท้วงดังกล่าวได้ การใช้กฎหมายนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ชาวแคนาดาและปกป้องการทำงานของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุประท้วง นอกจากนี้ ตำรวจแคนาดาจะได้รับอุปกรณ์หรือเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อจับกุม ปรับเงิน หรือปกป้องระบบโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ทั้งนี้ การประกาศใช้ พ.ร.บ. ฉุกเฉินของนายกรัฐมนตรีทรูโดมีขึ้นในขณะที่การประท้วงต่อต้านมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ในแคนาดายืดเยื้อมานาน 3 สัปดาห์ ในขณะเดียวกัน แกนนำกลุ่มผู้ประท้วงในกรุงออตตาวาเผยกับสำนักข่าวเอพีว่า เธอไม่สนใจการประกาศใช้ พ.ร.บ. ฉุกเฉินของรัฐบาลแคนาดา ไม่มีภัยคุกคามใดจะทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมหวาดกลัว และทุกคนจะยืนหยัดชุมนุมต่อไป ส่วนนายดั๊ก ฟอร์ด มุขมนตรีรัฐออนแทรีโอ กล่าวว่า เขาสนับสนุนการใช้กฎหมายดังกล่าวของรัฐบาล แต่ยังมีมุขมนตรีอีกหลายรัฐ เช่น รัฐควิเบก รัฐแมนิโทบา รัฐแอลเบอร์ตา และรัฐซัสแคตเชวันที่ระบุว่า […]

พยาบาลออสเตรเลียผละงานหลังเจรจากับรัฐบาลล่ม

ซิดนีย์ 15 ก.พ.- พยาบาลจำนวนมากในรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่มีประชากรมากที่สุดในออสเตรเลียผละงานเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ หลังจากการเจรจากับรัฐบาลเรื่องแก้ปัญหาขาดแคลนคนและขึ้นเงินเดือนไม่ได้ผล พยาบาลและผดุงครรภ์ของโรงพยาบาลมากกว่า 150 แห่งทั่วรัฐนิวเซาท์เวลส์เริ่มการผละงานเป็นเวลา 24 ชั่วโมงในวันนี้ แม้ว่าคณะกรรมการอุตสาหกรรมสัมพันธ์ของรัฐสั่งห้ามเพราะจะทำให้บริการสาธารณสุขตกอยู่ในอันตราย ผู้ผละงานไปรวมตัวหน้ารัฐสภาในนครซิดนีย์ ถือป้ายประท้วงเรื่องทำงานจนเหนื่อยล้า ขอขึ้นเงินเดือนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 2.5 และขอให้เพิ่มสัดส่วนจำนวนพยาบาลต่อคนไข้ ด้านหัวหน้าสาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์ให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุท้องถิ่นว่า เป็นเรื่องน่าเสียดายและน่าผิดหวังที่พยาบาลยืนกรานผละงาน ทั้งที่ทางการกำลังหาทงแก้ไขอยู่ และว่าการเพิ่มสัดส่วนจำนวนพยาบาลต่อคนไข้อาจทำให้ต้องเพิ่มงบประมาณอีกเป็นจำนวนมหาศาล เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนที่แพร่เข้ามาในออสเตรเลียตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนโรงพยาบาลตึงตัว อย่างไรก็ดี ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้ลดลงในช่วงหลายวันมานี้ โดยพบมากกว่า 23,000 คนนับจนถึงเที่ยงวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น และมีผู้ติดเชื้ออาการหนักเข้าโรงพยาบาลราว 3,000 คน จากที่เคยสูงถึง 5,400 คนเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน ขณะที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 46 คน รวมเป็น 4,664 คน ยอดติดเชื้อสะสมราว 2 ล้าน 6 แสนคน.-สำนักข่าวไทย

คู่รักชาวตุรกีเผยเคล็ดลับครองคู่ยาวนานถึง 74 ปี

อังการา 14 ก.พ. – นายฮาลิล และนางอายเซ ดินดาร์ คู่รักชาวตุรกีที่ครองคู่กันมายาวนานถึง 74 ปี เผยว่า ความรักที่ทั้งคู่มีให้แก่กันไม่เคยจางหายไปนับตั้งแต่แต่งงานกันในปี 2491 แม้ว่าในตอนนี้จะอยู่ในช่วงบั้นปลายของชีวิตแล้ว หนังสือพิมพ์เดลี ซาบาห์ ของตุรกี รายงานว่า นายฮาลิล วัย 91 ปี และนางอายเซ วัย 93 ปี อาศัยอยู่ที่จังหวัดบิเลซิก ทางตะวันตกของตุรกี ทั้งสองคนประกอบอาชีพเกษตรกร และให้คำมั่นสัญญาในวันแต่งงานว่า ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ยากดีหรือมีจน ก็จะครองรักกันตลอดไป ปัจจุบัน ทั้งคู่คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันในยามแก่เฒ่า รวมถึงการที่นายฮาลิลต้องเป็นดวงตานำทางให้นางอายเซ เนื่องจากภรรยาของเขาสูญเสียการมองเห็นไปบางส่วนด้วยวัยชรา ขณะที่นางอายเซก็จะเป็นหูฟังเสียงให้แก่สามีที่มีปัญหาทางการได้ยินด้วยอายุที่มากขึ้นเช่นกัน ขณะนี้ นายฮาลิลและนางอายเซอาศัยอยู่กับลูกคนหนึ่งจากทั้งหมด 3 คน โดยที่ทั้งคู่มีหลาน 18 คน และมีเหลนทั้งหมด 26 คน นางอายเซกล่าวกับสำนักข่าวอะนาโดลูของตุรกีว่า ทั้งสองคนถูกจับคู่แต่งงานกันในปี 2491 แต่ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกันแม้แต่ครั้งเดียว พร้อมเผยเคล็ดลับในการใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอย่างมีความสุขที่ยาวนานถึง 74 ปีแบบสั้น […]

ผู้นำยูเครนคะแนนนิยมร่วงขณะเผชิญวิกฤตรัสเซีย

เคียฟ 14 ก.พ.- ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนที่เคยได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งปี 2562 แม้เป็นนักการเมืองหน้าใหม่ที่ผันตัวมาจากนักแสดงตลก กำลังเผชิญภาวะวิกฤตศรัทธาในช่วงที่ประเทศกำลังเกิดความตึงเครียดกับประเทศเพื่อนบ้านยักษ์ใหญ่อย่างรัสเซีย นายเซเลนสกีวัย 44 ปี กวาดชัยชนะถึงร้อยละ 73.2 ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบ 2 จากการประกาศว่าจะเจรจากับกลุ่มกบฏทางตะวันออกของประเทศที่ฝักใฝ่รัสเซียและหาทางยุติความขัดแย้ง แต่ผลสำรวจของสถาบันสังคมศาสตร์ระหว่างประเทศแห่งกรุงเคียฟในเดือนมกราคมที่ผ่านมาพบว่า มีประชาชนเพียงร้อยละ 30 ที่ต้องการให้เขาลงเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 และมีเพียงร้อยละ 23 เท่านั้นที่จะลงคะแนนเลือกเขา ปัจจัยที่ทำให้คะแนนนิยมของเขาลดลงฮวบฮาบไม่ได้เกิดจากแนวโน้มที่ยูเครนจะเกิดสงครามเต็มรูปแบบกับรัสเซียเท่านั้น แต่ยังเป็นผลจากการที่เขาไม่สามารถยุติความขัดแย้งกับกลุ่มกบฏและกวาดล้างการทุจริตได้ตามที่ประกาศไว้ อีกทั้งข้าวของยังมีราคาแพงขึ้น ทำให้คนมีความเป็นอยู่ยากลำบากขึ้น ขณะเดียวกันกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้ามยอมกลับประเทศมาสู้คดีกบฏและปลุกกระแสต่อต้านเขา นักวิเคราะห์มองว่า รัสเซียอาจกำลังหาทางสนับสนุนนักการเมืองยูเครนที่ฝักใฝ่รัสเซีย และจงใจสั่นคลอนเสถียรภาพทางเมืองของยูเครนด้วยการระดมกำลังพลใกล้ชายแดนยูเครน หน่วยข่าวกรองของอังกฤษอ้างเมื่อเดือนมกราคมว่า รัสเซียกำลังหาทางโค่นรัฐบาลนายเซเลนสกีแล้วตั้งรัฐบาลพรรคการเมืองขนาดเล็กที่ต่อต้านการที่ยูเครนจะเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโตและสหภาพยุโรปหรืออียู นายเซเลนสกีพยายามสยบกระแสความวุ่นวายทางการเมืองเมื่อวันอาทิตย์ด้วยการด้อยค่าคำเตือนเรื่องรัสเซียจะรุกรานยูเครนว่า หากใครมีข้อมูลยืนยันเรื่องนี้ร้อยเปอร์เซ็นต์ขอให้แสดงตัวออกมา ส่วนเมื่อเดือนก่อนเขากล่าวว่า ความเสี่ยงใหญ่หลวงที่สุดของยูเครนและอธิปไตยของประเทศคือ ภาวะไร้เสถียรภาพภายในประเทศเอง.-สำนักข่าวไทย

สิงคโปร์อนุมัติใช้วัคซีนของโนวาแวกซ์แล้ว

สิงคโปร์ 14 ก.พ. – สิงคโปร์ประกาศอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของโนวาแวกซ์ ที่มีชื่อว่า นูวาโซวิด (Nuvaxovid) เป็นกรณีฉุกเฉินแล้ว สำนักงานสาธารณสุขสิงคโปร์ประกาศวันนี้ว่า ได้อนุมัติใช้วัคซีนของโนวาแวกซ์ในผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ โดยที่วัคซีนดังกล่าวเป็นวัคซีนแบบฉีดสองโดส โดสละ 5 ไมโครกรัม และเว้นระยะระหว่างโดสแรกกับโดสสองเป็นเวลา 3 สัปดาห์ โดยคาดว่าจะได้รับวัคซีนล็อตแรกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า สำนักงานฯ ได้พิจารณาแล้วว่าวัคซีนของโนวาแวกซ์มีคุณภาพ ความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพได้มาตรฐาน รวมถึงมีประโยชน์ทางการรักษามากกว่าความเสี่ยงด้านสุขภาพของประชาชนสิงคโปร์ วัคซีนของโนวาแวกซ์ได้รับการอนุมัติใช้ภายใต้เกณฑ์เส้นทางการเข้าถึงพิเศษในสถานการณ์โรคระบาด (Pandemic Special Access Route) โดยที่มีวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทค โมเดอร์นา และซิโนแวกที่ได้รับการอนุมัติภายใต้เกณฑ์ดังกล่าวไปก่อนหน้านี้ สำนักงานสาธารณสุขสิงคโปร์อนุมัติใช้วัคซีนของโนวาแวกซ์โดยพิจารณาเอกสารข้อมูลจากการทดลองทางคลินิกระยะที่สามในสหรัฐ เม็กซิโก และอังกฤษ โดยมีกลุ่มอาสาสมัครอายุ 18-95 ปีเข้าร่วมการทดลองกว่า 40,000 คน ผลการทดลองดังกล่าวชี้ว่า วัคซีนของโนวาแวกซ์มีประสิทธิภาพป้องกันการติดโควิดแบบแสดงอาการสูงถึงร้อยละ 90 และป้องกันอาการป่วยรุนแรงได้เต็ม 100 อย่างไรก็ดี ประสิทธิภาพดังกล่าวเป็นข้อมูลของการต้านทานเชื้อโควิดสายพันธุ์อัลฟาเท่านั้น แต่ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์เดลตาและโอไมครอน เนื่องจากทั้งสองสายพันธุ์ยังไม่แพร่หลายในช่วงที่โนวาแวกซ์ดำเนินการทดลองทางคลินิก. -สำนักข่าวไทย

รัสเซียชี้สัมพันธ์กับสหรัฐยังคง “ตกต่ำ”

มอสโก 14 ก.พ.- รัฐบาลรัสเซียระบุว่า ความสัมพันธ์กับสหรัฐยังคง “ตกต่ำ” แม้ผู้นำสองประเทศเจรจากันเมื่อไม่กี่วันก่อน ขณะเดียวกันรัสเซียกำลังซ้อมรบครั้งใหญ่ในหลายพื้นที่ นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซียให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเรียโนวอสตีว่า มีช่องทางเจรจาอยู่บ้าง หนึ่งในนั้นคือการที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียและประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐสนทนาทางโทรศัพท์กันเมื่อวันเสาร์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะหลายปีมานี้ไม่มีการเจรจากันเลย และไม่มีการติดต่อใด ๆ เลย แต่น่าเสียดายว่า ความสัมพันธ์ทวิภาคีในด้านอื่น ๆ เหลือล้วนแต่เป็นเรื่องไม่ดี และอยู่ในจุดที่ตกต่ำจริง ๆ สหรัฐอ้างเมื่อวานนี้ว่า รัสเซียอาจรุกรานยูเครนได้ทุกเมื่อ และอาจหาข้ออ้างเพื่อโจมตียูเครน ขณะที่รัสเซียยืนกรานมาตลอดว่า การระดมกำลังพลกว่า 100,000 นายใกล้พรมแดนยูเครน ไม่ใช่การเตรียมรุกราน และกล่าวหาตะวันตกว่าเป็นโรคหวาดผวา ล่าสุดกระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงวันนี้ว่า กำลังซ้อมรบร่วมกับเบลาลุสที่อยู่ทางเหนือของยูเครน ด้วยการให้ฝูงบินขับไล่ซูคอย ซู-30 ร่วมกันลาดตระเวนบริเวณพรมแดนสองประเทศ ส่วนฝูงบินเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงและโจมตีมากกว่า 30 ลำกำลังซ้อมรบทางยุทธวิธีอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ ขณะที่กองเรือมากกว่า 30 ลำเริ่มการซ้อมรบใกล้คาบสมุทรไครเมียตั้งแต่วันเสาร์ และจะส่งกองเรือติดขีปนาวุธไปยังทะเลดำและทะเลเมดิเตอร์เรเนียนด้วย.-สำนักข่าวไทย

ไต้หวันเล็งลดเวลากักโรคโควิดตั้งแต่เดือน มี.ค.

ไทเป 14 ก.พ.- รัฐบาลไต้หวันเผยวันนี้ว่า จะเริ่มผ่อนคลายระยะเวลากักโรคเพื่อสกัดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ตั้งแต่เดือนมีนาคม เพราะต้องทยอยกลับไปดำเนินชีวิตตามปกติและติดต่อกับโลกภายนอกอีกครั้ง สำนักนายกรัฐมนตรีไต้หวันแถลงว่า นายกรัฐมนตรีซู เจินชางได้กล่าวในการประชุมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงว่า แม้ว่าอาจจะมีการติดเชื้อในชุมชนอีก แต่รัฐบาลค่อนข้างมั่นใจในมาตรการต่อต้านการระบาด และจำเป็นต้องคำนึงถึงการดำเนินชีวิต การพัฒนาทางเศรษฐกิจ การทยอยกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ และการก้าวออกไปติดต่อกับโลกภายนอกอีกครั้ง เขาได้ขอให้ศูนย์บัญชาการการระบาดกลางพิจารณาปรับนโยบายกักโรคสำหรับผู้ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้า และพิจารณาให้นักธุรกิจเดินทางเข้า ทั้งนี้จะทำได้ต่อเมื่อไต้หวันมีเวชภัณฑ์และมาตรการเตรียมตัวอย่างเพียงพอ ควบคู่ไปกับการมีอัตราฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้วเท่านั้น ด้านนายเฉิน สือจง รัฐมนตรีสาธารณสุขในฐานะหัวหน้าศูนย์บัญชาการการระบาดกลางเผยกับสื่อว่า ทางศูนย์ต้องการลดระยะเวลากักโรคที่ใช้กับผู้เดินทางเข้ามาทุกคนจาก 2 สัปดาห์ เหลือ 10 วันก่อนกลางเดือนมีนาคม เพราะมั่นใจว่าสามารถตรวจพบเชื้อได้ภายในระยะเวลากักโรคดังกล่าว แต่คงไม่สามารถยกเลิกการกักโรคได้ก่อนถึงเทศกาลวันหยุดฤดูร้อน อย่างไรก็ดี เขาไม่ได้เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้าไต้หวันได้เมื่อใด เนื่องจากปัจจุบันไต้หวันอนุญาตให้เดินทางเข้าได้เฉพาะพลเรือนและชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักถาวร ส่วนนักธุรกิจจะสามารถเดินทางเข้ามาได้อีกครั้งและต้องกักโรค 10 วันเช่นเดียวกัน ชาวไต้หวัน 23 ล้าน 5 แสนคนฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันแล้วราวร้อยละ 30 เป็นตัวเลขที่กำลังทยอยเพิ่มขึ้น รัฐบาลไต้หวันประกาศว่า ต้องการให้ตัวเลขถึงร้อยละ 50 ก่อนผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้ามา ไต้หวันมียอดติดเชื้อสะสมตั้งแต่พบการระบาดเมื่อ 2 ปีก่อนที่ 19,621 […]

“คิริน” ประกาศถอนตัวจากตลาดเบียร์ในเมียนมาแล้ว

โตเกียว 14 ก.พ. – คิริน โฮลดิงส์ บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มรายใหญ่ของญี่ปุ่น ประกาศวันนี้ว่า เตรียมปิดการดำเนินธุรกิจในเมียนมา หลังได้ข้อสรุปว่าไม่สามารถหาทางแก้ปัญหาขัดแย้งกับบริษัทหุ้นส่วนที่เป็นของกองทัพเมียนมา นับตั้งแต่เกิดเหตุรัฐประหารขึ้นเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปีก่อนจนทำให้สถานการณ์ของเมียนมาตกอยู่ในความวุ่นวาย คิรินระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า บริษัทจะเริ่มขั้นตอนการปิดธุรกิจในเมียนมา ซึ่งดำเนินการในรูปแบบกิจการร่วมค้ากับบริษัทเมียนมา อีโคโนมิก โฮลดิงส์ หรือเอ็มอีเอชแอล ของกองทัพเมียนมา โดยตั้งเป้าหมายจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเดือนมิถุนายนนี้ แม้กำลังพิจารณาทางเลือกต่าง ๆ ในการจัดการผลประโยชน์จากการร่วมทุน เช่น การขายธุรกิจให้แก่บริษัทบุคคลที่สาม ก่อนหน้านี้ คิรินได้หาทางยุติการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับเอ็มอีเอชแอลหลังกองทัพเมียนมาก่อเหตุยึดอำนาจการปกครองเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปีก่อน เนื่องจากมีข้อวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในเมียนมา แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุว่า คิรินจะปิดธุรกิจในบริษัทต่าง ๆ ที่ถือหุ้นอยู่ เช่น เมียนมา บริวเวอรี่ บริษัทท้องถิ่นของเมียนมาที่คิรินเข้าถือหุ้นในปี 2558 และมัณฑะเลย์ บริวเวอรี่ บริษัทกิจการร่วมค้ากับเอ็มอีเอชแอลที่ตั้งขึ้นในปี 2560 โดยที่คิรินถือหุ้นของทั้งสองบริษัทในสัดส่วนร้อยละ 51 และเอ็มอีเอชแอลถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 49 นอกจากนี้ คิรินยังวางแผนที่จะขายหุ้นทั้งหมดให้แก่บริษัทที่ไม่มีความเชื่อมโยงกับกองทัพเมียนมา ทั้งนี้ การประกาศของคิรินถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทรายใหญ่ของญี่ปุ่นประกาศปิดกิจการร่วมค้าที่เชื่อมโยงกับกองทัพเมียนมา รวมถึงการประกาศถอนตัวจากการทำธุรกิจในเมียนมา ซึ่งคาดว่าการตัดสินใจดังกล่าวของคิรินอาจส่งผลต่อการวางกลยุทธ์ของบริษัทอื่น […]

1 116 117 118 119 120 315