ซิดนีย์ 15 ก.พ.- พยาบาลจำนวนมากในรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่มีประชากรมากที่สุดในออสเตรเลียผละงานเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ หลังจากการเจรจากับรัฐบาลเรื่องแก้ปัญหาขาดแคลนคนและขึ้นเงินเดือนไม่ได้ผล
พยาบาลและผดุงครรภ์ของโรงพยาบาลมากกว่า 150 แห่งทั่วรัฐนิวเซาท์เวลส์เริ่มการผละงานเป็นเวลา 24 ชั่วโมงในวันนี้ แม้ว่าคณะกรรมการอุตสาหกรรมสัมพันธ์ของรัฐสั่งห้ามเพราะจะทำให้บริการสาธารณสุขตกอยู่ในอันตราย ผู้ผละงานไปรวมตัวหน้ารัฐสภาในนครซิดนีย์ ถือป้ายประท้วงเรื่องทำงานจนเหนื่อยล้า ขอขึ้นเงินเดือนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 2.5 และขอให้เพิ่มสัดส่วนจำนวนพยาบาลต่อคนไข้ ด้านหัวหน้าสาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์ให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุท้องถิ่นว่า เป็นเรื่องน่าเสียดายและน่าผิดหวังที่พยาบาลยืนกรานผละงาน ทั้งที่ทางการกำลังหาทงแก้ไขอยู่ และว่าการเพิ่มสัดส่วนจำนวนพยาบาลต่อคนไข้อาจทำให้ต้องเพิ่มงบประมาณอีกเป็นจำนวนมหาศาล
เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนที่แพร่เข้ามาในออสเตรเลียตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนโรงพยาบาลตึงตัว อย่างไรก็ดี ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้ลดลงในช่วงหลายวันมานี้ โดยพบมากกว่า 23,000 คนนับจนถึงเที่ยงวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น และมีผู้ติดเชื้ออาการหนักเข้าโรงพยาบาลราว 3,000 คน จากที่เคยสูงถึง 5,400 คนเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน ขณะที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 46 คน รวมเป็น 4,664 คน ยอดติดเชื้อสะสมราว 2 ล้าน 6 แสนคน.-สำนักข่าวไทย