จีนหนุน “รัสเซีย-ยูเครน” เดินหน้าเจรจาหยุดยิง

ปักกิ่ง 11 มี.ค. – นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ของจีน ระบุว่า สถานการณ์สู้รบในยูเครนเป็นประเด็นที่น่าวิตกกังวล และจีนขอสนับสนุนให้รัสเซียกับยูเครนเดินหน้านัดเจรจาครั้งต่อไปเพื่อให้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง นายกรัฐมนตรีหลี่กล่าวในการแถลงข่าวปิดการประชุมรัฐสภาจีนประจำปี โดยระบุว่า จีนรู้สึกวิตกกังวลต่อสถานการณ์สู้รบในยูเครน และขอให้รัสเซียกับยูเครนเห็นความสำคัญของการนัดเจรจาครั้งต่อไปเพื่อบรรลุข้อตกลงหยุดยิง อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีหลี่ได้เลี่ยงตอบคำถามในประเด็นที่ว่า จีนจะไม่ออกแถลงการณ์ประณามรัสเซีย ไม่ว่ารัสเซียจะกระทำการใด ๆ หรือไม่ รวมถึงคำถามที่ว่า จีนพร้อมที่จะให้การสนับสนุนด้านเศรษฐกิจและการเงินให้แก่รัสเซียที่ถูกหลายประเทศคว่ำบาตรหรือไม่ สำนักข่าวรอยเตอร์สระบุว่า จีนกับรัสเซียมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมาเป็นเวลายาวนาน โดยที่ก่อนหน้านี้จีนได้ปฏิเสธที่จะออกแถลงการณ์ตำหนิการนำกำลังทหารบุกโจมตียูเครนของรัสเซีย และเลี่ยงการใช้คำเรียกปฏิบัติการทางทหารดังกล่าวว่าเป็นการบุกรุก นอกจากนี้ จีนยังได้แสดงท่าทีคัดค้านชาติตะวันตกที่ใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย โดยระบุว่าการใช้มาตรการดังกล่าวเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้การเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาในวิกฤตการณ์ครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียทิ้งระเบิดสถาบันทดลองปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในยูเครน

เคียฟ 11 มี.ค. – เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทางการยูเครนเผยว่า เครื่องบินของรัสเซียได้ทิ้งระเบิดใส่สถาบันทดลองเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์และทำให้โรงแรมใกล้เคียงเกิดเพลิงไหม้ในเมืองคาร์คิฟ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน เมื่อวันพฤหัสบดี นายอันตัน เกราชเชนโก ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในของยูเครน ระบุว่า สถาบันฟิสิกส์และเทคโนโลยีที่ถูกเครื่องบินของรัสเซียทิ้งระเบิดนั้นเป็นแหล่งเก็บข้อมูลการใช้รังสีเพื่อวัตถุประสงค์ด้านวิทยาศาสตร์ ขณะที่สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ ยูเครน รายงานว่า เหตุโจมตีดังกล่าวทำให้โรงแรมสูง 5 ชั้นที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงเกิดเพลิงไหม้ลุกลามเป็นวงกว้าง และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังเร่งควบคุมเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ประชาชนหลายหมื่นคนยังคงติดค้างอยู่ในเมืองต่าง ๆ ของยูเครนเมื่อวันพฤหัสบดี และต้องหาที่หลบภัยจากการโจมตีทางอากาศและการยิงกระสุนของรัสเซีย ในขณะที่การเจรจานัดแรกระหว่างรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซียกับยูเครนไม่มีความคืบหน้าเรื่องการหยุดยิง ขณะนี้ การบุกโจมตียูเครนของรัสเซียยังไม่มีทีท่าว่าจะประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย การต่อสู้ในครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายพันรายและทำให้พลเมืองต้องอพยพออกนอกยูเครนกว่า 2 ล้านคนแล้ว.-สำนักข่าวไทย

รมต. “รัสเซีย-ยูเครน” เจรจานัดแรกล้มเหลวเรื่องหยุดยิง

อันตัลยา 11 มี.ค. – ยูเครนระบุว่า การเจรจานัดแรกระหว่างรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซียกับยูเครนที่เมืองอันตัลยาของตุรกีเมื่อวันพฤหัสบดีประสบความล้มเหลวเรื่องความคืบหน้าในการใช้ประกาศหยุดยิง นายดมิทโตร คูเลบา รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของยูเครน เผยหลังเสร็จสิ้นการเจรจากับรัสเซียที่ตุรกีว่า ข้อเรียกร้องของนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย เปรียบเสมือนกับการบีบบังคับให้ยูเครนยอมแพ้ในการต่อสู้ครั้งนี้ เขาขอเน้นย้ำอีกครั้งว่ายูเครนยังไม่พ่ายแพ้ในการสู้รบและจะไม่มีวันประกาศยอมแพ้เด็ดขาด แต่ระบุว่าเขาพร้อมนัดเจรจาครั้งใหม่กับรัสเซียเสมอ นอกจากนี้ นายคูเลบายังเผยว่า เมืองมารีอูปอล ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน กำลังเผชิญกับปัญหาด้านมนุษยธรรมครั้งใหญ่ ประชาชนจำนวนมากต้องติดอยู่ในบ้านที่ถูกตัดไฟฟ้าและน้ำดื่มท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเหน็บเป็นเวลาหลายวัน เนื่องจากกองทัพรัสเซียได้ปิดล้อมเมืองไว้และยังไม่ยอมเปิดระเบียงมนุษยธรรม (humanitarian corridor) เพื่อใช้เป็นเส้นทางอพยพออกจากเมือง อีกทั้งยังไม่ตอบรับข้อเสนอหยุดยิงตลอด 24 ชั่วโมงทั่วยูเครน ในขณะเดียวกัน นายลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ระบุว่า รัสเซียจะไม่อ่อนข้อต่อข้อเสนอที่เรียกร้องต่อยูเครน และเน้นย้ำให้ยูเครนปลดอาวุธ รวมถึงการวางตัวเป็นกลางระหว่างองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต กับรัสเซีย โดยที่รัสเซียพร้อมรอฟังคำตอบจากยูเครนเสมอ นอกจากนี้ นายลาฟโรฟยังกล่าวหาชาติตะวันตกว่าทำให้สถานการณ์ขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนทวีความรุนแรงขึ้นด้วยการส่งอาวุธให้แก่ยูเครน พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า รัสเซียจะรับมือกับมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกและก้าวผ่านวิกฤตการณ์เหล่านี้ไปได้อย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

เตือนค่าเงินเอเชียจะร่วงหนักจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน

วอชิงตัน 10 มี.ค. – มอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) บริษัทหลักทรัพย์เพื่อการลงทุนและที่ปรึกษาทางการเงินรายใหญ่ของสหรัฐ เตือนว่าสกุลเงินของประเทศในทวีปเอเชียจะอ่อนค่าลงมากขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากสถานการณ์สู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครน มอร์แกน สแตนลีย์ ระบุว่า สกุลเงินต่าง ๆ ของประเทศในทวีปเอเชียจะอ่อนค่าลงมากขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากนักลงทุนประเมินความเสี่ยงที่ต่ำเกินไปจากสถานการณ์ขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ขณะที่นักวิเคราะห์ด้านการเงินของมอร์แกน สแตนลีย์ ระบุในรายงานวิจัยว่า ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ทวีปเอเชียมีอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและมีอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจที่ลดลง ทั้งนี้ ผลกระทบในตลาดเอเชียจะเกิดขึ้นผ่านตลาดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยรักษาเสถียรภาพให้แก่ระบบเศรษฐกิจ สำนักข่าวบลูมเบิร์กของสหรัฐรายงานว่า ค่าเงินและตลาดหุ้นของกลุ่มประเทศที่เป็นตลาดเกิดใหม่ในทวีปเอเชียหลายแห่งกำลังร่วงลงอย่างหนักในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังเหตุบุกโจมตียูเครนของรัสเซียทำให้ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้นและส่งผลกระทบต่ออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกในภาพรวม ทั้งนี้ ประเทศที่เป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ในทวีปเอเชีย เช่น อินเดียและฟิลิปปินส์ กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะค่าเงินรูปีของอินเดียที่อ่อนค่าทำสถิติต่ำสุดในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย

สิงคโปร์เตือนคนที่จะไปสู้รบในยูเครนมีความผิดทางกฎหมาย

สิงคโปร์ 10 มี.ค. – กระทรวงมหาดไทยของสิงคโปร์ระบุว่า บุคคลใดในสิงคโปร์ที่จะเดินทางหรือพยายามหาทางไปยูเครนเพื่อจับอาวุธเข้าร่วมสู้รบในสถานการณ์ขัดแย้งรุนแรงระหว่างรัสเซียกับยูเครนถือว่ามีความผิดทางกฎหมาย หลังได้รับแจ้งจากสถานทูตยูเครนประจำสิงคโปร์ว่ามีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมกองกำลังต่างชาติเพื่อปกป้องดินแดนยูเครนเป็นจำนวนมาก กระทรวงมหาดไทยของสิงคโปร์ระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า บุคคลใดในสิงคโปร์ที่จะเดินทางหรือพยายามหาทางไปยูเครนเพื่อเข้าร่วมสงครามต่อต้านรัฐบาลใดก็ตามที่สิงคโปร์ไม่ได้ก่อสงครามด้วยจะถือว่าบุคคลนั้นกระทำความผิดทางกฎหมาย โดยเฉพาะพลเมืองสิงคโปร์ แม้ชาวสิงคโปร์จะกระทำการดังกล่าวเมื่ออยู่นอกประเทศ ก็จะมีความผิดทางกฎหมายเทียบเท่ากับพลเมืองที่กระทำการลักษณะเดียวกันในประเทศ นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยของสิงคโปร์ยังแนะนำให้ประชาชนที่ต้องการช่วยเหลือชาวยูเครนให้ดำเนินการผ่านช่องทางที่ถูกกฎหมาย เช่น การบริจาคเงินผ่านสภากาชาดสิงคโปร์เพื่อตั้งกองทุนช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ชาวยูเครน กระทรวงมหาดไทยของสิงคโปร์ยังระบุว่า สิงคโปร์ได้แสดงจุดยืนชัดเจนต่อการบุกโจมตียูเครนของรัสเซียและออกแถลงการณ์ประณามการกระทำดังกล่าวอย่างรุนแรง นอกจากนี้ รัฐบาลสิงคโปร์ยังได้เรียกร้องให้รัสเซียยุติการเป็นปรปักษ์และเคารพต่ออำนาจอธิปไตย อิสรภาพ และบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียว่ายูเครนปล่อยข่าวปลอมเรื่องถล่ม รพ. เด็ก

มอสโก 10 มี.ค.-รัสเซียระบุว่า ข้อกล่าวหาของยูเครนที่อ้างว่ารัสเซียโจมตีโรงพยาบาลเด็กในเมืองมารีอูปอล ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน เป็นข่าวปลอม เนื่องจากอาคารที่พังถล่มถูกกองทัพยูเครนใช้เป็นฐานทัพมานานแล้วและไม่ได้ใช้เป็นโรงพยาบาลเด็กแต่อย่างใด นายดมิตทรี โปลียันสกี รองผู้แทนถาวรของรัสเซียประจำสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เผยผ่านทวิตเตอร์ว่า ข้อกล่าวหาของยูเครนที่อ้างว่า รัสเซียโจมตีโรงพยาบาลเด็กในเมืองมารีอูปอลนั้นไม่เป็นความจริง เพราะสถานที่ดังกล่าวได้กลายเป็นฐานที่ตั้งของกองทัพยูเครนและไม่ได้ถูกใช้เป็นโรงพยาบาลแล้ว สิ่งที่ยูเครนกล่าวอ้างจึงเป็นการปล่อยข่าวปลอม ทั้งยังระบุว่า รัสเซียได้แจ้งทางการยูเครนเมื่อวันที่ 7 มีนาคมว่าโรงพยาบาลดังกล่าวถูกกองทัพยูเครนใช้เป็นฐานที่ตั้งเพื่อต่อสู้กับรัสเซีย ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ได้กล่าวหารัสเซียว่าเดินหน้าปฏิบัติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยูเครน หลังเจ้าหน้าที่ของยูเครนระบุว่าเครื่องบินรัสเซียได้วางระเบิดถล่มโรงพยาบาลเด็กเมื่อวันพุธ จนทำให้สตรีมีครรภ์และเด็กอาจติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง โดยได้รับรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 17 ราย และเจ้าหน้าที่กำลังเร่งค้นหาผู้บาดเจ็บหรือผู้รอดชีวิตใต้ซากอาคารเพิ่มเติม ขณะที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ได้ประณามเหตุโจมตีดังกล่าวว่าไร้ศีลธรรม ส่วนทำเนียบขาวสหรัฐระบุว่า การใช้กองทัพโจมตีประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน.-สำนักข่าวไทย

จับตา รมต. ต่างประเทศรัสเซีย-ยูเครนนัดถกครั้งแรกที่ตุรกี

อันตัลยา 10 มี.ค. – รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซียและยูเครนจะเปิดฉากการเจรจาร่วมกันที่ตุรกีในวันนี้ ซึ่งถือเป็นการหารือของเจ้าหน้าที่ระดับสูงร่วมกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่รัสเซียนำกำลังทหารบุกโจมตียูเครน โดยมีรัฐบาลตุรกีอาสาเป็นตัวกลางจัดการประชุมที่หวังว่าจะช่วยบรรเทาสถานการณ์ขัดแย้งรุนแรงระหว่างรัสเซียกับยูเครน นายดมิทโตร คูเลบา รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของยูเครน กล่าวว่า เขาได้ลดความคาดหวังในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและข้อตกลงอื่น ๆ ในการเจรจากับนายเซอร์เก ลาฟโรฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย ที่จะจัดขึ้นนอกเวทีประชุมการทูตระหว่างประเทศที่เมืองอันตัลยา ทางตอนใต้ของตุรกี พร้อมทั้งเรียกร้องให้นายราฟลอฟเข้าร่วมการหารือด้วยความบริสุทธิ์ใจโดยปราศจากแนวคิดเรื่องการโฆษณาชวนเชื่อ ทั้งนี้ ประเด็นที่เขาจะนำไปเจรจากับนายราฟลอฟ ได้แก่ การประกาศหยุดยิง การปลดปล่อยดินแดนของยูเครน และการแก้ปัญหาด้านมนุษยธรรม ก่อนหน้านี้ รัฐบาลรัสเซียระบุว่า รัสเซียพร้อมเปิดฉากการเจรจากับยูเครนแล้ว แต่ยูเครนต้องยอมทำตามข้อเรียกร้องต่าง ๆ ของรัสเซีย เช่น การวางตัวเป็นกลางและยกเลิกการเข้าร่วมเป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต เพื่อยุติสถานการณ์ขัดแย้งรุนแรง ทั้งนี้ ตัวแทนของรัสเซียกับยูเครนเคยนัดเจรจาร่วมกันมาแล้ว 3 ครั้ง โดยจัดหารือกันที่เบลารุส 2 ครั้งและที่ยูเครน 1 ครั้ง แม้การหารือที่ผ่านมามีสัญญาณบวกเกี่ยวกับข้อตกลงด้านมนุษยธรรม แต่กลับส่งผลในทางปฏิบัติได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย 

ยูเครนประณามรัสเซียถล่ม รพ. เด็กเป็นอาชญากรรมสงคราม

เคียฟ 10 มี.ค.-ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุว่า การโจมตีทางอากาศของรัสเซียที่โรงพยาบาลเด็กในเมืองมารีอูปอล ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน เป็นอาชญากรรมสงคราม ขณะที่สหรัฐประณามการโจมตีดังกล่าวว่าเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ในยูเครน ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวถึงเหตุโจมตีโรงพยาบาลเด็กในเมืองมารีอูปอลที่ยูเครนอ้างว่าเป็นฝีมือของรัสเซียว่า ยูเครนจะไม่มีวันก่ออาชญากรรมสงครามแบบนี้ที่ภูมิภาคโดเนสตก์และลูฮันสก์ที่แยกตัวจากยูเครนและรัสเซียรับรองให้เป็นรัฐอิสระเมื่อเดือนที่แล้ว เนื่องจากยูเครนมีมนุษยธรรมมากพอ การยิงระเบิดใส่โรงพยาบาลเด็กเป็นข้อพิสูจน์ว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยูเครนได้เกิดขึ้นแล้ว ผู้นำยูเครนยังยืนยันว่า ขณะนี้ได้รับรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว 17 ราย และเจ้าหน้าที่กำลังเร่งรื้อซากปรักหักพังเพื่อค้นหาผู้บาดเจ็บหรือผู้รอดชีวิตต่อไป ขณะที่เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวสหรัฐ ประณามเหตุโจมตีโรงพยาบาลเด็กว่าเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนในการใช้กองทัพทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ในยูเครน ในขณะเดียวกัน นายดมิตทรี เปสกอฟ โฆษกของรัฐบาลรัสเซียเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า กองทัพรัสเซียไม่ได้ยิงกระสุนโดยมุ่งเป้าทำร้ายพลเรือน ส่วนนางมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องการโจมตีโรงพยาบาลเด็กของรัสเซีย แต่ระบุว่า กองทัพยูเครนใช้โรงพยาบาลดังกล่าวเป็นฐานที่ตั้งเพื่อเปิดฉากยิงใส่รัสเซีย หลังจากที่ได้อพยพเจ้าหน้าที่และผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ชายปลูกถ่ายหัวใจหมูรายแรกของโลกเสียชีวิตแล้ว

แมริแลนด์ 10 มี.ค. – ชายอเมริกันที่ได้รับการปลูกถ่ายหัวใจหมูเป็นรายแรกของโลกเมื่อต้นเดือนมกราคมได้เสียชีวิตลงแล้วเมื่อวันที่ 8 มีนาคมตามเวลาท้องถิ่น หลังจากที่เขามีอาการทรุดหนักมาเป็นเวลาหลายวัน คณะแพทย์ของเมืองบัลติมอร์ในรัฐแมริแลนด์ของสหรัฐเผยว่า นายเดวิด เบนเน็ตต์ วัย 57 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคหัวใจขั้นรุนแรง ได้เสียชีวิตลงแล้ว หลังได้รับการปลูกถ่ายหัวใจจากหมูที่มีการตัดแต่งพันธุกรรมเป็นรายแรกของโลกเมื่อวันที่ 7 มกราคม นายเบนเน็ตต์ทราบถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นภายหลังการปลูกถ่ายหัวใจหมู พร้อมทั้งยอมรับก่อนเข้ารับการผ่าตัดว่าวิธีการนี้มีความสุ่มเสี่ยง ขณะที่ นพ. บาร์ตลีย์ กริฟฟิท ศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจหมูให้นายเบนเน็ตต์ ระบุในแถลงการณ์ว่า นายเบนเน็ตต์ ซึ่งไม่ได้สิทธิ์ในการรับการเปลี่่ยนถ่ายอวัยะของมนุษย์ เป็นผู้ป่วยที่มีความอดทนเป็นเลิศและได้พยายามต่อสู้จนสุดหนทางแล้ว ส่วนลูกชายของนายเบนเน็ตต์ กล่าวว่า เขาหวังว่าการปลูกถ่ายหัวใจหมูของบิดาจะเป็นจุดเริ่มต้นของความหวังครั้งใหม่ในการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจโดยที่ไม่ใช่จุดจบ ก่อนหน้านี้ คณะแพทย์ของศูนย์การแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยแมริแลนด์ของสหรัฐได้รับอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านการแพทย์ของสหรัฐเป็นกรณีพิเศษในการปลูกถ่ายหัวใจหมูให้แก่นายเบนเน็ตต์ โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ว่าเขาอาจเสียชีวิตหลังการผ่าตัด ทั้งนี้ ก่อนเข้ารับการปลูกถ่ายหัวใจ นายเบนเน็ตต์เป็นผู้ป่วยติดเตียงมานานถึง 6 สัปดาห์ และมีชีวิตอยู่ได้เพราะเครื่องช่วยหายใจ เขาใช้เวลาอยู่กับครอบครัว ชมการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลซูปอร์โบวล์ทางโทรทัศน์ และยังเคยพูดว่าอยากกลับบ้านไปหาสุนัขที่เลี้ยงไว้.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินรับมือน้ำท่วมใหญ่

ซิดนีย์ 9 มี.ค. – ออสเตรเลียประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติเพื่อรับมือสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของประเทศ และประกาศเขตภัยพิบัติในหลายเมืองที่ได้รับความเสียหายจากเหตุน้ำในแม่น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย กล่าวหลังเสร็จสิ้นการลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมหนักในพื้นที่นอร์เทิร์น ริเวอร์สของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอก ว่า ออสเตรเลียกำลังกลายเป็นประเทศที่อาศัยอยู่ได้ยากมากขึ้น เนื่องจากเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติอยู่บ่อยครั้ง อุทกภัยในครั้งนี้เชื่อมโยงกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งทำให้เกิดไฟป่าครั้งใหญ่ในออสเตรเลียเมื่อปี 2562 ทั้งยังระบุว่า การบรรเทาอุทกภัยเป็นแนวทางที่จะช่วยผู้ประสบภัยได้มากกว่าการเข้มงวดเรื่องการควบคุมการปล่อยมลพิษของออสเตรเลีย ทั้งนี้ การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวจะช่วยลดขั้นตอนยุ่งยากและทำให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ที่รัฐบาลออสเตรเลียถูกตำหนิว่ารับมือกับเหตุน้ำท่วมช้าเกินไป จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 ราย ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของทางการออสเตรเลียระบุว่า ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารเพิ่มขึ้นจากเดิมกว่า 2 เท่าเป็น 4,000 นายลงพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมเพื่อช่วยทำความสะอาดตามสถานที่ต่าง ๆ ก่อนหน้านี้ รัฐบาลออสเตรเลียได้อนุมัติเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมราว 385 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (9,300 ล้านบาท) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยที่นายกรัฐมนตรีมอร์ริสันระบุว่า ทางการจะส่งความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ เพิ่มขึ้นไปยังเมืองลิสมอร์ ซึ่งเป็นเมืองที่ได้รับความเสียหายหนักสุด รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง.-สำนักข่าวไทย

ยูเครนเผยต้องต้านทัพรัสเซียให้ได้อีก 7-10 วัน

เคียฟ 9 มี.ค. – เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลยูเครนระบุว่า ยูเครนต้องต้านทานการโจมตีของรัสเซียให้อีก 7-10 วันเพื่อไม่ให้รัสเซียอ้างว่าชนะการสู้รบครั้งนี้ ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีผู้อพยพออกนอกยูเครนกว่า 2 ล้านคนแล้ว ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของยูเครนเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า รัสเซียกำลังรู้สึกสิ้นหวังในการชนะการต่อสู้ โดยอ้างว่าเมืองมารีอูปอลหรือกรุงเคียฟตกเป็นเป้าโจมตีได้โดยง่าย ทั้งยังระบุว่า รัสเซียต้องการได้รับชัยชนะในพื้นที่บางส่วนของยูเครนก่อนถูกกดดันให้เข้าสู่การเจรจาขั้นสุดท้าย ดังนั้น ยูเครนจึงต้องต้านทานกองทัพรัสเซียให้ได้อีก 7-10 วัน ในขณะเดียวกัน ทางการรัสเซียระบุว่า ได้เปิดเส้นทางระเบียงมนุษยธรรม (humanitarian corridors) เพิ่มขึ้นในวันนี้ เพื่อเปิดทางให้ชาวยูเครนเดินทางออกจากกรุงเคียฟและอีกสี่เมืองใหญ่ของยูเครน โดยที่เมื่อวันอังคารรัสเซียได้เปิดระเบียงมนุษยธรรมที่เมืองซูมี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน จนทำให้สามารถอพยพชาวยูเครนจำนวนมากออกจากเมืองดังกล่าวได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่รัสเซียระบุว่าจะประกาศหยุดยิงชั่วคราว ผู้ว่าการเมืองซูมีเผยว่า ทางการท้องถิ่นได้อพยพประชาชนราว 5,000 คนด้วยรถบัสเมื่อวันอังคาร หลังรัฐบาลรัสเซียและยูเครนได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการเปิดเส้นทางอพยพดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์ราว 1,000 คันที่มุ่งหน้าสู่เมืองปอลตาวา ทางตอนกลางของยูเครน และในวันนี้ก็จะยังคงมีการเปิดระเบียงมนุษยธรรมเพื่ออพยพประชาชนต่อไป ผู้ว่าการเมืองซูมียังกล่าวว่า เขตชุมชนแห่งหนึ่งของเมืองซูมีถูกระเบิดโจมตีเมื่อคืนวันอังคารและทำให้มีพลเรือนเสียชีวิต 22 ราย ทั้งยังระบุว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นการสังหารหมู่ อย่างไรก็ดี รัฐบาลรัสเซียได้ออกมาปฏิเสธว่าปฏิบัติการพิเศษทางทหารในครั้งนี้ไม่ได้มุ่งเป้าโจมตีพลเรือน.-สำนักข่าวไทย

1 104 105 106 107 108 315