เคียฟ 9 มี.ค. – เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลยูเครนระบุว่า ยูเครนต้องต้านทานการโจมตีของรัสเซียให้อีก 7-10 วันเพื่อไม่ให้รัสเซียอ้างว่าชนะการสู้รบครั้งนี้ ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีผู้อพยพออกนอกยูเครนกว่า 2 ล้านคนแล้ว
ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของยูเครนเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า รัสเซียกำลังรู้สึกสิ้นหวังในการชนะการต่อสู้ โดยอ้างว่าเมืองมารีอูปอลหรือกรุงเคียฟตกเป็นเป้าโจมตีได้โดยง่าย ทั้งยังระบุว่า รัสเซียต้องการได้รับชัยชนะในพื้นที่บางส่วนของยูเครนก่อนถูกกดดันให้เข้าสู่การเจรจาขั้นสุดท้าย ดังนั้น ยูเครนจึงต้องต้านทานกองทัพรัสเซียให้ได้อีก 7-10 วัน
ในขณะเดียวกัน ทางการรัสเซียระบุว่า ได้เปิดเส้นทางระเบียงมนุษยธรรม (humanitarian corridors) เพิ่มขึ้นในวันนี้ เพื่อเปิดทางให้ชาวยูเครนเดินทางออกจากกรุงเคียฟและอีกสี่เมืองใหญ่ของยูเครน โดยที่เมื่อวันอังคารรัสเซียได้เปิดระเบียงมนุษยธรรมที่เมืองซูมี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน จนทำให้สามารถอพยพชาวยูเครนจำนวนมากออกจากเมืองดังกล่าวได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่รัสเซียระบุว่าจะประกาศหยุดยิงชั่วคราว
ผู้ว่าการเมืองซูมีเผยว่า ทางการท้องถิ่นได้อพยพประชาชนราว 5,000 คนด้วยรถบัสเมื่อวันอังคาร หลังรัฐบาลรัสเซียและยูเครนได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการเปิดเส้นทางอพยพดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์ราว 1,000 คันที่มุ่งหน้าสู่เมืองปอลตาวา ทางตอนกลางของยูเครน และในวันนี้ก็จะยังคงมีการเปิดระเบียงมนุษยธรรมเพื่ออพยพประชาชนต่อไป ผู้ว่าการเมืองซูมียังกล่าวว่า เขตชุมชนแห่งหนึ่งของเมืองซูมีถูกระเบิดโจมตีเมื่อคืนวันอังคารและทำให้มีพลเรือนเสียชีวิต 22 ราย ทั้งยังระบุว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นการสังหารหมู่ อย่างไรก็ดี รัฐบาลรัสเซียได้ออกมาปฏิเสธว่าปฏิบัติการพิเศษทางทหารในครั้งนี้ไม่ได้มุ่งเป้าโจมตีพลเรือน.-สำนักข่าวไทย