“มนัญญา” เปิด​ศูนย์​แก้​ปัญหา​ทุจริต​-หนี้สิน​สหกรณ์

กรุงเทพ​ฯ​ 27 มิ.ย. – “รมช.มนัญญา” เปิดศูนย์ปฏิบัติการแก้ปัญหาทุจริตในสหกรณ์ ตั้งคณะทำงาน 3 ชุดเข้าตรวจสอบสหกรณ์ เร่งรัดติดตามแก้ไขปัญหาทุจริตใกล้ชิด พร้อมวางมาตรการป้องกันเข้ม​ หวังแก้ปัญหาการทุจริตสหกรณ์อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ วอนสมาชิกใช้แอปพลิเคชั่นตรวจสอบสถานะทางการเงินของตนเอง ป้องปรามการทุจริตอีกทางหนึ่ง


นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานในพิธีเปิด “ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการทุจริตในสหกรณ์” (War Room) โดยมีนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายอำพันธุ์ เวฬุตันติ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ นายระวี อักษรศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทางอาญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายสุวิจักขณ์ ธรรมชัยพจน์ ผู้อำนวยการกองคดี 1 จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า “ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการทุจริตในสหกรณ์” นี้ตั้งอยู่ชั้น 2 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายให้จัดตั้งขึ้นเนื่องจากที่ผ่านมาเกิดการทุจริตขึ้นในสหกรณ์หลายแห่งซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบสหกรณ์และสมาชิกสหกรณ์โดยรวม พบว่า มีผู้บริหารหรือฝ่ายจัดการของสหกรณ์เป็นผู้กระทำความผิด โดยใช้วิธีการซับซ้อนเพื่อปกปิดความผิด รวมถึงโยกย้ายถ่ายเททรัพย์สินไปยังบุคคลภายนอก จากการรวบรวมข้อมูลความเสียหายที่เกิดขึ้นจากปัญหาทุจริตในระบบสหกรณ์ ทั้งสหกรณ์การเกษตรและสหกรณ์ออมทรัพย์เบื้องต้นประมาณ 18,000 ล้านบาท


ทั้งนี้เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้ง “คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการทุจริตในสหกรณ์” มีหน้าที่ตรวจสอบการทุจริตในสหกรณ์ เร่งรัดติดตามการแก้ไขปัญหา ให้คำแนะนำหรือข้อเสนอแนะแก่กรมส่งเสริมสหกรณ์เพื่อแก้ไขปัญหาการทุจริตในสหกรณ์ ตลอดจนประสานความร่วมมือไปยังปปง. ดีเอสไอ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อร่วมกันติดตามยึดอายัดทรัพย์สินจากผู้ที่ทุจริตยักยอกทรัพย์ของสหกรณ์ เร่งรัดการดำเนินคดีเพื่อบรรเทาและเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสหกรณ์ต่างๆ จึงจัดตั้ง War Room ขึ้นเพื่อดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่ให้แก้ไขปัญหาการทุจริต โดย War Room นี้จะทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลการทุจริตในสหกรณ์ ติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการทุจริตในสหกรณ์เป็นรายกรณี ประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตในสหกรณ์ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งสรุปผลรายงานต่อรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยตรง เพื่อจะเป็นข้อมูลสำหรับนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีได้ทันกับสถานการณ์

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นอีก 3 คณะได้แก่

1. คณะทำงานสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีเกิดการทุจริตในสหกรณ์


2. คณะทำงานรวบรวมและตรวจสอบ กรณีทุจริตของสหกรณ์           

3. คณะทำงานปรับปรุงระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการตรวจสอบงบการเงิน กรรมการและผู้บริหารสหกรณ์

นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์กล่าวว่า ตรวจสอบพบข้อมูลเกี่ยวกับข้อบกพร่องและทุจริตของสหกรณ์ทั้งประเทศ 252 สหกรณ์ ความเสียหายรวม 18,000 ล้านบาท แยกเป็น สหกรณ์ในภาคการเกษตร 148 แห่ง มูลค่าความเสียหาย 2,067.88 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น สหกรณ์การเกษตร 140 แห่ง 1,964 ล้านบาท สหกรณ์ประมง 2 แห่ง 3.97 ล้านบาท สหกรณ์นิคม 6 แห่ง 99.91 ล้านบาท และสหกรณ์นอกภาคการเกษตร (ออมทรัพย์ ร้านค้า เครดิตยูเนี่ยน และบริการ) 104 แห่ง มูลค่าความเสียหาย 16,721.30 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นสหกรณ์ออมทรัพย์ 40 แห่ง มูลค่าความเสียหาย 3,300 ล้านบาท และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน 37 แห่ง มูลค่าความเสียหาย 13,333 ล้านบาท ทั้งนี้การทุจริตในระบบสหกรณ์ มักจะทุจริตกันในระดับฝ่ายจัดการและระดับกรรมการบริหารสหกรณ์ ส่วนในระดับสมาชิกนั้นหากในระดับจัดการหรือระดับบริหารมีการควบคุมที่ดีทำให้สมาชิกเกิดการทุจริตได้น้อย 

เมื่อประมวลผลโดยแยกประเด็นการทุจริตของสหกรณ์แบ่งออกได้ 11 ประเด็นได้แก่

– ทุจริตเกี่ยวกับเงินสด 11%

– ทุจริตเกี่ยวกับเงินฝากของสหกรณ์ 6%

– ทุจริตเกี่ยวกับเงินรับฝากของสมาชิก 9%

– ทุจริตเกี่ยวกับเงินกู้ 21%

– ทุจริตเกี่ยวกับธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย 13%

– ทุจริตเกี่ยวกับธุรกิจรวบรวม 5%

– ทุจริตเกี่ยวกับธุรกิจบริการ/ส่งเสริมการเกษตร 1%

– เบิกค่าใช้จ่ายเป็นเท็จ 1%

– นำทรัพย์สินของสหกรณ์ไปขายโดยมิชอบ 0%

– นำเงินไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวแล้วบันทึกบัญชีเป็นเงินยืมทดรอง 2%      

– ทุจริตประเด็นอื่นๆ 11%

นอกจากนี้ยังเห็นได้ว่า รูปแบบการทุจริตในสหกรณ์แยกเป็นการทุจริตเกี่ยวกับเงินกู้มากที่สุด รองลงมาเป็นการทุจริตเกี่ยวกับการจัดหาสินค้ามาจำหน่ายและทุจริตเกี่ยวกับเงินสด ปัจจุบันได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาจนได้รับการชดใช้ความสียหายจากการทุจริตมาโดยลำดับตัวเลข ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เหลืออยู่ 18,333 ล้านบาท เมื่อเทียบสหกรณ์ที่ได้รับความเสียหาย 252 แห่งนั้นคิดเป็นไม่ถึง 1% ของสหกรณ์ทั่วประเทศทั้งหมด 6,000 กว่าแห่งที่ยังดำเนินการปกติ

นายอำพันธุ์  เวฬุตันติ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์กล่าวว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้ดำเนินการมาตรการเชิงรุกในการจัดทีมตรวจสอบพิเศษเข้าตรวจสอบระบบการควบคุมภายในของสหกรณ์ที่ตรวจสอบบัญชีโดยผู้สอบบัญชีภาคเอกชนทุกสหกรณ์ทั่วประเทศ 1,178 สหกรณ์ ทั้งด้านการเงินการบัญชี และระบบการควบคุมภายใน จากนั้นจะขยายผลไปยังสหกรณ์อื่นต่อไป อีกทั้งให้คำแนะนำแก่สหกรณ์เกี่ยวกับจุดอ่อนจากระบบการควบคุมภายในที่ตรวจพบ โดยมุ่งหวังให้สหกรณ์นำไปปรับปรุงแก้ไขซึ่งจะช่วยให้ป้องกันการทุจริตได้ในระดับหนึ่ง

ล่าสุดยกระดับการแก้ปัญหาการทุจริตโดยสร้างความตระหนักรู้แก่คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์และสมาชิกสหกรณ์เพื่อให้มีส่วนร่วมในการตรวจสอบการเงินการบัญชีของตนเองประกอบด้วย

  • ให้คณะกรรมการสหกรณ์ใช้โปรแกรม CFSAWss ดูสภาพคล่องทางการเงินและความสามารถในการดำเนินธุรกิจ เพื่อนำไปวางแผนการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ ใช้ระบบ Smart Monitor ตรวจสอบการดำเนินการของฝ่ายจัดการ
  • พัฒนาหลักสูตรการพัฒนาระบบการตรวจสอบกิจการสหกรณ์ โดยมุ่งเพิ่มศักยภาพของผู้ตรวจสอบกิจการให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ส่งเสริมให้สมาชิกมีส่วนร่วมในการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินเช่น เงินฝาก เงินกู้ และหุ้น ของตนเองอย่างสม่ำเสมอ ผ่าน application Smart Member ที่พัฒนาโดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ หรือ Application ที่สหกรณ์พัฒนาขึ้นใช้เองเพื่อให้สมาชิกสหกรณ์ร่วมเป็นหนึ่งในกลไกตรวจสอบและเสริมสร้างความโปร่งใสให้สหกรณ์

นอกจากนี้ยังเสริมสร้างสมรรถนะให้แก่ผู้สอบบัญชีให้มีความรู้ด้าน IT เพิ่มขึ้น พัฒนาเทคโนโลยีช่วยตรวจสอบบัญชีเพื่อให้สามารถให้บริการตรวจสอบบัญชีได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นด้วย.-สำนัก​ข่าว​ไท​ย​

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

เร่งคลี่คลายคดีฆ่ายัดกระสอบหมกป่าหญ้าข้างทาง

ตำรวจเรียกสอบ 6 บุคคลต้องสงสัย เร่งคลี่คลายคดีฆ่ายัดกระสอบหมกป่าหญ้าข้างทาง อ.แม่สอด จ.ตาก ด้านลูกชาย ยืนยันศพที่พบเป็นแม่ ใส่ชุดกีฬาของน้องสาว หายออกจากบ้านนานกว่า 1 เดือน

น้ำตาท่วมวัด ฌาปนกิจเหยื่อรถบัสมรณะ

จังหวัดบึงกาฬ จัดพิธีฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถบัสพลิกคว่ำที่จังหวัดปราจีนบุรี ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความอาลัยของญาติและประชาชนในพื้นที่

จเรตำรวจนำทีม ตม.รับตัว 119 คนไทยจากปอยเปต

จเรตำรวจแห่งชาติ นำทีม ตม. รับตัว 119 คนไทยร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากปอยเปต เตรียมคัดแยกเหยื่อและดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทุกราย พบมีหมายจับบัญชีม้า 7 ราย