เฉลิมชัยสั่งกรมชลประทานพร้อมรับสถานการณ์น้ำฤดูฝน

กรุงเทพฯ 7 พ.ค. – รมว. เกษตรฯ ย้ำกรมชลประทานให้วางแผนบริหารจัดการน้ำพร้อมรับฤดูฝนที่จะเริ่มในสัปดาห์หน้า ลั่นประชาชนได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อยู่แล้ว ต้องไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งซ้ำเติม รวมทั้งต้องมีน้ำเพียงพอสำหรับทำการเกษตรซึ่งเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของประเทศ


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มอบนโยบายแก่ผู้บริหารกรมชลประทานผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอร์เรนซ์ว่า ในสัปดาห์หน้า กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า จะประกาศเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการ จึงขอให้กรมชลประทานวางแผนบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับภูมิประเทศและภูมิอากาศ นำข้อมูลพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากทั่วประเทศมาวางแผนแก้ปัญหา เตรียมเครื่องจักร-เครื่องมือให้พร้อมปฏิบัติการ 24 ชั่วโมง

ในการบริหารจัดการน้ำฤดูฝนจะต้องคำนึงถึงการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งด้วยเพราะ “ฝน” เป็นแหล่งกำเนิดน้ำสำคัญ ปริมาณฝนที่ตกในประเทศไทยเพียงพอใช้ตลอดทั้งปี แต่ที่ผ่านมา เกิดภัยแล้งเพราะพื้นที่เก็บกักน้ำมีน้อย ดังนั้นรัฐบาลจึงให้ความสำคัญต่อการเพิ่มพื้นที่เก็บน้ำ ทั้งการสร้างแหล่งเก็บน้ำใหม่และขยายแหล่งเก็บน้ำเดิม ตลอดจนเพิ่มแหล่งน้ำในไร่นา


นายเฉลิมชัยกล่าวต่อว่า ประชาชนได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกอยู่แล้ว จึงต้องช่วยกันไม่ให้ได้รับความเดือดร้อนจากภาวะน้ำท่วม-น้ำแล้งซ้ำเติม นอกจากนี้โควิด-19 ยังทำให้ภาคส่วนต่างๆ ต้องหยุดชะงัก แต่การส่งออกสินค้าเกษตรยังสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศเป็นอันดับหนึ่ง และเมื่อสถานการณ์การระบาดคลี่คลาย ภาคการเกษตรจะมีความสำคัญต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ดังนั้นกรมชลประทานต้องบริหารจัดการให้มีน้ำสนับสนุนภาคการเกษตรอย่างเพียงพอ

ทั้งนี้กรมชลประทานรายงานว่า เริ่มต้นการจัดสรรน้ำในช่วงฤดูฝนตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.  โดยอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั้งประเทศมีปริมาณน้ำรวมกัน 36,442 ล้าน ลบ.ม. สามารถรองรับน้ำรวมกันได้อีกประมาณ 39,626 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 8,961 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำใช้การได้ประมาณ 2,265 ล้าน ลบ.ม. สามารถรองรับน้ำรวมกันได้อีกประมาณ 15,910 ล้าน ลบ.ม.

สำหรับการจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศ การส่งเสริมการปลูกพืชฤดูฝนโดยใช้น้ำฝนเป็นหลักหลังกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการและมีฝนตกในพื้นที่สม่ำเสมอ รวมทั้งการบริหารจัดการน้ำท่าให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ควบคู่ไปกับการกักเก็บน้ำไว้ในเขื่อนหรือแหล่งน้ำธรรมชาติให้ได้มากที่สุด


นอกจากนี้ ยังได้กำหนดพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย กำหนดคน และกำหนดเครื่องจักรเครื่องมือกว่า 5,935 หน่วย เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำที่อาจจะเกิดขึ้น พร้อมกำชับไปยังโครงการชลประทานทั่วประเทศ ตรวจสอบสภาพความมั่นคงของเขื่อนขนาดใหญ่และขนาดกลาง 437 แห่ง และอาคารชลประทานทั่วประเทศอีก 1,806 แห่ง ให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ รวมทั้งสำรวจสิ่งกีดขวางทาง และการกำจัดวัชพืชในแม่น้ำสายหลักและคูคลองต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ การบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำให้อยู่ในเกณฑ์เก็บกัก (RULE CURVE) โดยพิจารณาปรับลดการระบายให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลาเพื่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

เร่งล่าคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต

เจ้าหน้าที่เร่งล่าตัวคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต ก่อนเผารถ ฉกปืนพกสั้น 9 มม. หลบหนี ทั้งยังพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดในพื้นที่ยะลาอีกหลายจุด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน