20 มิ.ย. – กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เตรียมแผนฟื้นฟูพื้นที่เกษตร ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เดินหน้าเต็มสูบ เยียวยา–แจกเสบียง–ผ่อนหนี้ พร้อมรับมือขาดแคลนแรงงานต่างด้าว
นายอรรถกร ศิริลัทยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้จัดเตรียมมาตรการฟื้นฟูระยะเร่งด่วนถึงระยะยั่งยืน หลังเกิดเหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ซึ่งส่งผลกระทบวงกว้างต่อเกษตรกรใน 7 จังหวัด
สำหรับแผนฟื้นฟูที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนดไว้
- สำรวจความเสียหายเพื่อช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบเงินทดรองราชการเพื่อการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562
- สนับสนุนเสบียงอาหารสัตว์ โดยจัดหา–แจกจ่ายตามความต้องการของเกษตรกร
- ดูแลสุขภาพสัตว์และรักษาพยาบาลสัตว์
- ส่งเสริมแหล่งอาหารในครัวเรือน ด้วยการแจกเมล็ดพันธุ์ผัก 40,000 ซอง รวมถึงส่งเสริม การเลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อพลาสติกและกระชังบก
- โครงการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ ปี 2568 ในราคาถูก โครงการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ผ่านศูนย์ข้าวชุมชน และโครงการสนับสนุนปุ๋ยอินทรีย์น้ำ
- โครงการสนับสนุนพันธุ์หม่อนและไข่ไหม
- โครงการปรับพื้นที่การเกษตร ปรับรูปแปลงนา ปรับระดับพื้นที่ และฟื้นฟูบำรุงดินโดยจะสนับสนุนสารพด.
- โครงการลดภาระหนี้ของเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) สถาบันเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร และสหกรณ์การเกษตร ด้วยการผ่อนผัน–ขยายเวลาชำระหนี้ อีกทั้งยังสนับสนุนสินเชื่อรายใหม่ โดยปลอดดอกเบี้ย (เบื้องต้นได้รับรายงานว่า เกิดผลกระทบแล้ว 32 สหกรณ์และ 6 กลุ่มเกษตรกร)
- ชดเชยความเสียหายของทรัพย์สินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรจากเหตุการณ์ความไม่สงบ
- การจ้างแรงงานในพื้นที่ได้รับผลกระทบซึ่งสามารถเริ่มได้ทันที
นอกจากนี้ มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามด้านปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์ 1 แห่ง จัดตั้งศูนย์พักพิงในพื้นที่ของหน่วยงานในสังกัดรวม 4 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์
ทั้งนี้ใน 4 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบหลัก ได้แก่ ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี เกษตรกรประกอบอาชีพด้านปศุสัตว์ เป็นจำนวนมาก จึงสั่งการให้กรมปศุสัตว์ช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ย้ำว่า จะเดินหน้าฟื้นฟูอาชีพของเกษตรกรในพื้นที่อย่างเร่งด่วนเพื่อให้เกษตรกรได้รับความช่วยเหลือเยียวยา ตลอดจนกลับมาประกอบอาชีพได้ตามปกติอย่างมั่นคงเร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย