เตรียมตรวจสอบห่วงโซ่ราคาปาล์มน้ำมัน ดันให้เกษตรกรขายได้ 5 บาท/กก.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “ธรรมนัส” เผยเตรียมตั้งคณะทำงานตรวจสอบห่วงโซ่ปาล์มน้ำมัน ป้องกันการบิดเบือนกลไกราคา เตรียมขึ้นทะเบียนลานเทและลานรับซื้อผลปาล์มของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบทุกแห่ง หาสาเหตุที่ทำให้ราคาปาล์มน้ำมันที่เกษตรกรจำหน่ายได้ต่ำกว่าที่ควร ย้ำจะผลักดันให้ราคาปาล์มไม่ต่ำกว่า 5 บาทต่อกิโลกรัม


ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติให้เป็นประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนกลไกบริหารจัดการเพื่อแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มซึ่งจะมีอำนาจหน้าที่ในการกำกับติดตามตรวจสอบการซื้อขายปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำเพื่อให้ราคาซื้อขายเกิดความเป็นธรรม โดยเตรียมแต่งตั้งคณะทำงานระดับจังหวัดขึ้นใน 7 จังหวัดภาคใต้ที่มีองค์ประกอบจากฝ่ายต่างๆ คล้ายชุดเฉพาะกิจพญานาคราช เบื้องต้นจะสั่งการให้ขึ้นทะเบียนลานเทและลานรับซื้อผลปาล์มของโรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบทุกแห่งเพื่อให้ตรวจสอบได้ง่ายว่า การจำหน่ายปาล์มน้ำมันจากเกษตรกรมายังลานเท จากลานเทไปยังโรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) และจากโรงสกัด CPO ไปยังโรงกลั่น B100 เพื่อผสมเป็นน้ำมันไบโอดีเซล มีการบิดเบือนกลไกราคาตรงจุดใด

ทั้งนี้ที่ประชุมครม. เศรษฐกิจซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเห็นสมควรให้ขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ตามมาตรา 7 แห่งพ.ร.บ. การค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2543 ซื้อน้ำมันไบโอดีเซล (B100) ตามราคาประกาศของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ในเว็บไซต์ https://www.eppo.go.th/index.php/th/petroleum/price/structure-oil-price ซึ่งราคา ณ วันที่ 12 มิถุนายน 2567 อยู่ที่ 35.54 บาทต่อลิตรซึ่งราคาดังกล่าวคำนวณจากราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) เฉลี่ยที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์เผยแพร่ ล่าสุดนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานรับที่จะไปเจรจาขอความร่วมมือจากปตท. บางจาก และผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่อื่นๆ ขณะนี้บางจากนำร่องตามมาตรการดังกล่าวเป็นรายแรก


นอกจากนี้จะติดตามตรวจสอบการซื้อน้ำมันไบโอดีเซลของผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ตามมาตรา 7 โดยจะใช้อำนาจตามมาตรา 311 พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หากพบว่า ผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ไม่ซื้อขายตามราคาประกาศของสนพ. ดังนั้นมั่นใจว่า ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำของห่วงโซ่ปาล์มน้ำมันจะเกิดราคาที่เป็นธรรม

สำหรับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ซึ่งเป็นต้นน้ำเนื่องจากดูแลเกษตรกรชาวสวนปาล์มจะวางแผนการผลิตปาล์มน้ำมันใหม่ โดยให้อุปสงค์สอดคล้องกับอุปทานเพื่อไม่ให้เกิดภาวะผลผลิตล้นตลาดจนเป็นเหตุให้ราคาตกต่ำ

ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวถึงการบริหารจัดการห่วงโซ่ปาล์มน้ำมันว่า ประมาณ 1 ใน 3 ของผลผลิตปาล์มใช้ทำ B100 อีกส่วนบริโภคในประเทศโดยผลิตเป็นน้ำมันปรุงอาหาร และส่งออกประมาณ 20% ขณะนี้สต๊อกน้ำมันปาล์มอยู่ที่ 230,00 ตันซึ่งยังต่ำกว่าระดับสต๊อกที่เหมาะสม 250,000 ตัน ดังนั้นสต๊อกน้ำมันปาล์มจึงไม่ได้เกินจนเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาปาล์มน้ำมันที่เกษตรกรขายได้ตกลงมา โดยเห็นว่า ราคาจำหน่ายผลปาล์มน้ำมันของเกษตรควรไม่ต่ำกว่า 5 บาท ดังนั้นตนจึงต้องทลายกำแพงที่สร้างความไม่เป็นธรรมต่อเกษตรกรให้ได้


ทั้งนี้กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์จึงต้องหาข้อเท็จจริงว่า สาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ราคาปาล์มน้ำมันที่เกษตรกรขายได้ตกต่ำลงและจะร่วมกันหามาตรการรักษาเสถียรภาพราคาปาล์มเพื่อไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ซ้ำกันอีกทุกปี นอกจากนี้กระทรวงเกษตรฯ จะยกระดับการป้องกันการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์ที่มีกฎหมายห้ามนำเข้าอยู่แล้ว โดยมีหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราชร่วมกับฝ่ายความมั่นคงลงพื้นตรวจสอบอย่างเข้มข้น

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ระบุถึงสถานการณ์ปาล์มน้ำมันเดือนมิถุนายน 2567 ว่า ราคาปาล์มน้ำมันที่เกษตรกรขายได้ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากเดือนพฤษภาคม เฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละ 4.09 บาท จากเดือนพฤษภาคมกิโลกรัมละ 3.95 บาท ทั้งนี้มีสาเหตุจาก ผลผลิตจะออกสู่ตลาดลดลงจากเดือนพฤษภาคมประมาณ 1.649 ล้านตัน โดยปาล์มน้ำมันให้ผลผลิตต่อเนื่องทั้งปี โดยช่วงที่ให้ผลผลิตน้อยคือ ปลายปีต่อเนื่องต้นปี ส่งผลให้ราคาตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายน 2567 ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 4 บาทกว่าถึง 5 บาท แต่ช่วงที่ให้ผลผลิตมากที่สุดคือ ตั้งแต่เดือนมีนาคม – มิถุนายนจึงเป็นช่วงที่ราคาปรับลด

สถานการณ์ปาล์มน้ำมัน ปี 2567 ซึ่งการผลิตรวมทั้งประเทศ พบว่า (ข้อมูลพยากรณ์ ณ 26 มีนาคม 2567) เนื้อที่ให้ผล 6.381 ล้านไร่ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีเนื้อที่ให้ผล 6.248 ล้านไร่ โดยเพิ่มขึ้น 132,959 ไร่หรือร้อยละ 2.13 ผลผลิต 18.121 ล้านตัน ลดลงจากปีที่แล้วที่ให้ผลผลิต 18.267 โดยลดลง 146,471 ตันหรือร้อยละ 0.80 ผลผลิตต่อเนื้อที่ให้ผล 2,840 กิโลกรัมต่อไร่ ลดลงจาก 2,924 กิโลกรัมต่อไร่ โดยลดลงจากปีที่แล้ว 84 กิโลกรัมต่อไร่หรือร้อยละ 2.87

ทั้งนี้ที่คาดการณ์ว่า ภาพรวมเนื้อที่ให้ผลผลิตในภาคใต้จะเพิ่มขึ้นเนื่องจากเกษตรกรปลูกปาล์มน้ำมันใหม่เมื่อปี 2564 ซึ่งเป็นการปลูกปาล์มน้ำมันแทนยางพารา บางส่วนขยายพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันแทนพื้นที่นา พื้นที่รกร้าง โดยเริ่มให้ผลผลิตได้ในปีนี้ ทั้งนี้ การขยายเนื้อที่ปลูกปาล์มน้ำมันเมื่อปี 2564 มีสาเหตุมาจากราคาปาล์มน้ำมันตั้งแต่ปี 2564 อยู่ในเกณฑ์ดี

ส่วนผลผลิตต่อเนื้อที่ให้ผลผลิตรวมทั้งประเทศคาดว่า ลดลงเนื่องจากในช่วงปลายปี 2565 จนถึงพฤษภาคม 2566 ต้นปาล์มน้ำมันได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศร้อนและแห้งแล้ง ปริมาณน้ำฝนไม่เพียงพอ ทำให้ทางใบบางส่วนพับ ต้นปาล์มน้ำมันไม่สมบูรณ์ การออกทะลายที่จะเก็บในปี 2567 ลดลง ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 จนถึงต้นปี 2567 ปรากฏการณ์เอลนีโญรุนแรงขึ้น ส่งผลให้ปริมาณน้ำฝนไม่เพียงพอต่อความต้องการของต้นปาล์มน้ำมันซึ่งอาจส่งผลให้น้ำหนักต่อทะลายลดลง

สำหรับผลผลิตปีนี้ซึ่งออกสู่ตลาดมากสุดตั้งแต่เดือนมีนาคม – มิถุนายน คิดเป็นร้อยละ 38 ของผลผลิตทั้งหมด โดยเดือนพฤษภาคมผลผลิตออกสู่ตลาดประมาณ 1.694 ตัน เกษตรกรเก็บผลผลิตไปกระจุกตัวหน้าลานเท ส่งผลให้ราคาผลปาล์มน้ำมันทั้งทะลายคละที่เกษตรกรขายได้เดือนพฤษภาคมปรับลดมาอยู่ที่เฉลี่ยกิโลกรัมละ 3.95 บาท แต่ระยะนี้ที่เป็นปลายช่วงให้ผลผลิตมากราคาจึงปรับขึ้นดังกล่าว. 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]