หวั่นวัตถุดิบอาหารสัตว์ขาด-แพงขึ้นจากเอลนีโญและข้อตกลงทะเลดำ

กรุงเทพฯ 3 ส.ค.- นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยหวั่นผลผลิตธัญพืชซึ่งเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์จะมีปริมาณลดลงทั่วโลกเนื่องจากสภาวะเอลนีโญ รวมถึงการที่รัสเซียระงับข้อตกลงส่งออกธัญพืชผ่านทะเลดำของยูเครน ขณะที่สมาคมหมูเกรงราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่อาจปรับเพิ่ม จะซ้ำเติมภาวะขาดทุนจาก “หมูเถื่อน” เตรียมหารือภาครัฐส่งหนังสือถึงประเทศผู้ส่งออกหมูว่า ไทยยังไม่เปิดนำเข้าเนื้อหมู คาดส่งผลให้เกิดภาวะขาดทุนในธุรกิจสุกรไทยถึงสิ้นปี 2566


นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยกล่าวแสดงความกังวลถึงปัญหาที่จะส่งผลกระทบต่อวัตถุดิบอาหารสัตว์ว่า สภาวะเอลนีโญมีแนวโน้มต่อเนื่องไป 1 ถึง 3 ปี จึงเป็นสัญญาณอันตรายว่า ผลผลิตทางการเกษตรทั่วโลกจะได้รับผลกระทบ รวมถึงธัญพืชซึ่งเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่สำคัญ นอกจากนี้รัสเซียยังระงับ “ข้อตกลงธัญพืชทะเลดำ” อีกครั้งซึ่งจะทำให้การส่งออกธัญพืชจากยูเครนที่เป็นแหล่งเพาะปลูกพืชอาหารสัตว์แหล่งใหญ่ของโลกต้องหยุดชะงัก ดังนั้นอาจเกิดปัญหาทั้งวัตถุดิบอาหารสัตว์ขาดและแพงขึ้น

ขณะที่ประเทศไทยยังไม่เตรียมการรับมือ โดยจำกัดการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ แต่ปล่อยให้เกิดปัญหาข้าวโพดหนีภาษีสวมสิทธิ์ในประเทศ ขณะที่การเพิ่มการเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศไทยยังไม่ดำเนินการอย่างจริงจัง รวมถึงการปลูกยังขาดมาตรฐานรับรอง ต่างจากเวียดนามที่นำเข้าข้าวโพดได้ 100% และเริ่มปลูกข้าวโพด GMO แล้ว


นายทวีเดช ประเจกสกุล กรรมการและผู้จัดการฝ่ายวิชาการ บริษัท ท็อปฟีดมิลล์ จำกัดกล่าวว่า กังวลว่า ซับพลายวัตถุดิบอาหารสัตว์จะขาดมากกว่าราคาที่จะแพงขึ้น ส่วนการหาวัตถุดิบทดแทนโดยเชิงปริมาณแล้ว ยากที่จะทำได้ ดังเช่นกากเบียร์ กากทานตะวัน และกากงาที่จัดหาได้เพียงตามฤดูกาลเท่านั้น

นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือเปิดเผยว่า ผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศได้รับความเดือนร้อนอย่างหนักจากราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มต่ำกว่าต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะต้นทุนด้านวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่สูงขึ้น โดยเป็นผลกระทบต่อเนื่องมาจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนตั้งแต่ต้นปี 2565 ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันทำให้ราคาสูงขึ้นกว่า 30% ล่าสุดรัสเซียประกาศยกเลิกข้อตกลงธัญพืชทะเลดำซึ่งส่งผลให้ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และข้าวสาลีที่เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์หลักเพิ่มขึ้นแล้ว 5-10% ประกอบกับปีที่ผ่านมา เกษตรกรลงทุนปรับปรุงฟาร์มเพื่อป้องกันการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ทำให้ต้นทุนการเลี้ยงสูงขึ้น

ทั้งนี้ราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มของไทยจากที่เคยมีราคาสูงสุดในภูมิภาคอาเซียนเมื่อปี 2565 แต่ปีนี้กลับตกต่ำที่สุดเนื่องจากได้รับผลกระทบจาก “หมูเถื่อน” ยังคงมีกระจายทั่วประเทศช่วงครึ่งปีแรก 2566 ทำให้ราคาหมูลดลงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง จึงต้องการให้ภาครัฐปราบปรามหมูเถื่อนให้สิ้นซาก


นายสัตวแพทย์เกียรติภูมิ พฤกษะวัน เลขาธิการสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติกล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา “หมูเถื่อน” ไหลเข้าสู่ประเทศไทย ทั้งที่เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรไทยเพิ่งฟื้นจากการระบาดของโรค ASF ในปี 2564 และสามารถเพิ่มการผลิตสุกรจนเพียงพอต่อการบริโภคในประเทศแล้ว เมื่อมีปริมาณเนื้อสุกรนอกกฎหมายเข้ามาในตลาด ทำให้ราคาสุกรหน้าฟาร์มตกต่ำอย่างมากตั้งแต่ปลายไตรมาสที่ 4 ปี 2565 เป็นต้นมา โดยที่ภาครัฐไม่สามารถช่วยเหลือเกษตรกรในประเทศได้

ล่าสุดสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติเตรียมหารือกับกรมปศุสัตว์ให้ส่งหนังสือแจ้งให้กับหน่วยงานราชการนานาชาติทราบถึงปัญหา “หมูเถื่อน” โดยเฉพาะอย่างยิ่งแจ้งประเทศผู้ส่งออกเนื้อสุกรมายังประเทศไทยว่า ปัจจุบันรัฐบาลยังไม่อนุญาตให้มีการนำเข้า เพื่อให้ประเทศผู้ส่งออกต้นทางที่รับคำสั่งซื้อจากผู้นำเข้าที่ไม่ได้รับอนุญาตจากประเทศไทยให้แจ้งทางผู้นำเข้าถึงปัญหาดังกล่าว เพื่อป้องกันการไหลของ “หมูเถื่อน” เข้ามายังตลาดเมืองไทยโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายนี้โดยด่วน ส่วนในประเทศนั้น ขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กวาดล้างขบวนการนี้จนถึงที่สุด

นายสัตวแพทย์เกียรติภูมิกล่าวว่า ปัจจุบันไม่มีข่าวการแพร่ระบาดใหม่ของโรค ASF ในประเทศไทย โดยฟาร์มสุกรที่ได้รับเป็นฟาร์มมาตรฐานเพิ่มขึ้นเป็น 6,209 ราย ยิ่งสร้างความมั่นใจในเชิงประสิทธิภาพของการป้องกันโรค โดยจำนวนสุกรเข้าเชือดในแต่ละวันประมาณ 55,000 ตัว คิดเป็น 80-90% ของจำนวนช่วงก่อนการระบาดของโรค ASF

ส่วนต้นทุนการเลี้ยงสุกรของไทยอยู่ประมาณ 90 บาทต่อกิโลกรัมแต่สามารถขายได้ประมาณ 60 บาทต่อกิโลกรัมทำให้ผู้เลี้ยงสุกรขาดทุนตัวละ 3,000 บาท โดยปริมาณการผลิตในประเทศมีการผลิตสุกรเฉลี่ย 50,000ตัวต่อวัน เท่ากับขาดทุนวันละ 150 ล้านบาท หรือ เดือนละ 4,500 ล้านบาท โดยผู้ประกอบการฟาร์มสุกรในประเทศไทยตั้งแต่ช่วงการระบาดปี 2564-2565 จะต้องมีทุนรองรับการขาดทุนจาก ASF และมีทุนเพื่อการขยายตัว คาดว่า การขาดทุนในธุรกิจสุกรไทยอาจลากยาวถึงสิ้นปี 2566

สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติประกาศราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม โดยราคาอยู่ระหว่าง 62- 74 บาทต่อกิโลกรัมตามแต่ละภูมิภาค โดยตลาดมีทิศทางดีขึ้น การซื้อขายจริงมีฐานราคาปรับขึ้นเล็กน้อยในหลายภูมิภาค แม้รายงานแต่ละภูมิภาคยังรายงานราคาที่ทรงตัว พร้อมระบุถึงคดี “หมูเถื่อน” ว่า มีสายของผู้ประกอบการขนส่งทางเรือให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการสาวถึงขบวนการลักลอบนำเข้าสินค้าสุกร

นอกจากนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษเตรียมประชุมกับกรมปศุสัตว์และกรมศุลกากรในสัปดาห์หน้าเพื่อกำหนดวันทำลายสินค้าของกลางในตู้คอนเทนเนอร์ 161 ตู้ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งกำหนดพื้นที่ทำลายของกลางเป็นในพื้นที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยของกลางเสื่อมสภาพจนไม่สามารถนำไปจำหน่ายเพื่อการบริโภคได้แล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

กองกำลังบูรพา ผ่อนผันให้รถขนส่งสินค้าผ่านแดน

29 มิ.ย.- กองกำลังบูรพา ผ่อนผันให้รถขนส่งสินค้า ผ่านเข้า-ออก 3 ด่านชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจำกัดเวลา-จำนวนคัน เริ่มวันนี้ (29 มิ.ย.) และให้แล้วเสร็จใน 7 วัน ลดผลกระทบความเดือดร้อนของประชาชนตามหลักมนุษยธรรม กองกำลังบูรพา ออกประกาศ เรื่อง การควบคุมด่านชายแดนไทย-กัมพูชา 1. ตามที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาตรวจราชการ และประชุมหารือประเด็นผลกระทบมาตรการการควบคุมด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 โดยให้หน่วยงานความมั่นคง ประชุมหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการการควบคุมชายแดน และที่ประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ได้มีมติเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ให้มีการผ่อนผันให้รถขนส่งสินค้าไทยที่ตกค้าง และรถขนส่งสินค้าตามใบขนสินค้าขาออก หรือใบขนสินค้าผ่านแดน ที่ได้ส่งข้อมูลเข้ามาในระบบคอมพิวเตอร์ของกรมศุลกากร ก่อนวันที่ 25 มิถุนายน 2568 ข้ามไปยังกัมพูชาและกลับเข้ามายังราชอาณาจักรไทย 2. เพื่อเป็นการลดผลกระทบความเดือดร้อนของประชาชนตามหลักมนุษยธรรม และเพื่อให้การปฏิบัติการควบคุมสอดคล้องกับการดำเนินการตามข้อ 1 กองกำลังบูรพา จึงขอประสานให้หน่วยที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้2.1 ให้ผ่านเข้า-ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท ได้วันละไม่เกิน […]

นายกฯ นำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว

เพื่อไทย 29 มิ.ย. – โฆษกพรรคเพื่อไทย เผยนายกฯ นำชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว รอหารือที่ประชุมพรรค 3 ก.ค.นี้ หลังมี สส.อีสาน ทวงเก้าอี้รองประธานสภาฯ คนที่ 2 นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสำคัญ ทราบว่าทางทำเนียบรัฐบาลได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว ขอให้รอขั้นตอนต่อไปว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ ลงมาเมื่อใด ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่า สส.ภาคอีสานพรรคเพื่อไทยทวงโควตาเก้าอี้รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 หลังผิดหวังจากโผ ครม. นายดนุพร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกัน ซึ่งในการปรับคณะรัฐมนตรีทุกครั้ง ทุกพรรคมีแรงกระเพื่อมหมด ซึ่งแน่นอนว่ามีคนอยากเข้าไปทำงานเป็นเรื่องปกติ โดยในวันที่ 2 ก.ค.นี้ จะมีการประชุม สส.พรรคเพื่อไทย ก่อนเปิดสมัยประชุมสภาในวันที่ 3 ก.ค. จะมีการพูดคุยถึงขั้นตอนหลายๆ อย่าง ส่วนเรื่องการเลือกรองประธานสภาฯ คนใหม่ ได้รับแจ้งว่าน่าจะก่อนวันที่ 15 ก.ค. ส่วนพรรคเพื่อไทยจะส่งใครเป็นตัวแทน […]

ปชน.ประณามแกนนำม็อบปราศรัยเจตนาปูทางรัฐประหาร

พรรคประชาชน 29 มิ.ย.-พรรคประชาชน ประณามแกนนำผู้ชุมนุมปราศรัยปลุกปั่นชาตินิยม เจตนาปูทางรัฐประหาร ย้ำทางออกจากวิกฤตการเมือง คือ ยุบสภา เปิดทางเลือกตั้งใหม่  พรรคประชาชนแสดงความเห็นถึงการชุมนุมเมื่อวานนี้ (28 มิ.ย.) ว่า ความเห็นของพรรคประชาชนต่อการชุมนุมของ “คณะรวมพลังแผ่นดิน” การชุมนุมที่นำโดย “คณะรวมพลังแผ่นดิน” เมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมานี้ ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แม้จะมีข้อเรียกร้องอย่างเป็นทางการให้นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลาออก และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องตามปกติในระบอบประชาธิปไตย แต่ปรากฏว่า การปราศรัยของแกนนำบนเวทีบางคนกลับมีเนื้อหาที่เปิดทางให้กับการรัฐประหาร รวมถึงมีการปลุกปั่นกระแสชาตินิยมที่เกินเลยขอบเขต  พรรคประชาชนขอประณามการสร้างความชอบธรรมให้กับการรัฐประหาร ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตยอย่างร้ายแรง  พรรคประชาชนขอเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนที่สนับสนุนการชุมนุมด้วยความไม่พอใจต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ถอนตัวจากการสนับสนุนคณะรวมพลังแผ่นดิน ที่มีแกนนำบางคนมีเจตนาสนับสนุนการรัฐประหารและการแทรกแซงการเมืองด้วยวิถีทางนอกประชาธิปไตย เพราะแม้ว่าการแสดงออกทางการเมืองด้วยการชุมนุมประท้วงจะเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน แต่พวกเราคนไทยต่างได้รับบทเรียนอย่างดีแล้วว่า 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศชาติและประชาชนบอบช้ำเสียหายอย่างไม่อาจประเมินได้จากการรัฐประหาร 2 ครั้ง และปัญหาการเมืองของเราไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิถีทางนอกประชาธิปไตย ผลพวงจากการรัฐประหารกลับซ้ำเติมปัญหาการใช้อำนาจอย่างฉ้อฉล การคอร์รัปชัน กระบวนการยุติธรรมที่บิดเบี้ยว และการเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องและกลุ่มทุนผูกขาดเสียด้วยซ้ำ วันนี้เราต้องไม่ยินยอมให้ใครฉวยโอกาสเอาความผิดพลาดล้มเหลวของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล มาเปิดทางให้กับการรัฐประหารหรือการแก้ปัญหาการเมืองด้วยวิถีทางที่ขัดต่อประชาธิปไตยอีก ซึ่งมีแต่จะก่อวิกฤตซ้ำซ้อนทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น พรรคประชาชน ขอยืนยันว่า ทางออกจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ที่ดีที่สุด คือหนทางปกติตามระบบรัฐสภา […]

เหนือ-อีสานตอนบน ฝนฟ้าคะนองกระจาย ตกหนักบางแห่ง

กทม. 29 มิ.ย.-กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือและอีสานตอนบน ฝนฟ้าคะนองกระจายและตกหนักบางแห่ง ส่วนตอนล่าง ภาคกลาง และตะวันออก เริ่มมีฝนลดลง แต่ยังตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกระจายและมีฝนตกหนักบางแห่ง ในขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก เริ่มมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]