“ปศุสัตว์” แจงไม่มีกระบวนการสวมสิทธิ์ไก่ส่งออก ย้ำคุมเข้มตลอดห่วงโซ่การผลิต

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – อธิบดีกรมปศุสัตว์ยืนยัน ไม่มีการสวมสิทธิ์การส่งออกชิ้นส่วนไก่ ตามที่มีข่าวระบุว่า มีการนำชิ้นส่วนไก่ที่ไม่ได้มาตรฐานมาปลอมแปลงใบรับรองสุขอนามัยเพื่อส่งออกไปจีน โดยอ้างว่าเป็นกระบวนการที่เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ร่วมด้วย ย้ำกำกับดูแลตลอดห่วงโซ่การผลิต ตรวจสอบย้อนได้ เป็นไปตามกฎหมายและเงื่อนไขของประเทศคู่ค้า โดย 5 เดือนแรกของปี 2566 ยอดส่งออกเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สอดคล้องกับจำนวนไก่เนื้อเข้าเลี้ยง


นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวถึงข่าวที่ปรากฏในสื่อออนไลน์แห่งหนึ่งว่า มีกระบวนการสวมสิทธิ์การส่งออกชิ้นส่วนไก่ ซึ่งมีการนำชิ้นส่วนไก่ที่ไม่ได้มาตรฐานเตรียมส่งออกไปยังจีน โดยปลอมแปลงใบรับรองสุขอนามัย (Health Certificate) ซึ่งกระบวนการดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์เกี่ยวข้อง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การจับกุมการลักลอบขนย้ายชิ้นส่วนไก่ซึ่งเตรียมส่งออกได้ที่จังหวัดชลบุรี ส่งผลให้ผู้กระทำความผิดไม่สามารถส่งออกได้ จึงต้องมาประกาศขายภายในประเทศผ่านช่องทางออนไลน์ นอกจากนี้ยังระบุว่า ยอดการส่งออกชิ้นส่วนไก่ไปยังประเทศจีนของปีที่แล้วกับปีนี้สูงขึ้นกว่า 100% ซึ่งสวนทางกับจำนวนลูกไก่ลดลงจึงเชื่อว่า มีกระบวนการสวมสิทธิ์ส่งออกนั้น

กรมปศุสัตว์ยืนยันว่า กระบวนการสวมสิทธิ์การส่งออกชิ้นส่วนไก่ไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจากในกระบวนการผลิตและส่งออกชิ้นส่วนไก่ตั้งแต่การฆ่าและชำแหละ การขนส่ง จนกระทั่งการออกใบรับรองสุขอนามัย (Health Certificate) มีการกำกับดูแลของเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ผู้รับผิดชอบในแต่ละขั้นตอน ตลอดห่วงโซ่การผลิต และมีการหมุนเวียนเจ้าหน้าที่รับผิดชอบประจำโรงฆ่าไก่ส่งออกเป็นระยะ สามารถตรวจสอบย้อนได้ทุกขั้นตอน ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย มาตรฐานสากล และเงื่อนไขของประเทศคู่ค้า อีกทั้งข้อมูลปริมาณลูกไก่เนื้อที่เข้าเลี้ยงในประเทศไทยไม่ได้ลดลงตามที่ระบุในข่าวแต่อย่างใด


ส่วนที่ตามข่าวปรากฏชื่อสัตวแพทย์ของกรมปศุสัตว์เป็นผู้ลงนามใบรับรองสุขอนามัย (Health Certificate) ที่มีการปลอมแปลงนั้น สัตวแพทย์ผู้ถูกปลอมแปลงลายมือชื่อได้ลงบันทึกประจำวันไว้กับพนักงานสอบสวนว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและลายมือชื่อดังกล่าวไม่ใช่ของตนเองแต่อย่างใด

อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยมอบหมายให้ด่านกักกันสัตว์ชลบุรี ทำหนังสือขอข้อมูล พยาน เอกสาร และหลักฐานต่างๆ ไปยังตำรวจชุดจับกุมของกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ได้แก่ หนังสือ Health Certificate ที่ปลอมแปลง ใบอนุญาตนำสัตว์และซากสัตว์ออกนอกราชอาณาจักร (ร.9) ใบขนสินค้าขาออก และอีเมล์ที่ทางการจีนยืนยันว่า มีเจ้าหน้าที่ไทยส่งไปเพื่อมาใช้ประกอบการพิจารณาตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ที่เกี่ยวข้อง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ตอบเป็นหนังสือมายังด่านกักกันสัตว์ชลบุรีว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่มีเอกสารข้อมูลดังกล่าวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามหากกรมปศุสัตว์ตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่ของกรมปศุสัตว์มีส่วนเกี่ยวข้องในภายหลัง จะดำเนินการสอบสวนและลงโทษตามระเบียบราชการอย่างเด็ดขาดต่อไป

สำหรับยอดการส่งออกไก่ไปยังจีนที่สูงขึ้นนั้น สอดคล้องกับจำนวนไก่เนื้อที่เข้าเลี้ยงของ 5 เดือนแรกในปี 2566 (ม.ค. – พ.ค.) เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 5 เดือนแรกของปี 2565 (ม.ค. – พ.ค.) โดยจำนวนไก่เนื้อเข้าเลี้ยง 5 เดือนแรก (ม.ค. – พ.ค.) ของปี 2565 รวม 790,458,861 ตัว ส่วน 5 เดือนแรก (ม.ค. – พ.ค.) ของปี 2566 รวม 824,194,735 ตัว เพิ่มขึ้น 4.27 % ส่วนยอดการส่งออกของชิ้นส่วนไก่ไปยังประเทศจีนในปี 2566 ใน 5 เดือนแรก (ม.ค. – พ.ค.) ปริมาณ 47,629 ตัน เมื่อเทียบกับปี 2565 (ม.ค. – พ.ค.) ปริมาณ 23,063 ตัน เพิ่มขึ้น 24,566 ตัน คิดเป็น 106% โดยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2565 มีโรงงานที่ประเทศจีนอนุญาตให้ส่งออกได้เพียง 11 แห่ง แต่ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 มีโรงงานที่ประเทศจีนอนุญาตให้ส่งออกได้เพิ่มขึ้นรวมเป็น 19 แห่ง จึงเป็นเหตุให้ยอดการส่งออกช่วงต้นปี 2566 สูงกว่าปี 2565 ดังกล่าว


อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวต่อไปว่า จากการนำคณะเดินทางไปหารือกับกรมความปลอดภัยอาหารนำเข้าและส่งออกของจีนในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา Mr. Wang Fuxiao รองอธิบดีกรมความปลอดภัยอาหารนำเข้าและส่งออก สำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (Bureau of Import and Export Food Safety, The General Administration of Customs of People’s Republic of China: GACC) ยังกล่าวชื่นชมและขอบคุณกรมปศุสัตว์ไทยที่ให้ความร่วมมือกำกับดูแลตรวจสอบสุขอนามัยการผลิตเนื้อและชิ้นส่วน รวมถึงผลพลอยได้สัตว์ปีกแช่แข็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามข้อกำหนดของพิธีสารระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทยกับสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าด้วยหลักเกณฑ์การตรวจสอบ การกักกัน และสุขอนามัยทางสัตวแพทย์ เพื่อการส่งออกเนื้อสัตว์ปีกแช่แข็งและชิ้นส่วนสัตว์ปีกจากประเทศไทยไปยังประเทศจีน จนส่งผลให้การส่งออกเนื้อและชิ้นส่วนไก่แช่แข็งจากไทยมาจีนเติบโตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจีนอนุญาตขยายขอบข่ายชิ้นส่วนและเครื่องในเป็ดเพิ่มอีกด้วย 

พร้อมกันนี้เน้นย้ำว่า กรมปศุสัตว์กำกับดูแลและตรวจสอบกระบวนการผลิตสินค้าปศุสัตว์ให้ถูกสุขลักษณะ ได้คุณภาพ และมาตรฐานตามระบบ GMP และ HACCP ตามมาตรฐานระดับโลก พร้อมขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการโรงงานไก่ส่งออกที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังและตรวจสอบการซื้อขายชิ้นส่วนไก่และผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะการขายผ่านช่องทางออนไลน์ หากพบความผิดปกติ หรือมีการปลอมแปลงผลิตภัณฑ์ของตนเองให้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง และ/หรือแจ้งมายังสำนักพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ เพื่อตรวจสอบขยายผลการกระทำผิดต่อไป นอกจากนี้อาจมีผู้แอบอ้างหรือปลอมแปลงเอกสารราชการของกรมปศุสัตว์ เพื่อหลอกลวงในการขายชิ้นส่วนไก่ส่งออกไปประเทศจีน กรมปศุสัตว์ขอเตือนอย่าหลงเชื่อ และขอให้ตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องกับสำนักพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ ก่อนทำการตกลงซื้อขาย หมายเลขโทรศัพท์02-6534444 ต่อ 3134 อีเมล์ certify10@dld.go.th หรือแจ้งเบาะแสข้อมูลผ่านทางแอพพลิเคชัน DLD 4.0 ได้ตลอดเวลา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้

วุ่นแต่เช้า! ด่านคลองลึก “ไทย-กัมพูชา” เปิดไม่พร้อมกัน

สระแก้ว 8 มิ.ย.- ด่านคลองลึก วุ่นแต่เช้า! “ไทย-กัมพูชา” เปิดด่านชายแดนไม่พร้อมกัน หลังปรับเวลาวันแรก ทำคนรอหน้าด่านจำนวนมาก ด่าน ตม.อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เปิดประตูด่านพรมแดนคลองลึก บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา มีความวุ่นวายเกิดขึ้น เนื่องจากวันนี้นับเป็นวันแรกที่เริ่มใช้มาตรการเปิดด่านเวลา 08.00 น. พอถึงเวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ทำการเปิดประตูด่านพรมแดน บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา แต่ทางฝั่งกัมพูชา ไม่มีทีท่าว่าจะเปิดด่านแต่อย่างใด โดยมีชาวกัมพูชาและแรงงานชาวกัมพูชาจำนวนมากจากฝั่งไทยที่จะเดินทางกลับประเทศกัมพูชา พร้อมทั้งพนักงานกาสิโนชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต้องมายืนรอกัมพูชาเปิดด่าน ต่อมา พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ ร.ท.สาโรจน์ โยธา ผบ. ร้อย ทพ.1201 ได้เดินเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่กัมพูชาบริเวณประตูพรมแดนฝั่งกัมพูชาถึงสาเหตุที่กัมพูชายังไม่เปิดด่าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตม.และตำรวจกัมพูชา แจ้งมาว่าเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชาของกัมพูชาให้เปิดด่านเวลา 09.00 น. ซึ่งไม่ตรงกับไทย ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยต้องออกประชาสัมพันธ์ให้ชาวกัมพูชาและนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงคนไทยที่จะไปทำงานในฝั่งกัมพูชาทราบว่าด่านไทยเปิดเวลา 08.00 น. แต่ด่านกัมพูชา เปิด 09.00 น. […]