“มนัญญา” ชูนโยบายขับเคลื่อนความเข้มแข็งสหกรณ์-กลุ่มเกษตรกร

กรุงเทพฯ 27 มิ.ย.- “รัฐมนตรีมนัญญา” Kick Off นโยบาย “ขับเคลื่อนความเข้มแข็งของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรแบบบูรณาการ พุ่งเป้าสู่องค์กรสมรรถนะสูง และเติบโตอย่างยั่งยืน” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมสหกรณ์และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ตามแผนพัฒนาการสหกรณ์ ฉบับที่ 5 มุ่งสร้างความเข้มแข็งสหกรณ์ใน 4 มิติอย่างยั่งยืน


นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดกิจกรรมประกาศนโยบาย “ขับเคลื่อนความเข้มแข็งของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรแบบบูรณาการ พุ่งเป้าสู่องค์กรสมรรถนะสูง และเติบโตอย่างยั่งยืน” โดยมีนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์และนางสาวอัญมณี ถิรสุทธิ์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ให้การต้อนรับ ณ กรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยมีการถ่ายทอดสัญญาณยังหน่วยงานในสังกัดกรมส่งเสริมสหกรณ์และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคด้วย

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการสร้างรูปแบบการทำงานเพื่อส่งเสริม พัฒนา และตรวจสอบสหกรณ์ให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง ตลอดจนสนับสนุนให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนากิจกรรมให้มีความเข้มแข็งและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่สมาชิก


ทั้งนี้คณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ (คพช.) ได้ให้แนวทางในการพัฒนาการสหกรณ์ไว้ในแผนพัฒนาการสหกรณ์ ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2566 – 2570) ให้สอดคล้องกับแนวทางการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ ในห้วงที่ 2 (พ.ศ. 2566 – 2570) เพื่อให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง จึงต้องปรับทั้งกระบวนการคิดและวิธีในการบริหารจัดการให้ทันยุคสมัยและบริบทที่เปลี่ยนไปรวม 5 ด้านได้แก่

–           การจัดการและบริหารการเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสม

–           การพัฒนาคนวัยทำงานรุ่นใหม่สู่ช่วงยุคเปลี่ยนผ่าน


–           การพัฒนาองค์กรสู่รูปแบบวัฒนธรรมการทำงานด้วยข้อมูลและเทคโนโลยี

–           การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า

–           การเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืนของการสหกรณ์

นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์กล่าวว่า การ Kick Off นโยบาย “ขับเคลื่อนความเข้มแข็งของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรแบบบูรณาการ พุ่งเป้าสู่องค์กรสมรรถนะสูง และเติบโตอย่างยั่งยืน” เป็นการประกาศขับเคลื่อนงานร่วมกันระหว่างกรมส่งเสริมสหกรณ์และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ในการส่งเสริม พัฒนา และแก้ไขปัญหาของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ให้สอดคล้องกับนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างมีประสิทธิภาพ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย เป็นไปในทิศทางเดียวกัน นอกจากนี้ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนา “การสหกรณ์” ให้เป็นกลไกสำคัญสร้างความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่เศรษฐกิจฐานรากและสังคมของประเทศ

ทั้งนี้กรมส่งเสริมสหกรณ์ในฐานะหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติประเด็นการเกษตร ในแผนแม่บทย่อย การพัฒนาระบบนิเวศการเกษตร เพื่อให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีความเข้มแข็งเพิ่มขึ้นใน 4 มิติ โดยกรมรับผิดชอบ 2 มิติที่ ได้แก่

-มิติ​ที่​ 1 ความสามารถในการให้บริการสมาชิก ที่มุ่งเน้นการส่งเสริม พัฒนา และยกระดับความเข้มแข็งของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรให้มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ ให้บริการแก่สมาชิกในด้านต่างๆ รวมถึงการส่งเสริมสวัสดิการและคุณภาพชีวิตของสมาชิกให้เข้าถึงทุกช่วงวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสร้างคุณค่าการสหกรณ์ให้เข้มแข็งในระดับฐานราก

-มิติ​ที่​ 4 ประสิทธิภาพของการบริหารงาน มุ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถและสมรรถนะในการบริหารงานและธุรกิจของสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร ซึ่งพิจารณาจากการดำเนินกิจการตามระเบียบ คำสั่งนายทะเบียน และกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงระบบธรรมาภิบาลในการดำเนินกิจการไม่ให้เกิดข้อบกพร่องในองค์กร ทั้งในส่วนของการเกิดทุจริต และการเกิดข้อบกพร่องประเภทต่าง ๆ เช่น การดำเนินกิจการนอกกรอบวัตถุประสงค์ ข้อบกพร่องทางบัญชี ข้อบกพร่องทางการเงิน พฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย และข้อบกพร่องอื่นๆ

พร้อมกันนี้ย้ำว่า ทั้งกรมส่งเสริมสหกรณ์​และ​กรมตรวจบัญชีสหกรณ์​ต้องบูรณาการ​ทำงานเพื่อส่งเสริม​และ​สนับสนุน​ให้​ “สหกรณ์” พัฒนาตัวเองในทุกด้านปรับตัว ทั้งกระบวนการคิดและวิธีการในการบริหารจัดการให้ทันยุคสมัย และบริบทที่เปลี่ยนไปสามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย และความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว สนับสนุนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมมาใช้ในการบริหารจัดการ การบริการสมาชิก เพื่อให้สหกรณ์มีศักยภาพในการแข่งขัน เป็นที่ยอมรับให้กับสมาชิกและประชาชนทั่วไปในวงกว้าง

นางสาวอัญมณี ถิรสุทธิ์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์​กล่าว​ว่า​ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์​ร่วม​กำหนด​เกณฑ์​การประเมิน​ 2 มิติ คือ

– มิติที่  2 ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ เป็นการประเมินความเข้มแข็งของสหกรณ์จากอัตราส่วนทางการเงินของสหกรณ์ ในการดำเนินธุรกิจและการบริหารงานของสหกรณ์ โดยพิจารณาจาก 4  ด้านได้แก่ ความเข้มแข็งทางด้านเงินทุน ผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ และสภาพคล่องทางการเงิน โดยมีอัตราส่วนทางการเงินที่นำมาใช้กำหนดเป็นตัวชี้วัด 6 ตัวชี้วัด

– มิติที่ 3 ประสิทธิภาพในการจัดการองค์กร เป็นการประเมินความเข้มแข็งจากชั้นคุณภาพการควบคุมภายในว่า สหกรณ์มีการควบคุมภายในที่ดีหรือไม่ ซึ่งเป็นมิติสำคัญในการสะท้อนความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนของสหกรณ์

จากความร่วมมือดังกล่าว จะมีส่วนช่วยให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรสามารถปรับการบริหารงาน ความสามารถในการให้บริการสมาชิก ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจและจัดการองค์กร เพื่อนำมาสู่การพัฒนาสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรให้ความเข้มแข็งอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

เปิดวินาทีระเบิดรถกระเช้าเทศบาลรือเสาะ

เปิดนาทีระเบิดรถกระเช้าที่จอดอยู่ในที่จอดรถของเทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ช่วงเที่ยงวานนี้ (6 ก.พ.) จนพังเสียหาย

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด