“ปศุสัตว์” ย้ำไม่เกี่ยวขบวนการลอบนำเข้าหมูเถื่อน-ส่วยสำแดงเท็จ

กรุงเทพฯ 15 มิ.ย.- อธิบดีกรมปศุสัตว์ยืนยัน กรมปศุสัตว์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน ตามข่าวที่ระบุว่า กลุ่มผู้ลักลอบนำเข้าจะสำแดงเท็จเป็นปลาและอาหารทะเล โดยจ่ายเงินแก่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมปศุสัตว์และกรมศุลกากร แลกการไม่ตรวจสอบสินค้าในตู้ เผยขั้นตอนการยื่นขออนุญาตนำเข้าปลาและอาหารทะเล ไม่ต้องติดต่อด่านปศุสัตว์ แต่หากเป็นสินค้าปศุสัตว์ จะตรวจสอบทุกตู้


นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวในสื่อมวลชนว่า ขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนใช้วิธีสำแดงสินค้านำเข้าเป็นปลาและอาหารทะเล โดยจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมปศุสัตว์และเจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากร เพื่อแลกกับการไม่ถูกตรวจสอบสินค้าภายในตู้คอนเทนเนอร์ โดยกรมปศุสัตว์ยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบการนำเข้าหมูเถื่อนอย่างแน่นอน ตลอดจนไม่มีการเรียกรับเงินแลกกับการไม่ตรวจสอบสินค้าภายในตู้คอนเทนเนอร์ที่ผู้นำเข้าสินค้าสำแดงเท็จเป็นปลาและอาหารทะเลตามที่เป็นข่าวเนื่องจากตามขั้นตอนการนำเข้าสินค้าปลาและอาหารทะเลนั้น ด่านกักกันสัตว์ท่าเข้าของกรมปศุสัตว์จะไม่ได้รับแจ้งการขออนุญาตจึงไม่มีส่วนร่วมในการตรวจสอบสินค้าแต่อย่างใด ดังนั้นผู้ลักลอบนำเข้าจึงไม่มีความจำเป็นจะต้องมาติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของกรมปศุสัตว์ แต่หากมีการสำแดงสินค้านำเข้ากลุ่มปศุสัตว์ เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ท่าเข้าของกรมปศุสัตว์จะตรวจสอบทุกตู้

ในทางกลับกัน ดร. เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สั่งการให้กรมปศุสัตว์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันโรคระบาดสัตว์ ปกป้องเกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์ และปกป้องผู้บริโภค โดยกรมปศุสัตว์ได้ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก. ปคบ.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางติดตามตรวจสอบการลักลอบนำเข้าซากสัตว์ตามห้องเย็นทั่วประเทศ ทั้งยังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรติดตามตรวจสอบการลักลอบตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง จนสามารถจับกุมและตรวจยึดเนื้อหมูและชิ้นส่วนที่ลักลอบนำเข้าภายใต้อำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ. โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 และเมื่อปลายปี พ.ศ. 2565 กรมปศุสัตว์ได้ประเมินความเสี่ยงของขบวนการลักลอบนำเข้าซากและชิ้นส่วนสุกรแล้ว จึงได้ยกระดับมาตรการป้องกันและปราบปรามให้เข้มข้นมากขึ้นต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีการสลับปรับเปลี่ยนหัวหน้าด่านกักกันสัตว์ท่าเข้า ที่มีความเสี่ยงในการลักลอบนำเข้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันและปราบปราม


สำหรับผลการเข้าตรวจสอบเพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนที่ผ่านมานั้น ได้เข้าตรวจสอบผู้ประกอบการ 510 ครั้ง สามารถยึดอายัดซากและชิ้นส่วนสุกรและฝังทำลายแล้ว รวมปริมาณ 1,031,536 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 173,024,174 บาท ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้จัดพิธีฝังทำลายซากสุกร ที่ตรวจสอบพบและดำเนินคดีกว่า 7 แสนกิโลกรัมหรือ 700 ตันซึ่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์ที่จังหวัดเพชรบุรี โดยมีดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.กษ.เป็นประธาน เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2566

จากการตรวจสอบและจับกุมอย่างต่อเนื่องทำให้ผู้ลักลอบนำเข้าไม่สามารถนำซากสัตว์มาเก็บรักษาในห้องเย็นและส่งจำหน่ายได้สะดวก ส่งผลให้มีตู้สินค้าตกค้างในเขตอารักขาของด่านศุลกากรจำนวนมาก จนกระทั่งการท่าเรือแห่งประเทศไทยดำเนินการโครงการท่าเรือสีขาว ตั้งคณะกรรมการเพื่อดำเนินการเปิดตู้ตรวจสอบสินค้าตกค้าง ณ ด่านศุลกากรแหลมฉบัง โดยมีรายงานจากด่านศุลกากรแหลมฉบังว่า พบตู้สินค้าเนื้อหมูและชิ้นส่วนตกค้าง 161 ตู้ ปริมาณซากหมูกว่า 4.5 ล้านกิโลกรัม

กรมปศุสัตว์ยังคงมุ่งมั่นร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง รวมทั้งได้สั่งการและเน้นย้ำให้ เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ ปศุสัตว์จังหวัดและปศุสัตว์อำเภอทั่วประเทศ ติดตาม ตรวจสอบและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าสัตว์มีชีวิตและซากสัตว์ในทุกช่องทาง ทั้งทางด่านท่าเรือ ทางด่านสนามบินระหว่างประเทศ และตามแนวชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้าน และจัดตั้งทีมสารวัตรปศุสัตว์ไซเบอร์เพื่อตรวจสอบทางโซเชียลมีเดีย รวมถึงมีการสุ่มตรวจสอบห้องเย็น สถานที่จำหน่ายเนื้อสัตว์ ภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้า


ทั้งนี้เป็นการดำเนินการควบคู่ไปกับโครงการส่งเสริมให้ประชาชนเลือกซื้อเนื้อสัตว์จากสถานที่จำหน่ายที่กรมปศุสัตว์ให้การรับรอง สามารถตรวจสอบย้อนได้ถึงแหล่งผลิตที่มาจากมาตรฐานฟาร์ม โรงเชือดที่ถูกกฎหมายและได้สุขอนามัย โดยสถานที่จำหน่ายที่ผ่านการตรวจสอบรับรอง จะได้รับตราสัญลักษณ์“ปศุสัตว์ OK” ติดอยู่ที่สถานที่จำหน่าย ซึ่งปัจจุบันมีสถานที่จำหน่ายที่ได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์แล้วกว่า 8,000 แห่งทั่วประเทศ

นายสัตวแพทย์สมชวนย้ำว่า กรมปศุสัตว์ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ภายใต้ พ.ร.บ. โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 อย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง เพื่อเฝ้าระวังป้องกันโรคระบาดสัตว์ที่เชื้อโรคอาจติดมากับเนื้อหรือชิ้นส่วนสุกรที่ไม่ได้รับการตรวจสอบแหล่งผลิตและไม่อนุญาตให้นำเข้า เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้ปลอดภัยจากโรคและสารตกค้าง รวมถึงปกป้องเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ และไม่ให้มีการลักลอบนำเข้าซากสัตว์มาแทรกแซงกลไกการตลาดในประเทศส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงอย่างไม่เป็นธรรมอีกด้วย

หากประชาชนมีเบาะแสหรือพบเห็นการกระทำความผิดกฎหมายด้านปศุสัตว์ หรือพบเจ้าหน้าที่ของกรมปศุสัตว์เข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด สามารถแจ้งผ่านแอปพลิเคชัน DLD 4.0 ได้ตลอดเวลา หรือผ่านช่องทางอื่นๆ เช่น ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนกรมปศุสัตว์ เป็นต้น ทั้งนี้กรมปศุสัตว์จะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและลงโทษตามฐานความผิดอย่างเด็ดขาดต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้