เดินหน้าแผนแก้ไขและบรรเทาอุทกภัยภาคใต้ ทั้งแบบเผชิญเหตุ-ระยะยาว

สงขลา 20 ธ.ค. – อธิบดีกรมชลประทาน สั่งทุกโครงการชลประทานในภาคใต้ศึกษาแนวทางการแก้ไขและบรรเทาอุทกภัย ทั้งแบบเผชิญเหตุและในระยะยาว เพิ่มเติมจากโครงการบรรเทาอุทกภัยที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรมในอนาคต


นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เดินทางไปติดตามสถานการณ์น้ำ การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้ โดยระบุว่า ฝนที่ตกสะสมติดต่อกันหลายวันในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ทำให้มีน้ำไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันบางพื้นที่ ล่าสุดกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ฝนที่ตกในภาคใต้จะเริ่มลดลง แต่ยังตกอยู่บ้างบริเวณภาคใต้ตอนล่าง รวมถึงต้องเฝ้าระวังฝนที่ตกสะสมในระยะ 1-2 วันนี้ ดังนั้นจึงเน้นย้ำให้โครงการชลประทานทุกแห่งเฝ้าระวังใกล้ชิดและบริหารจัดการน้ำอย่างเหมาะสม

สำหรับในเขตสำนักงานชลประทานที่ 16 ได้แก่ จังหวัดสงขลา พัทลุง ตรัง และสตูล มีฝนตกตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค.65 เป็นต้นมา ส่งผลให้ระดับน้ำในลุ่มน้ำสายหลักเพิ่มสูงขึ้น ได้แก่ คลองอู่ตะเภา คลองนาท่อม คลองปะเหลียน แม่น้ำตรัง คลองดุสน และคลองละงู มีน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตรบางแห่ง โดยจังหวัดสงขลาได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหาดใหญ่ รัตภูมิ คลองหอยโข่ง ระโนด และสทิงพระ ส่วนจังหวัดพัทลุงได้รับผลกระทบ 6 อำเภอ ได้แก่ ควนขนุน เมืองพัทลุง กงหรา เขาชัยสน บางแก้ว และป่าบอน


กรมชลประทาน โดยสำนักงานชลประทานที่ 16 ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำแบบ Hydro flow และเครื่องผลักดันน้ำ ในพื้นที่จังหวัดสงขลา พัทลุง ตรัง และสตูล รวม 78 หน่วย เพื่อเร่งระบายน้ำบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ล่าสุดสถานการณ์น้ำท่วมขังในหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลายลง ระดับน้ำในลุ่มน้ำต่างๆ ลดลงต่ำกว่าตลิ่งแล้ว แต่ต้องเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2565 อย่างเคร่งครัด จนกว่าจะสิ้นสุดฤดูฝนของภาคใต้

สำหรับที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ ได้เน้นย้ำให้พร่องน้ำคลองภูมินาถดำริ หรือคลองระบายน้ำสายที่ 1 (ร.1) เพื่อให้มีพื้นที่รองรับน้ำจากฝนที่อาจตกลงมาเพิ่ม โดยการขุดขยาย “คลองภูมินาถดำริ” เป็นส่วนหนึ่งของโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ (ระยะที่ 2) ที่ปัจจุบันก้าวหน้าแล้ว 93% คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565 นี้

เมื่อแล้วเสร็จจะสามารถระบายน้ำได้อัตรา 1,200 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที จากเดิมที่ระบายน้ำได้ 465 ลบ.ม./วินาที เมื่อรวมกับการระบายน้ำในคลองอู่ตะเภา 465 ลบ.ม./วินาที ทำให้ศักยภาพการระบายน้ำในภาพรวมเมืองหาดใหญ่อยู่ที่ 1,665 ลบ.ม./วินาที นอกจากนั้นยังได้มีการก่อสร้างประตูระบายน้ำด้วย โดยการก่อสร้างประตูระบายน้ำหน้าควน 2 ซึ่งอยู่บริเวณปากคลองระบายน้ำ ร.1 ปัจจุบันดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ สามารถใช้บริหารจัดการน้ำด้วยการเปิด-ปิดบานระบายน้ำ เพื่อควบคุมปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าสู่คลองระบายน้ำ ร.1 ได้แล้ว ส่วนประตูระบายน้ำบางหยี 2 พร้อมสถานีสูบน้ำ ดำเนินการแล้วเสร็จเช่นกัน หากงานก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ทั้งโครงการ จะช่วยเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำในช่วงฤดูน้ำหลาก และสามารถกักเก็บน้ำสำรองสำหรับผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภค บริโภค และการเกษตรในฤดูแล้งด้วย


คลองภูมินาถดำริ มีระยะทาง 21.34 กิโลเมตร สามารถกักเก็บน้ำได้ความจุ 5 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันแม้งานยังไม่แล้วเสร็จ แต่สามารถช่วยระบายน้ำหลากได้ในอัตรา 1,000 ลบ.ม./วินาที ทำให้อำเภอหาดใหญ่ไม่เกิดอุทกภัย นับแต่ปี 2553 เป็นต้นมา

อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ได้กำชับให้แต่ละโครงการชลประทานศึกษาแนวทางการแก้ไขและบรรเทาอุทกภัย ทั้งแบบเผชิญเหตุและในระยะยาว เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรมในอนาคต ตามนโยบายของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เผยไม่มีวอร์รูมแถลงนโยบาย ยัน “คนละครึ่ง” เริ่ม ต.ค.นี้

ทำเนียบ 26 ก.ย.-นายกฯ ร้องโหย ไม่มีวอร์รูมแถลงนโยบาย มีแต่เลิฟรูม ยัน “คนละครึ่ง” เริ่มทันที ต.ค.นี้ โยน รมว.คลัง แจงรายละเอียด นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ระหว่าง 29-30 กันยายนนี้ ว่า ร่างสุดท้ายมา 100% แล้ว เมื่อถามว่า จะมีการตั้งวอร์รูมหรือไม่ นายอนุทิน ร้องโหย ก่อนจะบอกว่า “ไม่มีหรอกวอร์รูม มีแต่เลิฟรูม” เมื่อถามถึงนโยบายโครงการ “คนละครึ่ง” จะสามารถเริ่มได้เลยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี พยักหน้ารับ พร้อมระบุว่า ภายในเดือนตุลาคม แต่ขอให้ไปถามรายละเอียดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง.-319.-สำนักข่าวไทย

เร่งเทปูนลงหลุมยักษ์ หน้า รพ.วชิรพยาบาล-สน.สามเสน

กรุงเทพฯ 26 ก.ย. – เร่งเทปูนลงหลุมยักษ์ หน้า รพ.วชิรพยาบาล และ สน.สามเสน คาดวันนี้ต้องเทอีกประมาณ 200 คันรถโม่ปูน จึงจะได้ความสูงของปูนในหลุมตามแผนที่วางไว้ .-สำนักข่าวไทย

จับตาหนองหญ้าแก้ว หวั่นเขมรปลุกปั่นม็อบซ้ำรอย

สระแก้ว 26 ก.ย.- จับตาความเคลื่อนไหวชายแดนไทย-กัมพูชา “บ้านหนองหญ้าแก้ว” หวั่นม็อบเขมรปลุกปั่นสร้างความวุ่นวายซ้ำรอย ชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เช้าวันนี้ กัมพูชาพาคณะทำงานประสานงานชายแดน หรือ IOT ลงพื้นที่ใกล้จุดผ่านแดน โดยมีเจ้าหน้าที่และผู้ติดตาม 50–60 คน เข้ามาสำรวจและสังเกตการณ์ในรัศมีไม่ไกลจากแนวเขตสแลนตรงจุดพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ฝ่ายความมั่นคงประเมินว่าหลังจากคณะผู้แทนกลับไปแล้ว อาจมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนเกิดขึ้นอีก เนื่องจากมีความพยายามปลุกปั่นให้เกิดการรวมตัวในหลายครั้งที่ผ่านมา ส่วนสถานการณ์ขณะนี้ค่อนข้างสงบ แต่บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด เพราะต่างมีการขยับกำลังในพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่คณะ IOT ลงพื้นที่ ซึ่งถือเป็นอีกจุดที่ต้องจับตาว่าจะมีความเคลื่อนไหวตามมาหรือไม่ในช่วงค่ำและวันถัดไป -สำนักข่าวไทย

“ศุภมาศ” ดีใจได้ดูแลกำกับสื่อฯ บอก “กลองดีไม่ตีก็ไม่ดัง”

ทำเนียบ 26 ก.ย.- “รมต.ศุภมาศ” ดีใจได้ดูแลกำกับสื่อฯ บอก “กลองดีไม่ตีก็ไม่ดัง” เผยหลังแถลงนโยบาย เตรียมคุยผู้บริหาร “อสมท-กรมประชาสัมพันธ์-องค์กรสื่อ” ผลักดันงานรัฐบาลให้เข้าถึงประชาชนตั้งแต่ครัวเรือนถึงรากหญ้า ในช่วงเวลา 4 เดือน ยังไม่ชัดมีรายการนายกฯ พบประชาชนหรือไม่ นางศุภมาศ อิสรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถือฤกษ์ 09:09 น. เข้าห้องทำงานบนตึกบัญชาการ 1 ก่อนจะถือฤกษ์ 09:45 น. ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล จากนั้นนางศุภมาศ ได้ให้สัมภาษณ์หลังจากเข้ารับตำแหน่งแล้วจะมีนโยบายผลักดันในเรื่องใดบ้างในฐานะที่เข้ามากำกับดูแลด้านสื่อสารมวลชน ว่า เพิ่งจะได้รับทราบการแบ่งงาน ดีใจที่มีโอกาสได้เข้ามาดูแลงานประชาสัมพันธ์ให้กับรัฐบาล “ถือว่ากลองดี แต่ไม่ตีก็ไม่ดัง” เพราะรัฐบาลก็ทำดีอยู่แล้ว เพียงแต่ขาดการประชาสัมพันธ์ที่ทั่วถึงที่ข่าวสารที่จะไปถึงพี่น้องประชาชน โดยเราต้องทำให้นโยบายต่างๆ ทั้ง 4 ด้านที่ได้ประกาศออกไปถึงประชาชน และให้ได้รับประโยชน์จากนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลตั้งใจทำให้ นางศุภมาศ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ยังต้องรอการแต่งตั้งโฆษกรัฐบาล หากมีบุคคลเข้ามารับตำแหน่งแล้วก็จะมีการพูดคุยกับโฆษกรัฐบาลอีกครั้ง และมีโอกาสจะได้พบปะกับพี่น้องสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล และสื่อมวลชนทั้งหมด เพื่อที่เราจะช่วยกันวางแผน รวมถึงยังต้องขอความรู้ ความร่วมมือ และความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนที่จะทำอย่างไรให้นโยบายต่างๆ ที่เตรียมไว้ประชาสัมพันธ์ให้ถึงกลุ่มรากหญ้า และทุกครัวเรือน […]