fbpx

ตำรวจงง! รถเก๋งชนแบริเออร์ ผ่านไปเกือบ 12 ชม. จึงพบศพ

ชลบุรี 10 ส.ค. – ตำรวจงง! รถเก๋งประสบอุบัติเหตุชนแบริเออร์บนถนนมอเตอร์เวย์ กู้ภัยตรวจสอบไม่พบคนขับ คิดว่ามีพลเมืองดีช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลแล้ว จึงให้ลากรถมาเก็บรอเจ้าของ สุดท้ายพลบค่ำไม่มีใครมาจึงไปตรวจสอบรถอีกที ปรากฏว่าพบร่างคนขับเสียชีวิตอยู่ในรถ


กู้ภัยได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตในรถเก๋งที่สถานที่เก็บรถของกลางตำรวจทางหลวงเขาเขียว ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งสีขาว สภาพด้านหน้าพังเสียหาย กันชนท้ายหลุด ส่วนในห้องผู้โดยสารฝั่งคนขับพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย อายุ 68 ปี นอนคุดคู้ลำตัวพาดอยู่บนเบาะ มีเศษซากของรถที่เสียหายวางทับอยู่ ตรวจสอบมีแผลฉีกขาด บริเวณลำคอมีผ้าปิดแผลปิดอยู่ บริเวณแขนขวามีพลาสเตอร์ปิดตรงข้อพับ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วหลายชั่วโมง

พ.ต.ท.รัตพล วรรณะ รองผู้กำกับการสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วง 7 โมงเช้า วานนี้ (9 ส.ค.) ตำรวจตรวจสอบรถเก๋ง ชนกับแบริเออร์ข้างทาง บนถนนสายมอเตอร์เวย์ กม.ที่ 105 ตอนไปตรวจสอบกู้ภัยไม่พบผู้ขับขี่อยู่ภายในรถ จึงคิดว่ามีพลเมืองดีนำตัวส่งโรงพยาบาลไปแล้ว และทิ้งรถไว้ในที่เกิดเหตุ จึงให้รถยกนำรถมาเก็บไว้ที่ลานเก็บรถของกลาง เพื่อรอให้ญาติติดต่อมา แต่รอกระทั่งพลบค่ำแล้วยังไม่มีเจ้าของรถติดต่อเข้ามา จึงเดินมาตรวจสอบเอกสารในรถ พอเข้าไปในรถเห็นร่างผู้เสียชีวิตอยู่บริเวณที่นั่งคนขับ จึงรีบแจ้งตำรวจ สภ.ศรีราชา มาร่วมตรวจสอบ


ด้านเจ้าหน้าที่รถยก อายุ 29 ปี เปิดเผยว่า ตนเองได้รับแจ้งเมื่อเวลาประมาณ 07.45 น. ว่ามีเหตุรถชน เมื่อเดินทางไปที่เกิดเหตุ ตำรวจบอกให้ยกรถคันเกิดเหตุมาเก็บในที่เก็บรถของกลาง ต่อมาช่วง 19.30 น. ตำรวจเข้ามาตรวจสอบเอกสารของรถ ปรากฏว่าเจอร่างผู้เสียชีวิตนอนอยู่ในรถ ตนเองรู้สึกตกใจมากที่เกิดเหตุเช่นนี้ ทำงานยกรถมาเป็นสิบปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย

ตำรวจได้ประสานญาติให้ทราบเรื่อง เพื่อเดินทางมาตรวจสอบ พร้อมกับมอบหมายให้กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้

ผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นไม่ผ่านเกณฑ์ ส่ง พฐ.ร่วมตรวจพิสูจน์

สพฐ. เผยผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ทั้งภาค ก. ภาค ข. และไม่ติด 1 ใน 10 ส่งข้อสอบให้ พฐ. ตรวจพิสูจน์เพื่อความโปร่งใส