มีชัยชี้ รธน.มาตรา 5 แก้กลับไปเหมือนรธน.ปี 50

รัฐสภา 7 เม.ย.- ประธาน กรธ. ระบุ มาตรา 5 รัฐธรรมนูญ 2560 เป็นการแก้ไขกลับไปเหมือนรัฐธรรมนูญปี 2550 เพียงแต่ช่องทางยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเปิดกว้างมากขึ้น  เปิดใจ มีความสุขมากที่สุด หลังรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ประกาศใช้ หลังจากเหนื่อยยากมานาน แม้บางคนไม่ดีใจด้วยก็ตาม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ข้าราชการและสื่อมวลชนประจำรัฐสภา ได้รดน้ำดำหัว นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2560 

นายมีชัย เปิดเผยว่า  เมื่อวานนี้ (6 เม.ย.) เป็นวันที่มีความสุขมากที่สุด เพราะกรธ.ทำงานเหนื่อยยากมานาน พอได้เห็นผลสำเร็จเราก็ดีใจ แม้จะมีบางคนไม่ดีใจกับเราก็ตาม จากนี้ ยังเหลือภาระที่ต้องทำ คือ การร่างกฎหมายลูก ที่ต้องให้แล้วเสร็จตามเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งเป็นภูเขาอีกหนึ่งลูกที่ กรธ.พยายามยกออกจากอกให้ได้


ประธาน กรธ. กล่าวว่า ขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ติดตามทำข่าว กรธ. ส่วนตัวอยู่ในวงการการเมืองมานาน แต่ก็พึ่งเห็นสื่อมวลชนที่ติดตามการร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ต่างจากสื่อมวลชนอื่น ๆ ที่ไม่ได้ถามเพื่อคาดคั้นเอาคำตอบ แต่เป็นการถามเพื่อให้อธิบายและเป็นการเตือนให้ กรธ.ได้ทำงานอย่างรอบคอบมากขึ้น

นายมีชัย กล่าวถึงรัฐธรรมนูญ มาตรา 5 วรรคสอง ที่บัญญัติ เมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด ให้กระทำการนั้นหรือวินิจฉัยกรณีนั้นไปตามประเพณีการปกครองประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ว่า เป็นการแก้ไขกลับมาเหมือนรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 เพียงแต่ช่องทางการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเปิดกว้างมากขึ้น ให้ทุกองค์กรสามารถยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ จากที่ผ่านมา จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ก็ต่อเมื่อมีปัญหาระหว่างองค์กรเท่านั้น ส่วนประเด็นที่หาข้อยุติไม่ได้ เนื่องจากไม่มีบทบัญญัติทางกฎหมายรับรองไว้ ต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเบื้องต้น

“ตามประเพณีการปกครอง ส่วนหนึ่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่วันข้างหน้า เกิดปัญหาอะไร อาจต้องย้อนไปดูประเพณีการปกครอง ในเมื่อเราไม่รู้ปัญหาในขณะนี้ เราไม่สามารถตอบได้ชัดเจน” นายมีชัย กล่าว


นายมีชัย กล่าวว่า ส่วนข้อสงสัยเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ก็ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาด และถือว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นที่สุดและเป็นผลผูกพันทุกองค์กร ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีต มักมีหลายฝ่ายไม่เชื่อมั่นในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดของคนบางกลุ่มเท่านั้น เพราะคำวินิจฉัยมีผลผูกพันทุกองค์กร

ประธาน กรธ. กล่าวว่า สำหรับการใช้อำนาจตามมาตรา 44 คสช.ยังสามารถใช้ได้ตามหลักการที่เคยใช้ แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และเชื่อว่า ไม่ถึงขั้นใช้มาตรา 44 แก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนคำสั่งตามมาตรา 44 ที่ออกไปก่อนหน้านี้ รัฐธรรมนูญรับรองไว้แล้วว่าเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ แต่หากมีฉบับใดที่เกินขอบเขตที่รัฐธรรมนูญกำหนดก็จะต้องนำกลับมาทบทวน ซึ่ง คสช.ระมัดระวังอยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย     

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายน้ำ

น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาขึ้นไม่หยุด ล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือน ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายแบบขั้นบันไดต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. น้ำระบายท้ายเขื่อนที่ 2,200 ลบ.ม./วินาที

เร่งอพยพชาวบ้านหลายร้อยครอบครัว น้ำปิงยังสูง

แม้ระดับน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ เริ่มลดลง หลังขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร แต่หลายชุมชนและย่านการค้ายังมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะพื้นที่ตอนใต้ของเมือง น้ำยังเพิ่มสูง หลายร้อยครอบครัวต้องอพยพด่วน

อิสราเอลโจมตีทางอากาศมัสยิด-โรงเรียนในกาซา ดับแล้ว 24

สำนักงานสื่อมวลชนของรัฐบาลกาซาที่กลุ่มฮามาสเป็นผู้ดำเนินการ กล่าวว่า อิสราเอลโจมตีทางอากาศโดยมีเป้าหมายเป็นมัสยิดและโรงเรียน ซึ่งเป็นสถานที่พักพิงของผู้พลัดถิ่นฐานในฉนวนกาซา เมื่อตอนเช้าวันอาทิตย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 ราย และบาดเจ็บอีก 93 ราย