นนทบุรี 27 ก.ค.-รัฐมนตรีพาณิชย์ปลื้มยอดส่งออกเดือน มิ.ย.65 เติบโตเป็นบวกถึง 11.9 ดันยอด 6 เดือนเป็นบวก 12.7% ชี้ไม่ห่วงเศรษฐกิจคู่ค้าชะลอเร่งหาตลาดทดแทนแล้ว
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงสถิติการส่งออกของประเทศในช่วงเดือนมิถุนายน 2565 พบว่า การส่งออกขยายตัว 11.9% คิดเป็นมูลค่ากว่า 26,553 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาท กว่า 9.07 แสนล้านบาท ในขณะที่การส่งออกในช่วง 6 เดือนแรกของปี ขยายตัว 12.7% คิดเป็นมูลค่ากว่า 149,184 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาท 4.9 ล้านล้านบาทโดยสินค้าที่ขยายตัวได้ดี คือสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมการเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรม โดยสินค้าเกษตรในช่วงเดือนมิถุนายน ขยายตัว 21.7% และในช่วง 6 เดือนแรก ขยายตัว 9.3% โดนสินค้าที่ขายดี ได้แก่ สินค้าข้าว ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็ง ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง ยาง สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรเดือนมิถุนายน ขยายตัว 28.3% ช่วง 6 เดือนแรกของปี ขยายตัว 27.9% สินค้าที่ขายดี ได้แก่ น้ำตาลทราย อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป อาหารสัตว์เลี้ยง สินค้าอุตสาหกรรมเดือนมิถุนายนขยายตัว 6.7% ช่วง 6 เดือนแรกขยายตัว 3.8%
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้การส่งออกยังคงขยายตัวได้ดี คือการที่กระทรวงพาณิชย์ได้ทำงานร่วมกับภาคเอกชน และร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการผลักดันการใช้ FTA มินิ FTA การหาตลาดใหม่ รวมถึงการส่งเสริมการขายในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง การจัดกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจต่างประเทศ ความต้องการสินค้าอาหารในตลาดโลกมีมากขึ้น การผลิตทำได้ดีขึ้น รวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่าส่งผลดีต่อการส่งออกของประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีหลังนี้กระทรวงพาณิชย์มีแผนที่จะทำงานเชิงรุกเพื่อรับมือกับตลาดคู่ค้าหลายตลาดที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยจะมีการประชุมร่วมกับทูตพาณิชย์ทั่วโลกเร็ว ๆ นี้ เพื่อรับทราบสถานการณ์การค้าของแต่ละประเทศ มาปรับใช้เพื่อหาตลาดใหม่ทดแทนทำให้การส่งออกยังคงขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยกระทรวงพาณิชย์จะไม่ปรับเป้าหมายการส่งออกในปีนี้ใหม่ถึงแม้ว่าล่าสุดเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์จะอยู่ที่ร้อยละ 4 ก็ตาม แต่มั่นใจว่าตลอดทั้งปีการส่งออกจะทำได้เกินเป้าอย่างแน่นอน
สำหรับการนำเข้าในช่วงเดือนมิถุนายนขยายตัว 24.5% คิดเป็นมูลค่า 28,082 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การนำเข้าในช่วง 6 เดือนแรกของปีขยายตัว 21% คิดเป็นมูลค่า 155,440 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลทำให้ดุลการค้าในช่วงเดือนมิถุนายนขาดดุล 1,529 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และช่วง 6 เดือนแรกของปีขาดดุล 6,255 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่เป็นการขาดดุลจากการนำเข้าเครื่องจักรและสินค้าทุนมาผลิตเพื่อการส่งออก จึงไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล และบางส่วนเกิดจากผลกระทบของราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นจึงมีมูลค่าการนำเข้าอยู่ในระดับสูง ในขณะที่ปริมาณการนำเข้าไม่ได้เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ภาวะการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนเดือนมิถุนายน คือ การส่งออกเป็น +10.4% มีมูลค่า 102,242 ล้านบาทและ 6 เดือนแรกก็เป็น +1.2% รวมมูลค่า 506,827 ล้านบาท โดยเฉพาะการค้าชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย เมียนมาร์ สปป.ลาว กัมพูชา การส่งออกมีมูลค่า 57,358 ล้านบาท เป็น +25.8% และหกเดือนแรกก็เป็น +18.7% ประเทศมาเลเซียนั้นเป็นคู่ค้าชายแดนอันดับหนึ่งของประเทศไทย โดยเดือนมิถุนายนมูลค่าการส่งออก 16,461 ล้านบาท เป็น +22.8% ส่วนการค้าผ่านแดนคือไปจีน สิงคโปร์ เวียดนาม และอื่น ๆ นั้น ปัจจัยหลักคือ ผู้ส่งออกหันกลับไปขนส่งสินค้าทางเรือและทางอากาศเพิ่มขึ้น หลังการแก้ปัญหาโรคระบาดและปัญหาค่าระหว่างเรือและตู้คอนเทนเนอร์เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย