ประจวบคีรีขันธ์ 10 ก.ค.- “หมอล็อต” เผยอาการของ “พลายบุญช่วย” ช้างป่าละอูผู้สร้างตำนานบุกครัว ล่าสุดได้รับการรักษาขาที่เจ็บจากการถูกรถชน จนอาการดีขึ้นเป็นที่น่าพอใจ เดินได้เกือบปกติ ทีมสัตวแพทย์หยุดให้ยาแล้ว วอนประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังป่าละอูให้ใช้ความระมัดระวัง หากเจอช้างป่า รวมทั้งต้องไม่ให้อาหารช้างป่า เพราะจะทำให้ช้างเสียพฤติกรรม ชอบเดินเข้าหารถเพื่อขออาหาร แล้วเกิดอุบัติเหตุได้
นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หรือ หมอล็อต หัวหน้ากลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า “พลายบุญช่วย” ช้างป่าละอูซึ่งบาดเจ็บจากการถูกรถชน อาการดีขึ้นจนเป็นที่น่าพอใจ ทีมสัตวแพทย์หยุดให้ยาแล้ว แม้ช้างยังแสดงอาการเจ็บปวดอยู่บ้าง เพื่อให้ “พลายบุญช่วย” ไม่เดินลงน้ำหนักมากและไม่เดินไกล เพื่อลดการบาดเจ็บซ้ำ ซึ่งเป็นแนวทางที่เรียกว่า “ความเจ็บปวดบำบัด”
เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนผลักดันช้างป่าที่ 1 (เขาหุบเต่า) ชุดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการดูแลควบคุมปัญหาช้างป่าและเฝ้าระวังช้างป่า (อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน) ยังคงเฝ้าระวังและป้องกันช้างป่าเข้าไปหากินในพื้นที่ชุมชน พร้อมกันนี้ร่วมกับทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก และสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า ดูแลความปลอดภัยตามเส้นทางสายเขาหุบเต่า-พุไทร-ไทรเอน ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยเฉพาะบริเวณที่ล่อแหลมเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาช้างป่าเดินข้ามถนน ซึ่งมีรถของประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวสัญจรไปมา เพื่อความปลอดภัยของทั้งคนและช้างป่า
ล่าสุด ยังคงพบ “พลายบุญช่วย” ที่เคยสร้างวีรกรรม “บุกครัว” ของชาวบ้าน เพื่อหาอาหารกิน ซึ่งทำให้เป็นที่รู้จักทั่วประเทศ จากการสังเกตลักษณะการเดินและการงอพับของข้อต่อกระดูก พบว่าเกือบปกติ สามารถลงน้ำหนักเดินได้ แต่จะเฝ้าระวังและดูแลความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
หมอล็อตย้ำว่า ขณะนี้เป็นฤดูทุเรียนป่าละอู มีนักท่องเที่ยวสัญจรบนถนนเส้นนี้เป็นจำนวนมาก หากพบเจอช้างป่าบนถนนให้เว้นระยะห่างให้มาก แล้วขับรถผ่านไปด้วยความระมัดระวัง รวมทั้งต้องไม่แอบนำอาหารและผลไม้ให้ช้างป่าเนื่องจากจะทำให้ช้างป่ามีพฤติกรรมเดินเข้าหารถเพื่อขออาหาร เช่นเดียวกับ “พลายบุญช่วย” ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชน เป็นอันตรายทั้งคนและช้างป่าได้.-สำนักข่าวไทย