เพชรบุรี 2 มี.ค. – กรมอุทยานแห่งชาติฯ ติดปลอกคอติดตามตัว หรือ GPS Collar ให้ “พลายบุญมี-พลายบุญช่วย” ช้างป่าละอูที่ชอบออกนอกเขตอุทยานฯ แล้วบุกเข้าไปหาของกินในบ้านคน ซึ่งจะช่วยให้ทราบพิกัดของช้างทั้ง 2 ตัว และผลักดันได้ทัน ก่อนออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์
นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการติดตามพฤติกรรมและการเคลื่อนที่ของช้างป่า ศูนย์ศึกษาการพัฒนาการจัดการพื้นที่อนุรักษ์สัตว์ป่า สัตวแพทย์ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และชุดเฉพาะกิจจงอางศึก ร่วมกันติดปลอกคอติดตามตัว (GPS Collar) ให้แก่ “พลายบุญมีและพลายบุญช่วย” ช้างป่าในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
สำหรับ “พลายบุญมี” อายุประมาณ 40-45 ปี สูง 2.8 เมตร น้ำหนัก 4.5-4.8 ตัน ส่วน “พลายบุญช่วย” อายุประมาณ 45-50 ปี สูง 2.88 เมตร น้ำหนักประมาณ 5 ตัน ซึ่งการติดอุปกรณ์ติดตามตัวเป็นไปตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาช้างป่าและสัตว์ป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์รบกวนประชาชน มีเป้าหมายสำคัญเพื่อสนับสนุนเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วฯ และเครือข่ายอาสาสมัครฯ ในการป้องกันและเฝ้าระวังช้างป่าออกมาทำลายพืชผลและทรัพย์สินได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ ทั้งนี้ ยังมีเป้าหมายระยะยาว เพื่อพัฒนาองค์ความรู้นิเวศวิทยาเชิงลึกที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบพฤติกรรมและลักษณะการเคลื่อนที่ตามฤดูกาล แหล่งอาหาร แหล่งรวมฝูง และขอบเขตการเคลื่อนที่ช้างป่าดังกล่าวสำหรับการอนุรักษ์ด้วย
นายพิชัย กล่าวต่อว่า ความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่า กลายเป็นปัญหาสำคัญต่อการอนุรักษ์ช้างในปัจจุบัน เนื่องจากมีการขยายตัวของชุมชนอย่างต่อเนื่อง บุกรุกพื้นที่ป่าแหล่งที่อยู่ของช้าง ทำให้ช้างออกมาหากินในชุมชนบ่อยขึ้น
ทั้งนี้ ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มีช้างป่า 180 ตัว ซึ่งอาศัยอยู่ตอนล่างของอุทยานฯ ในพื้นที่ประมาณ 220 ตารางกิโลเมตร ถือว่ามีความหนาแน่นสูง จึงมีช้างออกมาหากินใน ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อของป่าอนุรักษ์ โดยเฉพาะ “พลายบุญมีและพลายบุญช่วย” ซึ่งเคยเข้าไปกินพืชไร่ และเข้าไปหาของกินในบ้านเรือนของประชาชนจนเสียหาย อีกทั้งไม่ตอบสนองต่อการขับไล่และการผลักดันของเจ้าหน้าที่
ที่ผ่านมาต้องจัดเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ร่วมกับทหารชุดเฉพาะกิจจงอางศึก ดูแลความปลอดภัยช้างและคน บริเวณพื้นที่ล่อแหลมที่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาช้างป่าเดินข้ามถนนตามเส้นทางสายพุไทร-ไทรเอน ซึ่งเป็นเส้นทางหลักไปน้ำตกป่าละอู แหล่งท่องเที่ยวสำคัญใน ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ รวมทั้งภายในชุมชน ช่วงกลางคืนที่ช้างชอบออกหากิน ต่อมามีการเสนอเรื่องขอย้ายช้างป่าทั้ง 2 ตัว ในความควบคุมของสัตวแพทย์ไปไว้ยังป่าลึกในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพื่อตัดปัญหา แต่ช้างทั้ง 2 ตัวรู้ทัน จะแอบซ่อน ทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้
“พลายบุญมีและพลายบุญช่วย” เคยบุกเข้าไปในบ้านประชาชนหลายครั้ง โดยเข้าไปหาของกินในครัว ขโมยอาหารแมว อีกทั้งระหว่างออกหากิน เมื่อมาเจอกันก็ปรี่เข้ามาใช้งวงทักทายกัน ซึ่งมีผู้บันทึกภาพได้ สร้างความตื่นตาแก่ผู้พบเห็นอย่างมาก. – สำนักข่าวไทย