ตรัง 24 ธ.ค. – เกษตรกรนาโยง จ.ตรัง ปลูกต้นขาไก่ ขายสร้างรายได้หลักหมื่นต่อเดือน เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่กำลังมาแรง
สวนป้าสายหยุด หมู่ที่ 1 ต.นาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง นางสายหยุด จันทร์สว่าง อายุ 62 ปี หลังเกษียณอายุราชการหันมาปลูก “ต้นขาไก่” แซมในสวนมังคุด และสวนทุเรียน บนเนื้อที่เกือบ 10 ไร่ จำนวน 120 ต้น ต้นขาไก่มีลำต้นคล้ายกับต้นผักเหมียงหรือผักเหรียงทางภาคใต้ แต่มีขนาดใบใหญ่กว่า มีสีเขียวเข้ม ลักษณะเป็นทรงพุ่ม นิยมนำยอดอ่อนมารับประทานสด เพราะมีรสชาติหวาน มัน
มีงานวิจัยของ ม.สงขลานครินทร์ พบว่า ผักขาไก่มีธาตุเหล็กและคลอโรฟิลล์สูง มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และสามารถปลูกแซมในสวนผลไม้ สวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมันได้ดี เพราะเป็นพืชที่ชอบอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ สามารถเก็บยอดกินและขายได้ตลอดทั้งปี การดูแลไม่ยุ่งยาก แค่ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเดือนละ 1 ครั้ง และหากดินมีความชุ่มชื้นก็แทบจะไม่ต้องรดน้ำ ทนทานต่อโรคและแมลงได้ดี สามารถเก็บยอดขาย ราคากิโลกรัมละ 80-100 บาท เป็นราคาขายที่ดีกว่าผักเหมียง หากทำเป็นกิ่งตอนขาย สามารถขายได้ราคากิ่งละ 50 บาท
การปลูกจะใช้เวลาปลูกประมาณ 6 เดือน ก็สามารถเก็บกินหรือขายได้แล้ว ต้นขาไก่เป็นพืชอายุยืน 10-20 ปี เรียกว่าปลูกเพียงครั้งเดียวเก็บกินไปได้นานหลายปี สามารถทำอาหารได้ทุกเมนู ทั้งต้ม ผัด แกง ทอด ทำห่อหมก ลวกจิ้มน้ำพริก นับเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่กำลังมาแรง ผลผลิตยังมีไม่เพียงพอ เนื่องจากมีเกษตรกรปลูกขายน้อย และเป็นที่ต้องการของตลาดสูง ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าสนใจสั่งซื้อเข้ามาจากทั่วทุกภาค จนต้องมีการจองคิวกันล่วงหน้านานนับเดือน ส่วนใครสนใจสั่งซื้อกิ่งตอนต้นขาไก่ สอบถามได้ทางเฟซบุ๊ก สายหยุด จันทร์สว่าง.- สำนักข่าวไทย
