กีโต 27 มิ.ย.- กระทรวงพลังงานของเอกวาดอร์เตือนว่า การผลิตน้ำมันถึงจุดวิกฤตแล้วและอาจต้องยุติการผลิตภายใน 48 ชั่วโมง หากการประท้วงและปิดถนนที่นำโดยชนพื้นเมืองยังยืดเยื้อต่อไป
ชนพื้นเมืองนำการประท้วงเรื่องน้ำมันแพงและค่าครองชีพสูงมาร่วม 2 สัปดาห์ มีการปิดถนนตามจังหวัดต่าง ๆ มากถึง 19 จังหวัดจากทั้งหมด 24 จังหวัดทั่วประเทศ กระทรวงพลังงานแถลงว่า การผลิตน้ำมันถึงจุดวิกฤตแล้ว หากสถานการณ์ยังดำเนินต่อไปเช่นนี้ การผลิตน้ำมันจะต้องยุติภายในเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง เพราะการทำลายทรัพย์สิน ยึดบ่อน้ำมัน และปิดถนนทำให้ไม่สามารถขนส่งอุปกรณ์และน้ำมันดีเซลที่จำเป็นต่อการผลิตน้ำมันได้ การผลิตขณะนี้ลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่งจากที่เคยผลิตได้วันละ 520,000 บาร์เรล เศรษฐกิจของประเทศในอเมริกาใต้แห่งนี้พึ่งพาน้ำมันอย่างมาก โดยส่งออกน้ำมันที่ผลิตได้ถึงร้อยละ 65 ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้
ชาวเอกวาดอร์เข้าร่วมการประท้วงทั่วประเทศราว 14,000 คน ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงกีโต ผู้ประท้วงปะทะกับตำรวจหลายครั้ง มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 5 คน บาดเจ็บ 500 คน นายฮูลิโอ โฮเซ ปราโด รัฐมนตรีการผลิต การค้าต่างประเทศ การลงทุนและประมงของเอกวาดอร์เผยว่า การประท้วงทำให้ภาครัฐและเอกชนสูญเสียไปแล้วรวม 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 17,721 ล้านบาท) และจะสูญเสียเพิ่มวันละ 40-50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,418-1,772 ล้านบาท) หากยังยืดเยื้อต่อไป กระทบในหลายภาคส่วนทั้งภาคการเกษตร ปศุสัตว์ ไปจนถึงการท่องเที่ยว.-สำนักข่าวไทย