มาดริด 22 ก.ค. – ชาวสเปนยังคงออกมาชุมนุมประท้วงต่อต้านนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อคนในพื้นที่
เมื่อวานนี้มีการชุมนุมประท้วงที่เมืองปัลมาเดมายอร์กาของกลุ่มนักเคลื่อนไหวต่อต้านการท่องเที่ยว ผู้ชุมนุมเผยว่า ไม่ได้ต่อต้านนักท่องเที่ยวโดยตรง แต่ต่อต้านปัญหาที่ตามมาจากการท่องเที่ยว โดยเฉพาะปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้นมาก จนทำให้ผู้คนในท้องที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ปัญหาหนึ่งที่เกิดจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นมาก คือ ที่พักอาศัยมีราคาแพงขึ้นมาก เพราะอาคารที่พักได้ถูกดัดแปลงไปเป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งมีทั้งธุรกิจที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ส่งผลให้ชาวสเปนเองไม่สามารถอยู่ในตัวเมืองได้อีกต่อไป เพราะค่าที่พักแพงเกินกว่าจะจ่ายไหว
ตำรวจเผยว่า การชุมนุมเมื่อวานนี้ถือว่าเป็นครั้งใหญ่สุดในปีนี้มีผู้เข้าร่วมราว 10,000 คน หลังจากก่อนหน้านี้เคยมีการชุมนุมมาแล้วหลายครั้งตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น เมืองบาร์เซโลนา มาลากา และหมู่เกาะคานารี
การท่องเที่ยวเป็นแหล่งรายได้สำคัญของสเปน ครองสัดส่วนถึงร้อยละ 45 ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี (GDP) โดยในช่วงไตรมาสแรกปีนี้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนราว 16.1 ล้านคน เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ร้อยละ 18 และเมื่อปีที่แล้วทั้งปีสเปนมีรายได้จากนักท่องเที่ยว 109,000 ล้านยูโร หรือราว 4.3 ล้านล้านบาท ซึ่งสูงกว่าฝรั่งเศสที่มีรายได้จากการท่องเที่ยว 63,500 ล้านยูโรหรือราว 2.5 ล้านล้านบาท.-816(814).-สำนักข่าวไทย