กระบี่ 28 มี.ค.-กรมทรัพย์สินทางปัญญา เร่งเครื่องขึ้นทะเบียน GI
ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่สำรวจสินค้า GI ที่มีศักยภาพ
พร้อมประชุมร่วมผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สนับสนุนการขึ้นทะเบียน GI คาดปี 2560
ไทยมีสินค้า GI ครบทุกจังหวัดตามแผน
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการเสริมสร้างฐานการผลิตผลิตภัณฑ์ชุมชนให้เข้มแข็ง
เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของชุมชนท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
ซึ่งสอดรับกับภารกิจของกรมทรัพย์สินทางปัญญาในการส่งเสริมสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์
โดยในปีงบประมาณ 2560 กรมฯ ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมหนึ่งจังหวัด
หนึ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ให้ครบทั้ง 77 จังหวัด และส่งเสริมการขึ้นทะเบียน GI ไทยในต่างประเทศ
เพื่อขยายตลาดสินค้า GI ไทยที่ศักยภาพ กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้เร่งดำเนินการเชิงลุกลงพื้นที่สำรวจสินค้าชุมชนที่มีศักยภาพ
เพื่อส่งเสริมให้ขึ้นทะเบียน GI โดยมี 6 จังหวัดที่ยังไม่มีการขึ้นทะเบียน หรือยื่นคำขอเพื่อขึ้นทะเบียน GI
ได้แก่ กระบี่ กาญจนบุรี ระนอง สตูล สมุทรสาคร สิงห์บุรี
และกำแพงเพชร
อย่างไรก็ตาม กรมฯ ได้ลงพื้นที่ที่จังหวัดกระบี่
เพื่อประชุมสร้างความรู้ความเข้าใจและความสำคัญของ สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์
และผลักดันให้ชุมชน ผู้ประกอบการ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง
บูรณาการการทำงานในการส่งเสริมและสนับสนุนการขึ้นทะเบียนสินค้า GI โดยการใช้ชื่อสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์เป็นเครื่องมือทางการตลาด
เพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่ชุมชนและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม
โดยเป็นที่ประจักษ์ว่าจังหวัดกระบี่มีสินค้าชุมชนที่มีศักยภาพ มีเอกลักษณ์
และโดดเด่น รวม 3 สินค้า ได้แก่ หอยชักตีนกระบี่ กะปิแหมสัก
และกาแฟกระบี่ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา พร้อมพาณิชย์จังหวัด เกษตรจังหวัด
และประมงจังหวัดกระบี่ กำหนดลงพื้นที่เยี่ยมชมแหล่งผลิตกาแฟกระบี่
และหอยชักตีนกระบี่
เพื่อเตรียมความพร้อมและผลักดันให้จังหวัดกระบี่มีการยื่นคำขอขึ้นทะเบียนสินค้า GI
ในอนาคตอันใกล้
ทั้งนี้
จังหวัดกระบี่นอกจากขึ้นชื่อว่าเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลที่สวยงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากแล้ว
ยังเป็นเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้วยสินค้าเกษตรและอาหารทะเลที่ขึ้นชื่อ เช่น
หอยชักตีน ซึ่งเป็นหอยขึ้นชื่อของจังหวัดกระบี่ที่นำมาบริโภคเป็นเมนูอาหารทะเลจานเด็ดกันอย่างแพร่หลาย
รวมทั้งกาแฟคลองท่อมที่มีรสชาติเข้มข้นเป็นเอกลักษณ์
สำหรับ “หอยชักตีนกระบี่” หรือเรียกอีกอย่างว่า
“หอยสังข์กระโดด”เป็นหอยทะเลที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นทรายปนโคลน
และ บริเวณหญ้าทะเลและสาหร่าย ตั้งแต่เขตน้ำขึ้น-ลง ไปจนถึงในระดับความลึกถึงประมาณ
55 เมตร ขนาดโดยทั่วไปประมาณ 6-7
เซนติเมตร ขนาดใหญ่สุดประมาณ 10 เซนติเมตร
ในประเทศไทยสามารถพบหอยชักตีนได้ทั่วไปตามทะเลฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน เช่น กระบี่
ภูเก็ต พังงา ตรัง สตูล เป็นต้น โดยการเก็บหอยชักตีนจะใช้วิธีงม หรือเดินเก็บในเวลาน้ำลงสาเหตุที่เรียกหอยชักตีน
เพราะตัว
หอยมีลักษณะพิเศษตรงที่ปากจะมีติ่งคล้ายๆ เล็บสีน้ำตาลยื่นออกมา
ใช้สำหรับเดิน ชาวบ้านเรียกกันว่า “ตีน”
และในการกินหอยนี้จะต้องดึงส่วนที่เรียกว่า “ตีน”
เพื่อให้ตัวหอยหลุดตามออกมา ชาวบ้านเรียกว่า “ชักตีน” จึงทำให้เรียกหอยชนิดนี้กันติดปากว่า
“หอยชักตีน”
“กาแฟคลองท่อม” หรือ “กาแฟกระบี่”
เป็นกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า นิยมปลูกในพื้นที่ราบ
มีความสูงจากระดับทะเลไม่มากนัก ความพิเศษของกาแฟคลองท่อม หรือกาแฟกระบี่
ที่หาจากที่อื่นไม่ได้ คือ รสชาติที่เข้มข้นของสายพันธุ์โรบัสต้า ประกอบกับตำแหน่งและสภาพอากาศของพื้นที่บริเวณคลองท่อมจังหวัดกระบี่
เป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุภูเขาไฟในดินสูงทำให้รสชาติกาแฟคลองท่อมเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ใด
ทำให้ปัจจุบันกาแฟคลองท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจประจำท้องถิ่นที่สร้างรายได้ให้กับชุมชน
โดยมีการนำเมล็ดกาแฟสดมาแปรรูป เพื่อเพิ่มมูลค่าและช่องทางการจำหน่าย
โดยเมล็ดกาแฟสด ราคากิโลกรัมละ 70 บาท
เมื่อคั่วเสร็จราคาเมล็ดกาแฟจะสูงขึ้นไปถึงกิโลกรัมละ 400
บาท
นอกจากนี้
กรมทรัพย์สินทางปัญญาดำเนินงานส่งเสริมสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์อย่างต่อเนื่อง
โดยตั้งเป้าหมายปีงบประมาณ 2560 จะส่งเสริมให้ขึ้นทะเบียนสินค้า
GI ครบทุกจังหวัด รวมทั้งสร้างการยอมรับในตราสัญลักษณ์ GI
ให้มากขึ้น เพราะสินค้า GI เป็นการรับรองแหล่งผลิตสินค้า
คุณภาพที่ผูกผันกับวัตถุดิบ หรือภูมิปัญญาในท้องถิ่น
การขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนท้องถิ่น
รวมถึงเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่สำคัญในการยกระดับสินค้าและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าชุมชม
ปัจจุบันประเทศไทยให้ความคุ้มครองสินค้า GI ไทยและต่างประเทศ
รวม 90 รายการ เป็นสินค้า GI ไทย 76
รายการ 53 จังหวัด และ GI ต่างประเทศ 14 รายการ 8 ประเทศ
โดยสินค้า GI ไทยที่ได้รับการคุ้มครองในต่างประเทศ มีทั้งหมด
6 รายการ ได้แก่ ในสหภาพยุโรป 4 สินค้า คือ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ กาแฟดอยตุง
กาแฟดอยช้าง และข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง ในเวียดนาม คือ เส้นไหมไทยพื้นบ้านอีสาน
และผ้าไหมยกดอกลำพูนในอินโดนีเซียเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย