นนทบุรี 3 ส.ค. – รมช.พาณิชย์ ประชุมติดตามการปฏิบัติงานของกรมทรัพย์สินทางปัญญาทุกด้านเห็นผลชัดเจนทั้งจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชน การป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญาในเชิงพาณิชย์ เพื่อต่อยอดสร้างรายได้อย่างเป็นรูปธรรม
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามการปฏิบัติงานของกรมทรัพย์สินทางปัญญาว่า ขอชื่นชมกรมทรัพย์สินทางปัญญาที่นำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงานและให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการเร่งรัดการจดทะเบียนที่มีการยื่นคำขอผ่านช่องทางออนไลน์จำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งร่นระยะเวลาการพิจารณาคำขอให้มีความรวดเร็วผ่านกลไก Fast Track เครื่องหมายการค้าและสิทธิบัตร ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ยื่นคำขอที่มีความจำเป็นต้องใช้เครื่องหมายการค้าอย่างเร่งด่วน ช่วยลดระยะเวลาและลดภาระของผู้ประกอบการ ตลอดจนช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้แก่ภาคธุรกิจยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ในด้านการป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยที่ถูกละเมิดฯ ได้แก่ เครื่องหมายการค้าที่ถูกนำไปยื่นจดในสาธารณรัฐประชาชนจีนการละเมิดลิขสิทธิ์งานนาฏกรรมและดนตรีกรรมของมหาวิทยาลัยขอนแก่นในกัมพูชา และมีความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการตรวจสอบและเฝ้าระวังในพื้นที่ย่านการค้าสำคัญควบคู่ไปกับการป้องปรามการละเมิดฯ บนแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อส่งเสริมบรรยากาศการค้าการลงทุนในประเทศ และป้องกันความเสียหายหรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนจากการใช้สินค้าปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยมีเป้าหมายสำคัญในการผลักดันให้ไทยหลุดจากบัญชี Watch List ในการจัดสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯ
ทัังนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ต่อยอดความสำเร็จในการผลักดันผู้ประกอบการไทยใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาในเชิงพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง ผ่านศูนย์ให้คำปรึกษาด้านทรัพย์สินทางปัญญา (IPAC) ซึ่งให้คำปรึกษาประชาชนกว่า 10,000 รายต่อปี แพลตฟอร์มตลาดกลางทรัพย์สินทางปัญญา (IP Mart) รวมผลงานกว่า 600 ผลงาน สร้างมูลค่าการจับคู่ทางธุรกิจ 94.54 ล้านบาท และการจัดงานมหกรรมทรัพย์สินทางปัญญา (IP Fair) เพื่อแสดงนวัตกรรมงานสร้างสรรค์ของไทย และสร้างโอกาสทางธุรกิจ งานครั้งล่าสุดสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในงานกว่า 100 ล้านบาท
ส่วนแนวทางการยกระดับสินค้า GI ผ่านเมนูอาหารจากเชฟระดับมิชลินประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักในแวดวงกูรูด้านอาหาร เพื่อสร้างการรับรู้และเป็นที่รู้จักในวงกว้าง และส่งเสริมช่องทางการตลาดให้แก่ผู้ผลิตและผู้ประกอบการ เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และได้มอบนโยบายกรมทรัพย์สินทางปัญญาในการแก้ปัญหาเรื่องปริมาณงานที่มากกว่าจำนวนบุคลากร โดยได้แนะนำให้เปรียบเทียบปริมาณงานย้อนหลัง 5 ปี และวางอัตรากำลังคนให้เหมาะสมกับปริมาณงาน พร้อมศึกษาเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ในการลดระยะเวลาของการดำเนินงาน จัดระบบการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลง พร้อมทั้งแนวทางการส่งเสริมการยกระดับสินค้า GI โดยแบ่งประเภทสินค้า GI เป็น 3 ระดับ 1) สินค้าที่มีศักยภาพระดับสูง พร้อมส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ 2) สินค้าที่มีศักยภาพระดับกลางมีตลาดในประเทศต้องส่งเสริมต่อยอดสู่ตลาดต่างประเทศ และ 3) สินค้าที่ต้องส่งเสริมพัฒนาให้เป็นที่รู้จักและมีตลาดรองรับ เพื่อให้กรมฯ สามารถส่งเสริมผู้ประกอบการสินค้า GI ในแต่ละประเภทได้อย่างเหมาะสม ตลอดจนบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์ เพื่อขยายตลาดและต่อยอดให้สินค้า GI ของไทยให้มีตลาดและเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อไป.-514-สำนักข่าวไทย