ชลบุรี 10 มิ.ย.- กรมปศุสัตว์ลุยตรวจสอบสถานพังพิงสุนัขของ “เพจหมามะเร็ง” จ.ชลบุรี พบสถานที่เลี้ยงแออัด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก อีกทั้งสุนัขบางส่วนอยู่นอกโรงเรือนซึ่งไม่มีหลังคากันแดด-กันฝนผิดจึงปรับตามกฎหมายป้องกันการทารุณกรรมและจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 แล้วสั่งให้แก้ไขตามหลักการจัดสวัสดิภาพสัตว์ให้เหมาะสม
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จากกองสวัสดิภาพสัตว์และสัตวแพทย์บริการร่วมปศุสัตว์จังหวัดชลบุรี นายกเทศมนตรีตำบลเกล็ดแก้วตรวจสอบที่สถานพังพิงสุนัขของเพจหมามะเร็ง บ้านเลขที่ 84/25 หมู่ที่ 9 ถนนสุขุมวิท ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี สืบเนื่องจากได้รับข้อร้องเรียนให้ตรวจสอบผู้ตั้งเพจ “หมามะเร็ง Dogs cancer” ซึ่งระบุว่า เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือสุนัขที่ป่วยหรือไร้ที่อยู่เป็นสุนัขจรจัด โดยนำสุนัขไปเลี้ยงดูที่ดังกล่าว
จากการลงพื้นตรวจสอบสถานพักพิงสัตว์ของเพจหมามะเร็ง Dogs cancer พบว่า มีสุนัขทั้งหมดจำนวน 160 ตัว แมว 11 ตัว ในสถานที่เลี้ยง 2 ไร่เศษ ในสุนัข มีการให้อาหารประมาณ 2 มื้อต่อวัน ในเวลา 09.00 น. และ 16.00 น. ให้น้ำตลอดทั้งวัน ส่วนแมว ให้อาหารทิ้งไว้ตลอดเวลา จากการตรวจสอบสุนัขมีร่างกายสมบูรณ์ ยกเว้นบางตัวจะมีลักษณะผอม เนื่องจากอาการป่วย ในกรณีที่สัตว์ป่วยจะนำสัตว์ไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์สัตหีบ ในส่วนของโรงเรือนเลี้ยงดูมีลักษณะคับแคบเกินไป กรงเลี้ยงบางกรงชำรุด และแออัดเกินไป พัดลมมีจำนวนน้อย ส่งผลให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวก บริเวณภายนอกโรงเรือนไม่มีหลังคากันแดด กันฝนให้สุนัขที่อยู่ภายนอก ซึ่งจากคำให้การของผู้ดูแลแจ้งว่า สุนัขที่อยู่ภายนอกเป็นสุนัขที่แข็งแรง ไม่กัดกัน และทำหมันแล้ว ในโรงเรือนส่วนในสุดเป็นสุนัขป่วย อยู่ในช่วงการรักษา ที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ สุนัขที่อยู่ในกรงด้านหน้า เป็นสุนัขที่ดุ และสุนัขยังไม่ได้ทำหมัน ทางผู้ดูแลจะนำสุนัขเหล่านี้ออกมาเดินเล่นในตอนเย็นของทุกวัน
เจ้าหน้าที่เห็นว่า สภาพการเลี้ยงดูสุนัขและแมวไม่เป็นไปตามหลักการจัดสวัสดิภาพสัตว์ซึ่งเป็นพ.ร.บ. ป้องกันการทารุณกรรมและจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 จึงเปรียบเทียบปรับ แล้วให้ชำระค่าปรับ ณ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดชลบุรีภายใน 15 วัน นับจากวันที่เข้าตรวจสอบ
ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์จะเข้าตรวจสอบอีกครั้ง หากไม่แก้ไขให้เป้นไปตามหลักการจัดสวัสดิภาพสัตว์ให้เหมาะสม จะดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย