รัฐสภา 1 มิ.ย.-“สมคิด” บอกตั้งรับอารมณ์นายกฯ ไม่ทัน ขอให้เกียรติกัน ติงงบกลาโหม บางเรื่องไม่เกี่ยวทหาร ขออย่าเป็นพระเอกทุกเรื่อง ไม่ห้ามซื้ออาวุธ แต่ขอให้จัดลำดับสำคัญ ถามโลกยุคใหม่แล้วจะรบกับใคร
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ว่า ตนตั้งรับนายกรัฐมนตรีไม่ทัน เมื่อเช้านี้ ไม่รู้ว่าอารมณ์เสียมาจากไหน ก็มาใส่ในสภา อารมณ์มาอย่างไรก็ว่าอย่างนั้น
“พวกเราไม่ใช่ที่รองรับอารมณ์ นายกฯ ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน แล้วก็มาบ่นว่าขอความร่วมมือจากใครก็ไม่ได้ ยืนยันว่า พวกเราทำงานได้ทั้งนั้น อยู่ที่ว่ารู้จักให้เกียรติหรือไม่ และเมื่อสักครู่นายกฯ ก็ปรับอารมณ์อีก ผมก็ตามไม่ทันเหมือนกัน เดี๋ยวอารมณ์ดีอารมณ์ร้ายยังไงไม่รู้ ก็ขอให้ไปปรับ สภาผู้แทนราษฎรเป็นสภาฯ ที่พวกเราต้องแสดงความคิดเห็น บอกความเป็นจริงซึ่งกันและกันว่าใครทำงานอย่างไร รัฐบาลก็ทำงานไป ส่วนผู้แทนราษฎรไม่ว่าจะฝ่ายค้านหรือรัฐบาลก็ทำงานไป ขอให้ใจเย็น ๆ มีอะไรว่ากันได้ นายกฯ จะอารมณ์เสีย ผมก็รับได้ ขอให้พูดกันดี ๆ นายกฯไม่อยู่ไม่เป็นไร แต่อยู่ไหน ท่านก็ฟัง” นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด กล่าวถึงงบประมาณของกระทรวงกลาโหมว่า เป็นกระทรวงที่รับงบประมาณมาตั้งแต่ปีไหนไม่รู้ ไล่มาตั้งแต่ปี 2562 เยอะทั้งนั้น 2 แสนกว่าล้านบาท จนถึงปี 2565 มาลดในปี 2566 งบของกระทรวงกลาโหมเหลือ 1.97 แสนล้านบาท แต่ก็ยังติดอันดับท็อปไฟฟ์ วิสัยทัศน์ของกระทรวงกลาโหมระบุว่ามีศักยภาพทางทหารที่ทัดเทียมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2570 ตนมองว่า เหมือนจะสร้างอาณาจักร จึงขอถามว่า วันนี้จะไปรบกับใคร สงครามขนาดใหญ่ในภูมิภาคก็ไม่น่าจะมี ถึงมีก็เป็นสงครามตัวแทน
“กระทรวงกลาโหมทำทุกเรื่อง แม้กระทั่งอีอีซีก็จัดงบไป 716 ล้านบาท ก็สงสัยว่าไปเกี่ยวข้องอะไร และยังทุ่มให้กับกองทัพเรือ โดยอ้างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 13 เป็นแผนบูรณาการเขตเศรษฐกิจ หมุดหมายที่ 2 ที่ 5 ที่ 8 และยังไปทำพื้นที่เมืองอัจฉริยะที่น่าอยู่และปลอดภัย ถามว่ากระทรวงกลาโหมจะทำทุกเรื่องเลยหรือ ทำให้เห็นว่า จัดงบไม่ถูกที่ถูกทาง ทำไมทหารไม่เป็นส่วนสนับสนุน แต่ขอเป็นพระเอกทุกเรื่อง พร้อมเผชิญภัยคุกคามทุกรูปแบบโดยตั้งวงเงินถึง 78,000 ล้านบาท ไม่รู้ว่าเป็นภัยคุกคามอย่างไร ทุกวันนี้เป็นการคุกคามกันเอง” นายสมคิด กล่าว
ส่วนการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ นายสมคิด ตั้งคำถามว่า มีเพื่อไปรบกับใคร เชื่อว่า ยังมีทหารที่ดี มีฝีมือที่อยากทำให้กองทัพเป็นที่ยอมรับของประชาชน แต่วันนี้เดินไปไหน คนรุ่นใหม่พูดถึงกองทัพอย่างไม่ให้เกียรติ การจัดวางงบประมาณในโครงการเสริมสร้างยุทโธปกรณ์ของกองทัพบกสูงกว่า 5,000 ล้านบาท กองทัพเรือกว่า 3,000 ล้านบาท กองทัพอากาศตั้งงบอีก 2-3 โครงการกว่า 7,000 ล้านบาท ขณะที่กองทัพไทยก็กว่า 400 ล้านบาท และยังมีโครงการเสริมสร้างกองกำลังต่าง ๆ
นายสมคิด กล่าวว่า การเกณฑ์ทหารในปีหนึ่ง 120,000 คน จึงถามว่าเอาคนเหล่านี้ไปใช้ทำอะไร เพราะตนอยากให้เป็นกองทัพที่ทันสมัย จิ๋วแต่แจ๋ว แต่หลายงบประมาณที่อยู่ในเล่ม ไม่มีรายละเอียด ดังนั้น ในชั้นกรรมาธิการต้องดูอีกครั้ง อีกทั้ง พบว่ายังมีเงินราชการลับอีก จึงอยากจะเตือนไปยังผู้จัดทำงบประมาณว่า ขอให้เห็นใจประชาชนบ้าง งานไอโอ งานความลับทั้งหลาย อย่ามาทำในยุคที่โลกเปลี่ยน ตนไม่ได้บอกว่าไม่ควรซื้อยุทโธปกรณ์ แต่ขอให้จัดลำดับความสำคัญ เพราะประชาชนกำลังลำบาก ขอให้หยุดก่อนได้หรือไม่ จึงไม่เห็นด้วยที่จะตั้งงบประมาณแบบนี้ ขอให้ไปจัดทำมาใหม่
ส่วนที่นายกรัฐมนตรีชี้แจงเมื่อวานนี้(31 พ.ค.) โดยพาดพิงโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งต้องใช้หนี้กว่า 9 เเสนล้านบาทแล้ว นายสมคิด กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีจำตัวเลขผิดหรือไม่ เพราะกรอบวงเงินโครงการจำนำข้าวเงินมี 5 เเสนล้านบาทเท่านั้น ถือว่านายกรัฐมนตรีโกหกกลางสภา.-สำนักข่าวไทย