เวียดนาม 22 พ.ค.- ตะกร้อ 4 คนชายและหญิงของไทย ทำผลงานได้ตามเป้าหมาย หลังทีมชายเอาชนะอินโดนีเซีย ขณะที่ทีมหญิงเฉือนเจ้าภาพ เวียดนาม
การแข่งขันประเภท ตะกร้อ 4 คนชาย รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง ทีมตะกร้อชายทีมชาติไทย ลงสนามพบกับ อินโดนีเซีย โดยเกมนี้ “ไทย” มีการปรับทัพเล็กน้อย ส่ง ภูตะวัน โสภา ลงมาฟาดแทน โดยมี กฤษณะพงษ์ นนทะโคตร, พรเทพ ถิ่นบางบน เป็นตัวคุมหลัง และ ราชัน วิพันธ์ รับบทตัวชง ปรากฏว่าทีมตะกร้อหนุ่มไทย เอาชนะ อินโดนีเซีย ไปอย่างสนุก 2-0 เซต 21-13, 21-7 พร้อมกับคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ ทำให้ “ทีมตะกร้อหนุ่มไทย” คว้าเหรียญทองตะกร้อซีเกมส์ได้เป็นเหรียญที่ 3 ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
อ.กมล ตันกิมหงส์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมตะกร้อชายไทย เผยว่าพอใจกับผลงานทีมหนุ่มไทยที่คว้าได้ 3 เหรียญทอง ซึ่งประเภททีม 4 คน เรามีความกังวล เพราะจะต้องเลือกนักกีฬา 6 คนจากทั้งหมด 12 คน ซึ่งไม่ใช่นักกีฬาที่เล่นประเภทคู่โดยเฉพาะ โดยในปีนี้เราดูผลงานของ ภูตะวัน และสิทธิศักดิ์ คำจันทร์ จากการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ และดึงเข้ามาประกอบทีม เพราะว่านักกีฬาเราบางคนก็เคยเล่นกับเขามา ทำให้กังวลว่าถ้าใช้นักกีฬาหน้าเดิมอาจจะมีผลเรื่องเกมรับ เพราะตะกร้อ 4 คนเป็นการเสิร์ฟท้ายคอร์ต และค่อนข้างได้แต้มกันยาก ก็เลยต้องมาแลกกันที่เกมทำแต้ม และเกมสกัดกั้น
ส่วนตะกร้อ ทีม 4 คน หญิง ทีมสาวไทย ลงดวลกับ “เจ้าภาพ” เวียดนาม โดยเกมนี้ ไทย ส่ง มัสยา ดวงศรี เป็นตัวชง และมี ศศิวิมล จันทสิทธิ์, สมฤดี ปรือปรัก เป็นตัวฟาดคู่ และ วิภาดา จิตพรวน คุมหลัง ปรากฏว่านักตบสาวไทยฟาดแลกหมัดใส่กันอย่างสนุก ก่อนที่ทีมตะกร้อหญิงไทย เฉือนเอาชนะ เวียดนาม 2-0 เซต 21-18 ,22-20 พร้อมกับคว้าแชมป์ตะกร้อ 4 คนไปครอง เป็นเหรียญที่ 3 ปิดท้ายให้กับทีมตะกร้อหญิงไทย
ด้านนายไพโรจน์ อาชารุ่งโรจน์ ผู้จัดการทีมตะกร้อหญิง กล่าวว่า ทีมตะกร้อหญิงไทย ทำได้ตามเป้าหมาย คว้า 3 เหรียญทอง แม้จะมีความยุ่งยากเล็กน้อย เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ทีมมีเวลาเก็บตัวไม่มาก ขณะที่นักตะกร้อสาวเวียดนามได้เปรียบสนาม และเก็บตัวฝึกซ้อมกันมาอย่างยาวนาน พร้อมทั้งได้เปรียบเสียงเชียร์ด้วย ชื่นชมทีมตะกร้อสาวไทยที่เอาชนะความกดดัน จนสามารถคว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จตามเป้าหมาย.-สำนักข่าวไทย