จีน 8 ต.ค.- วันสุดท้ายการแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2022 ชิงชัย 3 เหรียญทอง ทีมระบำใต้น้ำ จีนเจ้าภาพ คว้าเหรียญทอง ปิดท้าย เป็นเหรียญทองที่ 201
เอเชียนเกมส์ วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการแข่งขัน ชิงชัย 3 เหรียญทองปิดท้ายเริ่มที่กีฬาระบำใต้น้ำ ที่ศูนย์กีฬาทางน้ำหางโจว โอลิมปิก สปอร์ต อารีน่า ทีมระบำใต้น้ำ เจ้าภาพจีน โชว์ลีลาระบำใต้น้ำได้อย่างพร้อมเพรียงและสวยงาม ทั้งท่าบังคับ ท่าเทคนิค และฟรีสไตล์ ทำคะแนนรวม 869.9676 คะแนน คว้าเหรียญทอง และเป็นเหรียญปิดท้ายของจีนที่คว้าเหรียญทองไปได้ถึง 201 เหรียญ ส่วนเหรียญเงิน ญี่ปุ่น ทำได้ 831.2535 คะแนน เหรียญทองแดง คาซัคสถาน 663.7417 คะแนน ขณะที่ทีมไทย จบอันดับ 8 ทำได้ 392.3249 คะแนน
ส่วนคาราเต้ เป็นกีฬาสุดท้ายที่มีการชิง วันนี้ชิง 2 เหรียญทอง ที่ศูนย์กีฬาหลินปิง สปอร์ต เซ็นเตอร์ ประเภทคาตะ หรือท่ารำทีมชาย รอบชิงชนะเลิศ ทีมญี่ปุ่น เอาชนะ มาเก๊า ไปได้ 44.50 ต่อ 41.70 คะแนน คว้าเหรียญทอง ส่วนมาเก๊าได้เหรียญเงิน เหรียญทองแดงเป็น คูเวต และอิรัก
ส่วนประเภทคูมิเต้ หรือต่อสู้ ชิงเหรียญสุดท้ายในเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ รุ่น 50 กก.หญิง รอบชิงชนะเลิศ กู่ เสี่ยว ซวาง จากไต้หวัน พลิกกลับมาเอาชนะ โมลดีร์ ชางบีร์เบย์ จากคาซัคสถาน หลังจากตามหลังอยู่ 1-5 แต่กลับมาใช้เท้าเตะหัวกลับมาได้ 3 คะแนน ไล่มา 4-5 และมาชนะด้วยท่าแฮนด์ไทย์ คว้าเหรียญทองไปครอง ชางบีร์เบย์ ได้เหรียญเงิน เหรียญทองแดงยูเออี.กับ อิหร่าน ส่วนชัญญานุช ชีพเป็นสุข ของไทยตกรอบในรอบแก้ตัวหลังแพ้ให้กับนักกีฬายูเออี
สรุปเหรียญทอง จีน เจ้าภาพ นำเป็นอันดับ 1 คว้าไป 201 เหรียญทอง 111 เหรียญเงิน 71 เหรียญทองแดง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเอเชียนเกมส์ ที่ 1 ชาติสามารถคว้าได้มากกว่า 200 เหรียญทองในการแข่งขันเพียงครั้งเดียว โดยเป็นการทำลายสถิติเดิมที่จีนเคยทำไว้ 199 เหรียญทอง ในกว่างโจวเกมส์ 2010 ที่ตัวเองเป็นเจ้าภาพ อันดับ 2. ญี่ปุ่น 52 เหรียญทอง อันดับ 3 เกาหลีใต้ 42 เหรียญทอง ส่วนไทย จบอันดับ 8 คว้าไปแล้ว 12 เหรียญทอง 14 เหรียญเงิน 32 เหรียญทองแดง เป็นอันดับ 1 ของอาเซียน
ทัพนักกีฬาไทยคว้ามาได้รวม 58 เหรียญ ได้รับเงินรางวัลจากกองทุพนพัฒนากีฬาแห่งชาติ รวม 244 ล้าน 2 แสนบาท แบ่งเป็นเหรียญทอง เหรียญละ 2 ล้านบาท เหรียญเงิน 1 ล้านบาท เหรียญทองแดง 5 แสนบาท และโค้ชได้รับเงินผู้ฝึกสอน 20 เปอร์เซ็นต์ และสมาคมที่ได้รับเหรียญรางวัล 22 สมาคมจะได้รับอีกสมาคมละ 30 เปอร์เซ็นต์.– – สำนักข่าวไทย