กทม. 23 มี.ค.- รมว.ท่องเที่ยวฯ มั่นใจการจัดแข่งขันโมโตจีพีคุ้มค่า ทั้งนี้เป็นไปตามแผนพัฒนากีฬาชาติ ใช้กีฬาสร้างเศรษฐกิจ
การอนุมัติหลักการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลกหรือ โมโตจีพี พร้อมงบสนับสนุนปีละ 100 ล้านบาทเป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปี 2561 – 2563 ตามมติคณะรัฐมนตรี นำมาซึ่งคำถามถึงความคุ้มค่า เนื่องจากที่ผ่านมาไทยยังไม่เคยทุ่มงบเพื่อการจัดการแข่งขันกีฬาอาชีพสูงเท่านี้มาก่อน และนี่จะเป็นครั้งแรกของการเปลี่ยนบริบทของการส่งเสริมกีฬา จากกีฬาสู่ความเป็นเลิศ สร้างชื่อเสียงสู่กีฬาสร้างเศรษฐกิจ ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับปี 2559
นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมารัฐบาลให้งบประมาณสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาอาชีพมาตลอดแต่อยู่ในระดับเอเชียเท่านั้น ส่วนการก้าวสู่ระดับโลก ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะโมโตจีพี แต่ยังจะขยายไปยังกีฬาอื่นๆ ทั้งนี้จากสถิติการแข่งขันโมโตจีพีในประเทศอื่นๆ จะมีผู้เข้าชมเฉลี่ยกว่า 100,000 คน ซึ่งจะเป็นผู้ชมจากต่างชาติถึง 40% สร้างรายได้มหาศาลจากการท่องเที่ยว เพราะชาวต่างชาติที่ไม่เพียงแต่จะเดินทางมาชมการแข่งขัน หากแต่ยังอยู่ใช้จ่ายท่องเที่ยวตามจังหวัดต่างๆ อีกอย่างน้อย 10 วัน
นอกจากนี้ยังมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันไปยัง 207 ประเทศทั่วโลก ซึ่งไทยจะได้เวลาโฆษณาประมาณ 3 – 5 นาทีเพื่อประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยสู่สายตาผู้ชมกว่า 600 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพความพร้อมของประเทศไทยทั้งด้านกีฬา เศรษฐกิจ ท่องเที่ยว และด้านสังคม ส่งผลดีทั้งการท่องเที่ยวและการลงทุน ขณะเดียวกันนักกีฬาไทยยังได้สิทธิพิเศษลงแข่งขันในระดับโมโตทู และโมโตทรี ที่จะแข่งขันควบคู่กัน
ขณะที่นางกอบกาญจน์ วัฒนะวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยด้วยว่า การจัดการแข่งขันโมโตจีพี ยังส่งผลให้เกิดการตื่นตัวของวงการกีฬา Motor Sport เพิ่มโอกาส รายได้ และการจ้างงานให้กับการผลิตในอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ซึ่งมีฐานการผลิตเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน จึงคาดว่าจะมีเงินหมุนเวียนจากการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามในขณะนี้ไทยยังต้องผ่านการเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพ แข่งกับอีก 3 ประเทศคู่แข่ง ซึ่งจะไปเสนอตัวในต้นเดือนมิถุนายน ซึ่งการลงมติเห็นชอบงบประมาณปีละ 100 ล้านของรัฐบาลเป็นเพียงเงินส่วนหนึ่งเท่านั้น โดยแต่ละปีต้องใช้งบจัดการแข่งขันถึงกว่า 400 ล้านบาท แต่ก็เป็นการแสดงให้เจ้าของลิขสิทธิเชื่อมั่นถึงสถานะทางการเงินและความร่วมมือร่วมใจของชาวไทย นอกเหนือจากความพร้อมด้านอื่นๆ ที่ไทยเคยแสดงให้เห็นจากการจัดแข่งขันเวิล์ดซูเปอร์ไบค์ก่อนหน้านี้. -สำนักข่าวไทย