กรุงเทพฯ 2 พ.ค. – ปลัด สธ. เผย สถานการณ์โควิด-19 พื้นที่ กทม. แนวโน้มดีขึ้น มีระบบดูแลรักษาผู้ติดเชื้อครอบคลุม ประชาชนได้รับวัคซีนเข็ม 3 มากกว่า 60% สามารถเดินหน้าเข้าสู่การจัดการให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นได้ โดยมีมาตรการดูแลพื้นที่สำคัญ เช่น ผับ บาร์ ร้านอาหาร ขนส่งสาธารณะ
วันนี้ (2 พฤษภาคม 2565) นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย แพทย์หญิงปฐมพร ศิรประภาศิริ ผู้ทรงคุณวุฒิกระทรวงสาธารณสุข และผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 13 นายแพทย์ภูวเดช สุระโคตร ผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข ร่วมหารือกับ แพทย์หญิงป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร และคณะ เกี่ยวกับแนวทางการเตรียมความพร้อมพื้นที่กรุงเทพมหานครให้รับมือโรคโควิด-19 ตามแนวทางการขับเคลื่อนบริหารจัดการโรคโควิด-19 แบบโรคประจำถิ่น (Endemic approach)
นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ของประเทศไทย เริ่มคลี่คลายมากขึ้น หลายจังหวัดมีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ผู้ป่วยหนักและผู้เสียชีวิตลดลงอย่างต่อเนื่อง กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมการรองรับสถานการณ์ตามแนวทาง 2U 3พอ ได้แก่ Universal Prevention ใช้การป้องกันตนเองขั้นสูงสุดต่อเนื่อง, Universal Vaccination ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม, มีเตียงเพียงพอสำหรับผู้ป่วยโควิด, มียาและวัคซีนฉีดเพียงพอให้ประชาชน และมีบุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลผู้ป่วยเพียงพอ
สำหรับกรุงเทพมหานคร เป็นจังหวัดหนึ่งที่สถานการณ์ดีขึ้นเช่นกัน ผู้ที่ตรวจพบว่าติดเชื้อได้รับการดูแลรักษาที่บ้าน (Home Isolation) และแบบผู้ป่วยนอก “เจอ แจก จบ” ขณะที่การฉีดวัคซีนมีความครอบคลุมสูง คือ เข็ม 1 และเข็ม 2 ได้เกิน 100% ส่วนเข็มกระตุ้นหรือเข็ม 3 มีความครอบคลุมมากกว่า 60% สามารถเดินหน้าเข้าสู่การเป็นจังหวัดที่บริหารจัดการโรคโควิด-19 แบบโรคประจำถิ่น (Endemic Sandbox) ได้แนะนำให้มุ่งเน้นการจัดการในพื้นที่สำคัญ เช่น สวนสาธารณะ ที่มีคนจำนวนมาก กิจการที่มีความเสี่ยง เช่น ผับ บาร์ รวมถึงขนส่งสาธารณะต่าง ๆ โดยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยกระดับการผ่อนคลายอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ประชาชนค่อยๆ ปรับตัว และการเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่น .-สำนักข่าวไทย