โรงแรมแชงกรีล่า 22 ธ.ค.-นายกรัฐมนตรี ย้ำสถาบันครอบครัวและความเสมอภาคทางเพศ คือปัจจัยสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน หนุนจัดสรรรัฐสวัสดิการ ให้เกิดความเท่าเทียมในสังคม โดยเฉพาะเรื่องรายได้ เชื่อการตกลง ปฏิญญากรุงเทพฯ มีส่วนสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมาย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุมระดับรัฐมนตรีเอเชียตะวันออก ด้านครอบครัวและความเสมอภาคระหว่างเพศ ที่โรงแรมแชงกรีล่า ซึ่งประเทศไทย โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นเจ้าภาพ จัดการประชุม โดยมีคณะผู้แทน จากประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก 17 ประเทศ อาทิ บรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา ญี่ปุ่น ลาว มาเลเซีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ รวมถึงเอกอัครราชทูตผู้แทนเลขาธิการอาเซียน เข้าร่วม
ก่อนเริ่มการประชุม นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมนิทรรศการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่จัดขึ้นบริเวณด้านหน้าห้องประชุม เพื่อถ่ายทอดพระอัจฉริยภาพ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ให้รัฐมนตรีจากชาติในเอเชียตะวันออกได้รับชมด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งนี้ ภายใต้หัวข้อ “สังคมที่เป็นมิตรกับครอบครัว: การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านสถาบันครอบครัวและการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ” นับเป็นมิติใหม่ของความร่วมมือในระดับภูมิภาคที่เชื่อมโยงประเด็นทั้งเรื่องครอบครัวและความเสมอภาคทางเพศเข้าด้วยกัน ให้ทุกคนในภูมิภาคนี้และทั้งโลกเห็นความสำคัญของการขับเคลื่อนเรื่องดังกล่าวให้มีคุณภาพ และให้เกิดเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนขึ้นในสังคม อันนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนภายในปี 2030 (Sustainable Development Goals: SDGs)
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปัจจัยที่จะช่วยให้ครอบครัวมีคุณภาพต้องอาศัยทั้งจากสภาวะภายในคือครอบครัว ส่วนสภาวะภายนอกคือ ความพร้อมของสาธารณูปโภคพื้นฐาน การสร้างสังคมปลอดภัย และมีสิ่งแวดล้อมที่ดี เพราะถ้าสถาบันครอบครัวมีคุณภาพก็จะทำให้สังคมดี และเมื่อสังคมดีก็ส่งผลให้ครอบครัวได้อยู่ในสังคมคุณภาพไปด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงประเด็นความเสมอภาคทางเพศว่า การยอมรับในสถานภาพของแต่ละฝ่ายถือเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับการอยู่ร่วมกันของครอบครัว สังคม ต้องสนับสนุนสตรีให้ได้รับความเสมอภาคอย่างรอบด้าน และเปิดโอกาสให้สตรีแสดงศักยภาพและความสามารถผ่านการทำงาน ขจัดการเลือกปฏิบัติในทุกสถานการณ์ และการสร้างทัศนคติเรื่องไม่กระทำความรุนแรงต่อสตรี ไม่ว่าจะทางร่างกายหรือสภาวะจิตใจให้กับสังคมรับทราบ โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงซึ่งเป็นวัยที่ต้องดูแลเอาใจใส่และควรได้รับการปลูกฝังที่ดี
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องครอบครัวและความเสมอภาคระหว่างเพศเป็นเรื่องสำคัญต่อการพัฒนาสังคมในภาพใหญ่ ซึ่งอยู่ในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามที่องค์การสหประชาชาติได้กำหนดเป้าหมายไว้ 17 ประการ โดยยึดแนวคิดการพัฒนาเป็นมิติทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้มีความเชื่อมโยงกัน ดังนั้น การพัฒนาสถาบันครอบครัวให้มีคุณภาพและการสนับสนุนความเสมอภาคทางเพศจะเป็นแรงผลักดันในการช่วยสร้างสรรค์ให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งทุกคนทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันทำงานเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์ ที่วางไว้อย่างเต็มที่
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลไทยยืนยันเจตนารมณ์ความมุ่งมั่นในการร่วมมือกับนานาประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกที่จะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และสังคม พร้อมทั้งส่งเสริมการสร้างโอกาสในการเข้าถึงสาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างทั่วถึง ลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อนำไปสู่การสร้างภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็งของครอบครัวบนพื้นฐานของความเสมอภาค เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความสมดุล มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สังคมคุณภาพ และมีความสุขภายใต้การดำเนินชีวิตตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ดังพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อันนำมาซึ่งการสร้างภูมิคุ้มกันในการดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การตกลงปฏิญญากรุงเทพฯ ในการประชุมครั้งนี้ ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว และเป็นการยกระดับความเข้าใจในการสร้างความเสมอภาคระหว่างเพศให้ไปสู่การปฏิบัติมากยิ่งขึ้น และจะเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นอย่างจริงจังของรัฐภาคี อันจะส่งผลต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม และเชื่อมั่นว่าปฏิญญากรุงเทพฯ จะเป็นเครื่องมือหนึ่งในการขับเคลื่อนนโยบายและทิศทางการดำเนินงานของรัฐภาคีให้สนองตอบต่อประชาชนในภูมิภาคนี้จนสามารถบรรลุเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืนภายในระยะเวลาที่กำหนด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุนและจัดสรรรัฐสวัสดิการให้เกิดความเท่าเทียมในสังคม โดยเฉพาะเรื่องรายได้ เพราะหากครอบครัวมีรายได้ที่ดี ทุกคนก็จะมีความสุข .-สำนักข่าวไทย