“วรวัจน์” ขอฝ่ายค้านไปศึกษาก่อนวิจารณ์ “ดิจิทัลวอลเล็ต”

รัฐสภา 17 ก.ค.-องครักษ์พิทักษ์เงินหมื่นมาแล้ว “วรวัจน์” ขอฝ่ายค้านไปศึกษาก่อนวิจารณ์ “ดิจิทัลวอลเล็ต” แขวะ “รัฐสวัสดิการ” ใช้เงินมากกว่า ด้าน “หมอศรีญาดา” ขอยืมคำ “พิธา” อวยโครงการนายกฯ “เศรษฐา” เป็น “กระดุมเม็ดแรก” เหน็บ บอกเศรษฐกิจไม่วิกฤติ แต่ทายผิดทุกไตรมาส

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง ที่วาระพิจารณาเป็นพิเศษ คือร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. …. หรืองบกลางเพิ่มเติม เพื่อดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ตามนโยบายของรัฐบาล ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ปรากฏว่ามี สส.อภิปรายอย่างกว้างขวาง


นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย อภิปราย ย้ำว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เป็นนวัตกรรมทางการเงินที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียนและสร้างรายได้ให้กับประชาชน แนวคิดโครงการนี้ไม่เหมือนกับรัฐสวัสดิการ ไม่ใช่การแจกเงินซ้ำๆ และไม่ได้ทำให้ความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น

ส่วนคนที่แสดงความเห็นอภิปรายถึงแหล่งที่มาของเงิน หรือว่าโครงการนี้จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ต้องไปศึกษารายละเอียดโครงการว่าทำได้อย่างไร ไม่เช่นนั้นจะไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดถึงโครงการรัฐสวัสดิการที่ใช้เงินจำนวนมากทุกปีและมีแต่จ่ายออกไม่รับเข้าเลย จึงขอให้ศึกษาให้ดี เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น


“โครงการดิจิทัลวอลเล็ตไม่เหมือนกับโครงการรัฐสวัสดิการ ที่คิดว่าพอเป็นรัฐบาลแล้ว จะต้องไปหาเงินเอามาแจก แจกแล้วก็แจกอีก แจกเท่าไหร่ก็ไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น เพราะถือเป็นการแจกเงินเท่านั้น ไม่ได้ทำให้พี่น้องประชาชนดีขึ้น ไม่เหมือนกับที่พรรคเพื่อไทยทำ ที่จริงท่านที่อภิปรายบอกว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ทำได้อย่างไรๆ เอาเงินจากที่ไหน ท่านต้องมาศึกษาว่าทำได้อย่างไร ไม่เช่นนั้น ท่านไม่มีสิทธิ์พูดโครงการรัฐสวัสดิการ ซึ่งใช้เงินมากกว่านี้ และใช้ทุกปี ใช้จ่ายออก ไม่มีรับเข้าเลย ท่านต้องศึกษานะครับว่าเขาทำอย่างไร ไม่เช่นนั้นท่านจะไม่มีโอกาสตอบโต้เลย เพราะท่านยังไม่เข้าใจเลย” นายวรวัจน์ กล่าว

โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นนวัตกรรมทางการเงินในการบริหารเงินภาครัฐ ซึ่งเป็นเรื่องใหม่มากใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย สร้างระบบเงินหมุนเวียนให้กับประชาชนด้วยการบริหารจัดการอยู่ในระดับอำเภอและจังหวัด กระจายไปทั่วประเทศไม่ใช่แจกไปทั่ว โดยไม่มีเป้าหมาย แล้วไม่ก่อให้เกิดรายได้กับประชาชน

โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” สำหรับผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายเงิน นายวรวัฒน์ย้ำว่าประชาชนทุกคนจะเป็นทั้งผู้ใช้จ่ายเงินและรับเงิน 10,000 บาท ในขณะที่จ่ายเงินออกไป ก็ยังมีโอกาสที่จะได้รับเงินจากที่อื่นมาด้วยเช่นกัน ไม่ใช่การจ่ายขาดเงินนี้จะอยู่ในระบบการหมุนเวียนของเงิน ดังนั้นเงินก้อนนี้จะใหญ่พอที่จะนำไปลงทุนเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว และหากมีการใช้จ่ายเงินมากขึ้นรัฐบาลก็จะสามารถจัดเก็บภาษีได้มากขึ้น และรัฐบาลจะนำเงินจากการจัดเก็บภาษีไปใช้คืนในโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต การบริหารจัดการเงินจึงหมุนเวียน


ขอให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคนเห็นถึงประโยชน์ของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และคำนึงถึงหนี้ครัวเรือนและวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ในฐานะที่เป็นผู้แทนของประชาชนขอให้มองเห็นประโยชน์และร่วมกันสนับสนุนการจัดทำงบประมาณเพิ่มเติมในครั้งนี้ของรัฐบาล ขอให้ปล่อยวางความคิดที่จะคัดค้านแล้วคิดถึงความลำบากของประชาชนว่ากำลังรอเงิน ก้อนนี้อยู่

ช่วงท้าย นายวรวัจน์ บอกว่าขอให้ กำลังใจนายกรัฐมนตรี แม้จะได้รับแรงกระแทกอย่างมากแต่ก็มีความตั้งใจและเชื่อว่าสิ่งที่ทำกำลังจะเกิดประโยชน์กับประชาชนและสร้างความมั่นคงให้กับประเทศชาติในอนาคตต่อไป เหมือนสมัยรัฐบาลของพรรคไทยรักไทย ภายใต้การนำของนายทักษิณชินวัตรและนางสาวยิ่งลักษณ์ชินวัตร ย้ำว่าพรรคเพื่อไทยจะแก้หนี้ด้วยการสร้างรายได้ผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และจะแก้วิกฤตให้กับประเทศได้อีกด้วย

ขณะที่ทันตแพทย์หญิงศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวย้ำถึงผลดีของโครงการว่าเป็นโครงการที่มุ่งสร้างความหวังเหมือนกับการยื่นการดน้ำให้กับคนไทย ไปรดน้ำที่รากของต้นไม้ รัฐบาลเชื่อมั่นศักยภาพของพี่น้องประชาชน เคยฟื้นฟู้วิกฤติต้มย้ำกุ้งมาแล้ว ตั้งแต่กองทุนหมู่บ้าน พักหนี้เกษตรกร และอีกมากมาย ควบคู่กับการลงทุนขนาดใหญ่

นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตได้ผ่านการศึกษามาแล้วว่าสำเร็จ เช่น ในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ส่วนในประเทศไทย เรามีภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตได้เรียนรู้ผ่านหลายโมเดล หลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าการกำหนดเงื่อนไขการใช้เงิน การถอนออกมาเป็นเงินสดที่ในสมัยก่อนไม่มีเทคโนโลยี การเพิ่มประสิทธิภาพการหมุนเวียนของเงินให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจให้ใหญ่มากขึ้น

“บางท่านชอบบอกว่าเศรษฐกิจไม่วิกฤติ แต่ทายผิดทุกไตรมาส ประชาชนจำนวนมากยังลำบาก รายได้ไม่ฟื้นตัว หนี้ครัวเรือนอันดับ 7 ของโลก การลงทุนต่ำกว่าศักยภาพมานาน ดิฉันขอย้ำว่านโยบายดิจิทัลวอลเล็ตไม่ใช่การแจกเงิน แต่เป็นการมอบโอกาสและตัวช่วยให้ประชาชนทุกคนฟื้นจากเศรษฐกิจที่ติดหล่มมากว่าครึ่งทศวรรษ เพื่อให้ทุกคนฟื้นตัวขึ้นมาร่วมกันพัฒนาประเทศไปด้วยกัน โดยการเริ่มต้นจากการฟื้นเศรษฐกิจฐานราก ที่ได้รับการสนับสนุนจากนโยบายเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย โดยการขับเคลื่อนของท่านนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ที่มีนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตเป็นกระดุมเม็ดแรก” ทันตแพทย์หญิงศรีญาดา กล่าว

ทันตแพทย์หญิงศรีญาดา ระบุว่า เพื่อนสมาชิกจากพรรคก้าวไกลไม่น่าจะมีปัญหาในหลักการโครงการนี้ เพราะท่านคงจำได้ว่าพรรคก้าวไกลเคยยอมรับหลักการที่จะสามารถใส่นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตไปใน MOU ในช่วงจัดตั้งรัฐบาล

“ฉบับเดียวกันกับที่ สส.ท่านหนึ่ง ที่ยังไม่มูฟออน และยังถามถึงด้วยการอภิปรายงบประมาณที่ผ่านมา ท้ายสุดนี้ดิฉัน ขอสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2567 ขอบคุณค่ะ” ทันตแพทย์หญิงศรีญาดา ระบุ.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

วชิรพยาบาลปิดรับผู้ป่วยนอก 2 วัน เหตุถนนทรุดไม่กระทบอาคาร

24 ก.ย.- คณบดีคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล ยันตัวอาคารโรงพยาบาลไม่ได้รับผลกระทบ ขอปิดรับผู้ป่วยนอก 2 วัน รับกังวลการมาทำงานของเจ้าหน้าที่ เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ผศ.นพ.จักราวุธ มณีฤทธิ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล กล่าวถึงกรณีการทรุดตัวลงของพื้นผิวถนนหน้าโรงพยาบาลวิชรพยาบาลว่า ตัวของโรงพยาบาลไม่มีผลกระทบอะไรเลย เพราะด้านหน้ามีกำแพงกั้นดินที่ลึกถึง 60 เมตร และตัวอาคารทีปังกรฯ มีกำแพงอยู่ แต่เพื่อความไม่ประมาทและการจราจรก็มีปัญหาจึงได้หยุดให้บริการตึกผู้ป่วยนอกเป็นเวลา 2 วัน และตึกดังกล่าวไม่ได้มีการอพยพผู้ป่วย เนื่องจากผู้ป่วยทั้งหมดในตึกนั้นเป็นผู้ป่วยนอกจึงไม่จำเป็นที่จะต้องอพยพ ทั้งนี้ หากมีเหตุจำเป็นและเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินทางโรงพยาบาลยังเปิดให้บริการอยู่ ตอนนี้เราเป็นห่วงในเรื่องของการจราจรส่วนอาคารนั้นไม่ได้มีปัญหาอะไร ในส่วนของการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยก็ยังสามารถใช้ประตูอื่นบริเวณโดยรอบโรงพยาบาลได้ ส่วนที่เรากังวลคือการเดินทางมาทำงานของเจ้าหน้าที่ภายในโรงพยาบาล. -สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมแม่แจ่มยังวิกฤติ

เชียงใหม่ 24 ก.ย.- “อำเภอแม่แจ่ม” น้ำท่วมยังวิกฤติ หลังฝนตกหนักบนดอย เช้านี้ลำน้ำแม่แจ่มเพิ่มระดับสูงขึ้นอีกครั้ง เตือนหมู่บ้านท้ายน้ำเตรียมรับมวลน้ำจากน้ำแม่หยอด-น้ำแม่แจ่ม ที่จะไหลมาสมทบกัน ขอให้อพยพกลุ่มเปราะบางและขนย้ายสิ่งของไว้บนที่สูง ภาพจากกล้องวงจรปิดเวลาตลาดสดเทศบาลแม่แจ่ม เช้านี้ (24 กันยายน 2568) ยังคงมีมวลน้ำจากลำน้ำแม่แจ่มไหลเอ่อเข้าท่วมถนนและในตลาดสดเพิ่มระดับขึ้นเรื่อยๆ หลังน้ำที่ท่วมเมื่อวานนี้เริ่มลดลง แต่เมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้น้ำเพิ่มสูงขึ้น ทำให้น้ำที่ท่วมถนนหน้าที่ว่าการอำเภอแม่แจ่ม และบ้านเรือนของชาวบ้านในตำบลช่างเคิ่ง และตำบลท่าผา บางจุดท่วมสูง 70- 80 เซนติเมตร นายเกรียงศักดิ์ บุญตาปวน นายอำเภอแม่แจ่มให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมยังหนักอยู่ เนื่องจากมีน้ำจากบนดอยเติมมาตั้งแต่ช่วงตี 5 ของวันนี้ หลังน้ำที่ท่วมเมื่อวานนี้ลดลงในช่วงค่ำ แต่มีมวลน้ำมาเติมอีกระลอก น้ำที่ไหลมาท่วมวันนี้ถือว่าหนักกว่าเมื่อวานเพราะไหลมาจากอำเภอกัลยานิวัฒนา ซึ่งขณะนี้ทางอำเภอยังไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้ว่าน้ำจะเริ่มลดระดับลงเมื่อไหร่ถ้าหากฝนบนดอยยังตกมาเรื่อยๆ โดยน้ำท่วมครั้งนี้มีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 700 หลังคาเรือน กระทบกว่า 3,000 คน โดยมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักและต้องการความช่วยเหลือด่วน คือตำบลแม่นาจร สะพานไม้ขาด ถนนพัง ขณะนี้ทางผู้นำท้องถิ่นช่วยกันดูแลอยู่ อย่างไรก็ตามในส่วนของอำเภอแม่แจ่มและหน่วยงานส่วนราชการนั้น ระดมกำลังช่วยเหลือชาวบ้านกลุ่มเปราะบางและผู้สูงอายุ รวมทั้งได้ตั้งโรงครัวนำอาหารและน้ำดื่มแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัย จัดตั้งศูนย์อพยพไว้ที่อำเภอและเทศบาลต่างๆ แต่ขณะนี้ชาวบ้านยังไม่มีการอพยพแต่อย่างใด เนื่องจากยังมีไฟฟ้าใช้ตามปกติและยังมีอาหารเพียงพอ มีเพียงบางส่วนที่ไปอาศัยบ้านญาติอยู่ชั่วคราว ข้อมูลจากสำนักงานป้องกันสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่รายงานเมื่อวันที่ 23 […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักบางพื้นที่-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 24 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง มีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะ จ.นครพนม จันทบุรี และตราด ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ และภาคกลาง มีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดนครพนม จันทบุรี และตราด ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 […]