“วรวัจน์” ขอฝ่ายค้านไปศึกษาก่อนวิจารณ์ “ดิจิทัลวอลเล็ต”

รัฐสภา 17 ก.ค.-องครักษ์พิทักษ์เงินหมื่นมาแล้ว “วรวัจน์” ขอฝ่ายค้านไปศึกษาก่อนวิจารณ์ “ดิจิทัลวอลเล็ต” แขวะ “รัฐสวัสดิการ” ใช้เงินมากกว่า ด้าน “หมอศรีญาดา” ขอยืมคำ “พิธา” อวยโครงการนายกฯ “เศรษฐา” เป็น “กระดุมเม็ดแรก” เหน็บ บอกเศรษฐกิจไม่วิกฤติ แต่ทายผิดทุกไตรมาส

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง ที่วาระพิจารณาเป็นพิเศษ คือร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. …. หรืองบกลางเพิ่มเติม เพื่อดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ตามนโยบายของรัฐบาล ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ปรากฏว่ามี สส.อภิปรายอย่างกว้างขวาง


นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย อภิปราย ย้ำว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เป็นนวัตกรรมทางการเงินที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียนและสร้างรายได้ให้กับประชาชน แนวคิดโครงการนี้ไม่เหมือนกับรัฐสวัสดิการ ไม่ใช่การแจกเงินซ้ำๆ และไม่ได้ทำให้ความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น

ส่วนคนที่แสดงความเห็นอภิปรายถึงแหล่งที่มาของเงิน หรือว่าโครงการนี้จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ต้องไปศึกษารายละเอียดโครงการว่าทำได้อย่างไร ไม่เช่นนั้นจะไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดถึงโครงการรัฐสวัสดิการที่ใช้เงินจำนวนมากทุกปีและมีแต่จ่ายออกไม่รับเข้าเลย จึงขอให้ศึกษาให้ดี เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น


“โครงการดิจิทัลวอลเล็ตไม่เหมือนกับโครงการรัฐสวัสดิการ ที่คิดว่าพอเป็นรัฐบาลแล้ว จะต้องไปหาเงินเอามาแจก แจกแล้วก็แจกอีก แจกเท่าไหร่ก็ไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น เพราะถือเป็นการแจกเงินเท่านั้น ไม่ได้ทำให้พี่น้องประชาชนดีขึ้น ไม่เหมือนกับที่พรรคเพื่อไทยทำ ที่จริงท่านที่อภิปรายบอกว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ทำได้อย่างไรๆ เอาเงินจากที่ไหน ท่านต้องมาศึกษาว่าทำได้อย่างไร ไม่เช่นนั้น ท่านไม่มีสิทธิ์พูดโครงการรัฐสวัสดิการ ซึ่งใช้เงินมากกว่านี้ และใช้ทุกปี ใช้จ่ายออก ไม่มีรับเข้าเลย ท่านต้องศึกษานะครับว่าเขาทำอย่างไร ไม่เช่นนั้นท่านจะไม่มีโอกาสตอบโต้เลย เพราะท่านยังไม่เข้าใจเลย” นายวรวัจน์ กล่าว

โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นนวัตกรรมทางการเงินในการบริหารเงินภาครัฐ ซึ่งเป็นเรื่องใหม่มากใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย สร้างระบบเงินหมุนเวียนให้กับประชาชนด้วยการบริหารจัดการอยู่ในระดับอำเภอและจังหวัด กระจายไปทั่วประเทศไม่ใช่แจกไปทั่ว โดยไม่มีเป้าหมาย แล้วไม่ก่อให้เกิดรายได้กับประชาชน

โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” สำหรับผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายเงิน นายวรวัฒน์ย้ำว่าประชาชนทุกคนจะเป็นทั้งผู้ใช้จ่ายเงินและรับเงิน 10,000 บาท ในขณะที่จ่ายเงินออกไป ก็ยังมีโอกาสที่จะได้รับเงินจากที่อื่นมาด้วยเช่นกัน ไม่ใช่การจ่ายขาดเงินนี้จะอยู่ในระบบการหมุนเวียนของเงิน ดังนั้นเงินก้อนนี้จะใหญ่พอที่จะนำไปลงทุนเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว และหากมีการใช้จ่ายเงินมากขึ้นรัฐบาลก็จะสามารถจัดเก็บภาษีได้มากขึ้น และรัฐบาลจะนำเงินจากการจัดเก็บภาษีไปใช้คืนในโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต การบริหารจัดการเงินจึงหมุนเวียน


ขอให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคนเห็นถึงประโยชน์ของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และคำนึงถึงหนี้ครัวเรือนและวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ในฐานะที่เป็นผู้แทนของประชาชนขอให้มองเห็นประโยชน์และร่วมกันสนับสนุนการจัดทำงบประมาณเพิ่มเติมในครั้งนี้ของรัฐบาล ขอให้ปล่อยวางความคิดที่จะคัดค้านแล้วคิดถึงความลำบากของประชาชนว่ากำลังรอเงิน ก้อนนี้อยู่

ช่วงท้าย นายวรวัจน์ บอกว่าขอให้ กำลังใจนายกรัฐมนตรี แม้จะได้รับแรงกระแทกอย่างมากแต่ก็มีความตั้งใจและเชื่อว่าสิ่งที่ทำกำลังจะเกิดประโยชน์กับประชาชนและสร้างความมั่นคงให้กับประเทศชาติในอนาคตต่อไป เหมือนสมัยรัฐบาลของพรรคไทยรักไทย ภายใต้การนำของนายทักษิณชินวัตรและนางสาวยิ่งลักษณ์ชินวัตร ย้ำว่าพรรคเพื่อไทยจะแก้หนี้ด้วยการสร้างรายได้ผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และจะแก้วิกฤตให้กับประเทศได้อีกด้วย

ขณะที่ทันตแพทย์หญิงศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวย้ำถึงผลดีของโครงการว่าเป็นโครงการที่มุ่งสร้างความหวังเหมือนกับการยื่นการดน้ำให้กับคนไทย ไปรดน้ำที่รากของต้นไม้ รัฐบาลเชื่อมั่นศักยภาพของพี่น้องประชาชน เคยฟื้นฟู้วิกฤติต้มย้ำกุ้งมาแล้ว ตั้งแต่กองทุนหมู่บ้าน พักหนี้เกษตรกร และอีกมากมาย ควบคู่กับการลงทุนขนาดใหญ่

นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตได้ผ่านการศึกษามาแล้วว่าสำเร็จ เช่น ในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ส่วนในประเทศไทย เรามีภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตได้เรียนรู้ผ่านหลายโมเดล หลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าการกำหนดเงื่อนไขการใช้เงิน การถอนออกมาเป็นเงินสดที่ในสมัยก่อนไม่มีเทคโนโลยี การเพิ่มประสิทธิภาพการหมุนเวียนของเงินให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจให้ใหญ่มากขึ้น

“บางท่านชอบบอกว่าเศรษฐกิจไม่วิกฤติ แต่ทายผิดทุกไตรมาส ประชาชนจำนวนมากยังลำบาก รายได้ไม่ฟื้นตัว หนี้ครัวเรือนอันดับ 7 ของโลก การลงทุนต่ำกว่าศักยภาพมานาน ดิฉันขอย้ำว่านโยบายดิจิทัลวอลเล็ตไม่ใช่การแจกเงิน แต่เป็นการมอบโอกาสและตัวช่วยให้ประชาชนทุกคนฟื้นจากเศรษฐกิจที่ติดหล่มมากว่าครึ่งทศวรรษ เพื่อให้ทุกคนฟื้นตัวขึ้นมาร่วมกันพัฒนาประเทศไปด้วยกัน โดยการเริ่มต้นจากการฟื้นเศรษฐกิจฐานราก ที่ได้รับการสนับสนุนจากนโยบายเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย โดยการขับเคลื่อนของท่านนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ที่มีนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตเป็นกระดุมเม็ดแรก” ทันตแพทย์หญิงศรีญาดา กล่าว

ทันตแพทย์หญิงศรีญาดา ระบุว่า เพื่อนสมาชิกจากพรรคก้าวไกลไม่น่าจะมีปัญหาในหลักการโครงการนี้ เพราะท่านคงจำได้ว่าพรรคก้าวไกลเคยยอมรับหลักการที่จะสามารถใส่นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตไปใน MOU ในช่วงจัดตั้งรัฐบาล

“ฉบับเดียวกันกับที่ สส.ท่านหนึ่ง ที่ยังไม่มูฟออน และยังถามถึงด้วยการอภิปรายงบประมาณที่ผ่านมา ท้ายสุดนี้ดิฉัน ขอสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2567 ขอบคุณค่ะ” ทันตแพทย์หญิงศรีญาดา ระบุ.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]