รัฐสภา 17 ก.ค.-องครักษ์พิทักษ์เงินหมื่นมาแล้ว “วรวัจน์” ขอฝ่ายค้านไปศึกษาก่อนวิจารณ์ “ดิจิทัลวอลเล็ต” แขวะ “รัฐสวัสดิการ” ใช้เงินมากกว่า ด้าน “หมอศรีญาดา” ขอยืมคำ “พิธา” อวยโครงการนายกฯ “เศรษฐา” เป็น “กระดุมเม็ดแรก” เหน็บ บอกเศรษฐกิจไม่วิกฤติ แต่ทายผิดทุกไตรมาส
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง ที่วาระพิจารณาเป็นพิเศษ คือร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. …. หรืองบกลางเพิ่มเติม เพื่อดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ตามนโยบายของรัฐบาล ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ปรากฏว่ามี สส.อภิปรายอย่างกว้างขวาง
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย อภิปราย ย้ำว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เป็นนวัตกรรมทางการเงินที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียนและสร้างรายได้ให้กับประชาชน แนวคิดโครงการนี้ไม่เหมือนกับรัฐสวัสดิการ ไม่ใช่การแจกเงินซ้ำๆ และไม่ได้ทำให้ความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น
ส่วนคนที่แสดงความเห็นอภิปรายถึงแหล่งที่มาของเงิน หรือว่าโครงการนี้จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ต้องไปศึกษารายละเอียดโครงการว่าทำได้อย่างไร ไม่เช่นนั้นจะไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดถึงโครงการรัฐสวัสดิการที่ใช้เงินจำนวนมากทุกปีและมีแต่จ่ายออกไม่รับเข้าเลย จึงขอให้ศึกษาให้ดี เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น
“โครงการดิจิทัลวอลเล็ตไม่เหมือนกับโครงการรัฐสวัสดิการ ที่คิดว่าพอเป็นรัฐบาลแล้ว จะต้องไปหาเงินเอามาแจก แจกแล้วก็แจกอีก แจกเท่าไหร่ก็ไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น เพราะถือเป็นการแจกเงินเท่านั้น ไม่ได้ทำให้พี่น้องประชาชนดีขึ้น ไม่เหมือนกับที่พรรคเพื่อไทยทำ ที่จริงท่านที่อภิปรายบอกว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ทำได้อย่างไรๆ เอาเงินจากที่ไหน ท่านต้องมาศึกษาว่าทำได้อย่างไร ไม่เช่นนั้น ท่านไม่มีสิทธิ์พูดโครงการรัฐสวัสดิการ ซึ่งใช้เงินมากกว่านี้ และใช้ทุกปี ใช้จ่ายออก ไม่มีรับเข้าเลย ท่านต้องศึกษานะครับว่าเขาทำอย่างไร ไม่เช่นนั้นท่านจะไม่มีโอกาสตอบโต้เลย เพราะท่านยังไม่เข้าใจเลย” นายวรวัจน์ กล่าว
โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นนวัตกรรมทางการเงินในการบริหารเงินภาครัฐ ซึ่งเป็นเรื่องใหม่มากใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย สร้างระบบเงินหมุนเวียนให้กับประชาชนด้วยการบริหารจัดการอยู่ในระดับอำเภอและจังหวัด กระจายไปทั่วประเทศไม่ใช่แจกไปทั่ว โดยไม่มีเป้าหมาย แล้วไม่ก่อให้เกิดรายได้กับประชาชน
โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” สำหรับผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายเงิน นายวรวัฒน์ย้ำว่าประชาชนทุกคนจะเป็นทั้งผู้ใช้จ่ายเงินและรับเงิน 10,000 บาท ในขณะที่จ่ายเงินออกไป ก็ยังมีโอกาสที่จะได้รับเงินจากที่อื่นมาด้วยเช่นกัน ไม่ใช่การจ่ายขาดเงินนี้จะอยู่ในระบบการหมุนเวียนของเงิน ดังนั้นเงินก้อนนี้จะใหญ่พอที่จะนำไปลงทุนเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว และหากมีการใช้จ่ายเงินมากขึ้นรัฐบาลก็จะสามารถจัดเก็บภาษีได้มากขึ้น และรัฐบาลจะนำเงินจากการจัดเก็บภาษีไปใช้คืนในโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต การบริหารจัดการเงินจึงหมุนเวียน
ขอให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคนเห็นถึงประโยชน์ของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และคำนึงถึงหนี้ครัวเรือนและวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ในฐานะที่เป็นผู้แทนของประชาชนขอให้มองเห็นประโยชน์และร่วมกันสนับสนุนการจัดทำงบประมาณเพิ่มเติมในครั้งนี้ของรัฐบาล ขอให้ปล่อยวางความคิดที่จะคัดค้านแล้วคิดถึงความลำบากของประชาชนว่ากำลังรอเงิน ก้อนนี้อยู่
ช่วงท้าย นายวรวัจน์ บอกว่าขอให้ กำลังใจนายกรัฐมนตรี แม้จะได้รับแรงกระแทกอย่างมากแต่ก็มีความตั้งใจและเชื่อว่าสิ่งที่ทำกำลังจะเกิดประโยชน์กับประชาชนและสร้างความมั่นคงให้กับประเทศชาติในอนาคตต่อไป เหมือนสมัยรัฐบาลของพรรคไทยรักไทย ภายใต้การนำของนายทักษิณชินวัตรและนางสาวยิ่งลักษณ์ชินวัตร ย้ำว่าพรรคเพื่อไทยจะแก้หนี้ด้วยการสร้างรายได้ผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และจะแก้วิกฤตให้กับประเทศได้อีกด้วย
ขณะที่ทันตแพทย์หญิงศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวย้ำถึงผลดีของโครงการว่าเป็นโครงการที่มุ่งสร้างความหวังเหมือนกับการยื่นการดน้ำให้กับคนไทย ไปรดน้ำที่รากของต้นไม้ รัฐบาลเชื่อมั่นศักยภาพของพี่น้องประชาชน เคยฟื้นฟู้วิกฤติต้มย้ำกุ้งมาแล้ว ตั้งแต่กองทุนหมู่บ้าน พักหนี้เกษตรกร และอีกมากมาย ควบคู่กับการลงทุนขนาดใหญ่
นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตได้ผ่านการศึกษามาแล้วว่าสำเร็จ เช่น ในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ส่วนในประเทศไทย เรามีภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตได้เรียนรู้ผ่านหลายโมเดล หลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าการกำหนดเงื่อนไขการใช้เงิน การถอนออกมาเป็นเงินสดที่ในสมัยก่อนไม่มีเทคโนโลยี การเพิ่มประสิทธิภาพการหมุนเวียนของเงินให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจให้ใหญ่มากขึ้น
“บางท่านชอบบอกว่าเศรษฐกิจไม่วิกฤติ แต่ทายผิดทุกไตรมาส ประชาชนจำนวนมากยังลำบาก รายได้ไม่ฟื้นตัว หนี้ครัวเรือนอันดับ 7 ของโลก การลงทุนต่ำกว่าศักยภาพมานาน ดิฉันขอย้ำว่านโยบายดิจิทัลวอลเล็ตไม่ใช่การแจกเงิน แต่เป็นการมอบโอกาสและตัวช่วยให้ประชาชนทุกคนฟื้นจากเศรษฐกิจที่ติดหล่มมากว่าครึ่งทศวรรษ เพื่อให้ทุกคนฟื้นตัวขึ้นมาร่วมกันพัฒนาประเทศไปด้วยกัน โดยการเริ่มต้นจากการฟื้นเศรษฐกิจฐานราก ที่ได้รับการสนับสนุนจากนโยบายเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย โดยการขับเคลื่อนของท่านนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ที่มีนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตเป็นกระดุมเม็ดแรก” ทันตแพทย์หญิงศรีญาดา กล่าว
ทันตแพทย์หญิงศรีญาดา ระบุว่า เพื่อนสมาชิกจากพรรคก้าวไกลไม่น่าจะมีปัญหาในหลักการโครงการนี้ เพราะท่านคงจำได้ว่าพรรคก้าวไกลเคยยอมรับหลักการที่จะสามารถใส่นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตไปใน MOU ในช่วงจัดตั้งรัฐบาล
“ฉบับเดียวกันกับที่ สส.ท่านหนึ่ง ที่ยังไม่มูฟออน และยังถามถึงด้วยการอภิปรายงบประมาณที่ผ่านมา ท้ายสุดนี้ดิฉัน ขอสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2567 ขอบคุณค่ะ” ทันตแพทย์หญิงศรีญาดา ระบุ.-319.-สำนักข่าวไทย