29 เม.ย.-โฆษก พปชร. ชูผลงาน”พล.อ.ประวิตร” ฟื้นฟูคลอง ดูแลความปลอดภัย แก้ปัญหาจราจร เชื่อมกล้อง CCTV ทั้งระบบ แนะคนจ้องโจมตี ทำงานช่วย ปชช ดีกว่า
ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชาชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพปชร ได้ห่วงใยพี่น้องประชาชนชาวกทม. ในเรื่องของความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยเน้นย้ำให้ติดตามความก้าวหน้าโครงการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน และเสริมสร้างความอยู่ดีกินดีให้กับประชาชน พร้อมมอบนโยบายการทำงานให้กับส.ส. พปชร. เน้นการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อรับฟังปัญหา และนำความต้องการของประชาชน มาสู่กระบวนการทำงาน ที่จะต้องบูรณาการงานในแต่ละเขตพื้นที่ให้ตรงกับความต้องการของประชาชน เพื่อให้พรรค สามารถเป็นที่พึ่ง ที่หวังของประชาชนได้จริง
โดยเฉพาะการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนนั้น ได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ให้เชื่อมโยงทั่วประเทศ โดยเฉพาะกทม. อย่างเป็นรูปธรรม โดยให้ปรับเปลี่ยนจากระบบอนาล็อก เป็นระบบดิจิทัลให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อเป็นการป้องปรามเฝ้าระวัง และแก้ปัญหาการจราจร รวมถึงแก้ปัญหาความล่าช้าในการเชื่อมโยงระบบข้อมูลจากกล้องในงานการสืบสวนสอบสวน พร้อมย้ำว่าที่ผ่านมานโยบายของรัฐบาลให้ความสำคัญ และต้องการที่จะเร่งรัดบูรณาการเชื่อมโยงระบบ CCTV ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนให้เป็นรูปธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์กับสังคมส่วนรวมโดยตรง ในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และเพิ่มความเป็นธรรมในสังคม ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ก็ได้เน้นย้ำ ให้เร่งขับเคลื่อนบูรณาการเชื่อมโยงกล้อง ให้เป็นระบบ ซึ่งต้องได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยงาน พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งซ่อมแซมกล้องที่เสียจำนวนมาก ให้สามารถใช้งานได้
นอกจากนี้ ที่ผ่านมา พรรคพลังประชารัฐ ยังเดินหน้าในเรื่องแก้ปัญหาสิ่งก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ ที่ถือเป็นผลงานชิ้นสำคัญ ของพล.อ.ประวิตร ที่เป็นรูปธรรม ประชาชนได้ประโยชน์ และสำเร็จไปแล้วหลายชุมชน เช่น การจัดสรรที่อยู่อาศัยให้กับชาวบ้านริมคลอง ผ่านโครงการบ้านมั่นคงคลองลาดพร้าว แล้วเสร็จไปแล้วกว่าร้อยละ 50.02 โครงการบ้านมั่นคงที่คลองเปรมประชากร ดำเนินการได้ประมาณร้อยละ 14.31 ขณะที่คลองแสนแสบมีแผนฟื้นฟูสภาพแวดล้อมกว่า 30 โครงการ เป็นต้น
โฆษก พรรค พปชร ขอให้ทุกคนที่จ้องโจมตี เล่นเกมการเมือง ทำให้ไม่เป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ประเทศ ขอให้ดูกันที่ผลงาน และมาตั้งใจทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน จะดีกว่า เอาแต่โจมตีคนอื่น อย่างเลื่อนลอย ไม่มีหลักฐาน จะทำให้ตนเองนั้นหมดความน่าเชื่อถือ – สำนักข่าวไทย