กรุงเทพฯ 22 เม.ย.-“สิระ” ระบุ กกต.ไม่เป็นธรรม ยกคำร้องเอาผิด “อุตตม” ยันรู้เห็นเซ็นรับรองส่งเองกับมือ เตรียมให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบ ชี้ถ้ายกคำสั่ง คสช.มาอ้าง ก็ต้องปฏิบัติแบบเดียวกันกับอนาคตใหม่
นายสิระ เจนจาคะ อดีตส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มีมติยกคำร้องนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยที่ขอให้เอาผิดนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย ขณะดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ฐานเจตนารับรองการส่งนายสิระลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.62 ทั้งที่ขาดคุณสมบัติ
นายสิระ กล่าวว่า ไม่เคยได้รับการเรียกจากกกต.ให้ชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับนายศรีสุวรรณ ในฐานะผู้ร้องก็ไม่เคยได้เข้าชี้แจงใด ๆ ต่อกกต. จึงตั้งข้อสังเกตว่ามติของกกต.ตามที่เป็นข่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ยืนยันว่านายอุตตม หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐขณะนั้น เป็นคนลงนามรับรองตนให้ลงสมัคร ส.ส. ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าตนมีคนสมบัติหรือไม่มีคุณสมบัติ แต่กกต.กลับยกคำร้อง แตกต่างจากกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจและพรรคอนาคตใหม่
“ส่วนที่กกต.อ้างว่าการสมัครรับเลือกตั้งเมื่อปี 2562 เป็นไปตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช.) ที่ 13/2561 เรื่องการดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ที่กำหนดลดขั้นตอนการส่งผู้สมัครของพรรคการเมืองนั้น เห็นว่าตามคำสั่งคสช. ดังกล่าวมีเงื่อนไข ที่หัวหน้าพรรคการเมืองต้องเป็นผู้รับรองการส่งผู้สมัครอยู่ และยังต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารด้วย ซึ่งหากจะอ้างคำสั่งคสช. ก็ต้องใช้เงื่อนไขนี้กับนายธนาธร ด้วย ไม่ใช่ยกคำร้องเฉพาะกรณีของพรรคพลังประชารัฐแล้วไปดำเนินคดีกับพรรคอื่น” นายสิระ กล่าว
นายสิระ กล่าวว่า รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นความเห็นชอบของหัวหน้าพรรค แต่เมื่อถูกคดีขาดคุณสมบัติ ตนกลับต้องรับผิดชอบเพียงคนเดียว ส่วนเรื่องคดีอาญา ตนสงสัยว่าหัวหน้าพรรคถือเป็นผู้ร่วมกระทำผิดด้วยหรือไม่ ตนจะให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาตรวจสอบมติของกกต.ถูกต้องหรือมีลับลมคมในอะไรหรือไม่ เพราะรู้สึกแปลกตั้งแต่ไม่เรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงในกระบวนการพิจารณาเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว.-สำนักข่าวไทย