นครราชสีมา 16 เม.ย.- กรณีคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทองที่โคราช และยังหาของกลางไม่เจอบางส่วน ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่เค้นสอบผู้ต้องหาอย่างหนัก กระทั่งทราบว่านำทองใส่ถุงพลาสติกซ่อนไว้ในป่าบริเวณใกล้เคียงกับจุดแรก และพบสร้อยคอทองคำเพิ่มอีก 17 เส้น
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พร้อมชุดสืบสวนฯ ลงพื้นที่ติดตามของกลางสร้อยคอทองคำเพิ่มเติม ในคดีที่นายกิตติพงษ์ หรือ “เบส” อายุ 28 ปี ก่อเหตุจี้ทอง 51 เส้น น้ำหนัก 153 บาท จากร้านทองเยาวราชกรุงเทพฯ ภายในห้างสรรพสินค้ากลางเมืองนครราชสีมา ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ติดตามทองของกลางคืนมาได้ 30 เส้น
ล่าสุด ตำรวจเค้นสอบผู้ต้องหาอย่างหนัก กระทั่งทราบว่าได้นำทองใส่ถุงพลาสติกไปซ่อนไว้ในป่าบริเวณใกล้เคียงกับจุดแรก และพบสร้อยคอทองคำอีก 17 เส้น ซึ่งนายเบส ยอมรับว่าแยกสร้อยทอง 51 เส้นออกเป็นส่วนๆ คือ ขุดดินฝัง 28 เส้น, ใส่ถุงซ่อนไว้ในป่า 17 เส้น, แบ่งให้เพื่อนนำไปขาย 2 เส้น และทำหล่นหาย 2 เส้น ซึ่งเท่ากับว่าขณะนี้ยังหาของกลางไม่เจออีก 2 เส้น
สำหรับการติดตามทองรูปพรรณทั้ง 51 เส้น กลับมาใช้เวลารวม 62 ชั่วโมง นับตั้งแต่นายเบสก่อเหตุเมื่อวันที่ 12 เม.ย. ใช้เวลาในการลงมือชิงทองแค่ 20 วินาที โดยกวาดทองไป 1 ถาด ตำรวจจับกุมตัวนายเบสได้ เมื่อวันที่ 15 เม.ย. เวลา 04.20 น. ที่โรงแรมใน จ.ชลบุรี และแม้ว่า ในเบสตอนแรกจะให้การณ์สับสน อ้างให้แบ่งทองให้กับเพื่อนฝายขายถึง 11 เส้น แต่ท้ายก็จนด้วยหลักฐาน และสามารถติดตามทองได้ 47 เส้น หล่นหาย 2 เส้น ยังหาไม่เจออีก 2 เส้น
ทั้งนี้ นายเบส ถูกแจ้งข้อหาชิงทรัพย์โดยมอมหน้า หรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยมีอาวุธ และโดยใช้ยานพาหนะเพื่อการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมแล้ว ยังดำเนินคดีกับภรรยาของนายเบส อายุ 27 ปี ฐานสนับสนุนกระทำความผิด และผู้เกี่ยวข้องอื่นที่นำทองไปขายและผู้รับซื้อทอง ฐานรับของโจรอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย