ทลายโกดังลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า รวบ 2 ผู้ต้องหา พร้อมของกลางมูลค่า 5 ลบ.

6 ส.ค.67 – ตำรวจ 191 ทลาย โกดังลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมของกลาง 24,544 ชิ้น มูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท


เมื่อเวลา 13:00 น. ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาตำรวจนครบาล นำโดย นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข, พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้แถลงผลการจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าช่องทางออนไลน์ พร้อมของกลาง 24,544 ชิ้น มูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท

พ.ต.ต.ณัฐดนัย บำรุงศรี สว.งานสายตรวจ 2 ระบุว่า ทางชุดปฏิบัติการได้ทำการสืบสวนเป็นเวลา 1 เดือน โดยก่อนหน้านี้มีการรับแจ้งจากสายลับว่ามีการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านทางช่องทางออนไลน์ จึงมีการสืบสวนจนทราบว่ามีโกดังเก็บสินค้าอยู่บริเวณซอยชานเมือง 10 ซึ่งเป็นแหล่งชุมชน ย่านดินแดง จึงมีการเฝ้าติดตามและแกะรอยจนสามารถยืนยันเป้าหมายได้


ต่อมาวันที่ 5 ส.ค. 67 เวลาประมาณ 15.40 น. จากการเฝ้าติดตาม พบรถจักรยานยนต์รับจ้างขับขี่เข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้าน และ มีนายภควัต หรือเมฆ อายุ 23 ปี นำกระสอบสีรุ้งใบใหญ่มาส่งมอบให้กับรถจักรยานยนต์รับจ้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวและขอตรวจค้น พบว่าภายในเป็นกล่องพัสดุมีบุหรี่ไฟฟ้า, น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ส่วนควบบุหรี่ไฟฟ้า จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจค้นภายในโกดัง พบ น.ส.ภัคจิรา หรือกิ้บ อายุ 41 ปี ในโกดังอีก 1 คน จากการตรวจค้น พบหัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 11,261 หัว น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 5,611 ขวด บุหรี่ไฟฟ้าแบบสูบแล้วทิ้ง จำนวน 2,750 ชิ้น เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 454 เครื่อง คอยด์ 4,431 ชิ้น และเครื่องชาร์จ จำนวน 37 เครื่อง

สอบถามผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การว่า ได้รับว่าจ้างมาจาก “นายอาร์ม” ให้นำของมาเก็บไว้ที่โกดัง โดยจะมีการส่งสัญญาณกันก่อนว่าจะมีคนนำของมาส่งให้ และพวกตนมีหน้าที่ช่วยกันแพ็คบุหรี่ไฟฟ้า, หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ ใส่กล่องพัสดุเพื่อนำส่งจำหน่าย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบว่ามีการขายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านทางแอปฯ ไลน์ ที่มีชื่อว่า “33VAPE” ที่มีสมาชิกในกลุ่มสูงถึง 133,570 คน ซึ่งในส่วนนี้ต้องมีการขยานผลต่อว่ามีเยาวชนอยู่ในกลุ่มมากน้อยแค่ไหน และจะขยายผลไปถึงตัวนานอาร์มในกาติดตามจับกุมตัว นอกจากนี้ทางตำรวจยังเชื่อว่ามีการส่งบุหรี่ไฟฟ้าเป็นทอดๆ จากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาจนถึงโกดังในพื้นที่กรุงเทพ ทั้งนี้ ต้องมีการตรวจสอบใบอนุญาตนำเข้าประเทศ ถ้าแสดงเอกสารเท็จอาจมีโทษจำคุกสูงถึง 10 ปี

ด้านนายกองตรี ธนกฤต ระบุว่า บุหรี่ไฟฟ้าที่ตรวจได้รอบนี้มีการพัฒนาไปในรูปแบบของอาร์ตทอย เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเยาวชน โดยหลังจากนี้จะประสานไปยังกระทรวงศึกษาธิการให้เข้มงวดในการตรวจค้นบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กนักเรียน และสร้างความรู้ให้ครูในโรงเรียนว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีการเปลี่ยนรูปแบบแพ็คเกจ เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบในสถานศึกษา และเป็นห่วงว่าเด็กนักเรียนอาจจะติดบุหรี่ไฟฟ้าได้ เนื่องจากมีการปรับแพ็ตเกจ ปรับกลิ่น และรสชาติใหม่ แต่หารู้หรือไม่ บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายมาก อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้


เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการที่ 24/2567 เรื่องห้ามผลิตเพื่อขาย ห้ามขายหรือให้บริการสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า, ร่วมกันซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของ อันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิด ตามมาตรา 246 พรบ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 ”.-420-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือนภัย ลั่นยังไม่ได้ SMS แผ่นดินไหว

นายกฯ ลั่น จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับ SMS เตือนแผ่นดินไหว สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือน “กรมอุตุฯ ไป ปภ. เข้าเครือข่ายมือถือ” ไม่ต้องผ่าน กสทช. ระหว่าง รอ Cell Broadcast เต็มระบบ ก.ค.นี้

ปภ.ยันไม่มีความรู้สึกสั่นไหว ไม่ใช่ผลจากอาฟเตอร์ช็อก

ปภ.แถลงชี้แจงกรณีสถานการณ์อพยพออกจากอาคาร ยืนยันไม่มีความรู้สึกสั่นไหว ไม่ได้เป็นผลกระทบจากอาฟเตอร์ช็อก ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก

นายกฯ ติดตามภารกิจช่วยเหลือคนติดซาก สตง.ถล่ม

นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุอาคาร สตง.ถล่ม ติดตามภารกิจช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ใต้ซากอาคาร พร้อมให้กำลังใจทุกหน่วยงานทำงานอย่างเต็มที่

ตึกถล่มแผ่นดินไหว

72 ชั่วโมง ยังมีหวังพบผู้รอดชีวิตตึก สตง. ถล่ม

ใกล้ครบ 72 ชั่วโมงเหตุตึก สตง. ถล่ม แต่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายยังไม่ละความพยายาม และยังมีความหวังในการค้นหาผู้ที่ติดอยู่ใต้ซาก