เชียงใหม่ 11 เม.ย.- ญาติเตรียมฌาปนกิจแม่ ที่ตกเป็นเหยื่อลูกสาววัย 14 ปี และแฟนหนุ่มวางแผนฆ่า ช่วงบ่ายวันนี้ ขณะที่ลูกชายเชื่อ แม่ให้อภัยลูกสาวเพราะรักลูกมาก พร้อมฝากเตือนลูกวัยรุ่นหากโกรธพ่อแม่ให้ย้อนนึกถึงวันที่เขาเลี้ยงมา
ช่วงสายที่ผ่านมา ญาติๆ ได้เตรียมพิธีฌาปนกิจแม่วัย 52 ปี ที่ถูกลูกสาววัย 14 ปี และแฟนหนุ่มวัย 16 ปี วางแผนฆ่าที่สมุทรปราการ เมื่อ 3 วันที่แล้ว และนำศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่วัดพระเจดีย์ อำเภสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ และเตรียมทำพิธีในช่วงบ่ายวันนี้ ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้าสลดของญาตพี่น้อง ซึ่งส่วนใหญ่ยังทำใจไม่ได้กับเหตุรุนแรงที่ไม่คาดคิดที่เกิดขึ้นในครอบครัว
ด้านลูกชายคนโต วัย 23 ปี ซึ่งบาดเจ็บจากคมมีด ต้องเย็บกว่า 30 เข็ม ขณะพยายายามเข้าไปช่วยแม่ บอกว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะส่งแม่ โดยน้องชายซึ่งเป็นลูกคนกลางจะบวชอุทิศส่วนกุศลให้แม่ และตนได้บอกแม่แล้วว่าไม่ต้องเป็นห่วงอะไร ลูกๆ สามารถดูแลตัวเองได้ และเชื่อว่าแม่จะให้อภัยน้องสาว เพราะถึงแม่จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวแต่พยายายามดูแลลูกทั้ง 3 อย่างดีที่สุด และแม่รักน้องสาวซึ่งเป็นลูกคนเล็กมาก
แต่สำหรับตัวพี่ชาย บอกว่า ยังทำใจไม่ได้ที่จะให้อภัยน้องสาว คงต้องใช้เวลา เชื่อว่าน้องสาวจะชดใช้กรรมและสำนึกผิดได้ นอกจากนี้ยังฝากไปถึงลูกๆ ที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นทุกคน หากโกรธหรือน้อยใจพ่อแม่ ให้ย้อนนึกถึงวันที่พ่อแม่เคยเลี้ยงดูเรามา เพราะเชื่อว่าพ่อแม่รักลูกทุกคนพร้อมที่จะช่วยเหลือและให้คำปรึกษาทุกอย่าง ดีกว่าหาทางออกกับคนอื่นหรือใช้ความรุนแรง
ขณะที่ นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงสุขภาพจิตวัยรุ่น เนื่องจากปัจจุบันมีวัยรุ่นก่อเหตุรุนแรงต่อบุคคลในครอบครัว รวมถึงการฆ่าบุพการี เป็นเรื่องที่หดหู่บั่นทอนความรู้สึกคนไทยอย่างมาก จึงกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามปัญหา ตรวจสอบสาเหตุแรงจูงใจอย่างใกล้ชิด พร้อมฝากเตือนเยาวชน อย่าเก็บความรู้สึกไว้คนเดียว พยายามปรึกษาพูดคุยกับคนที่ไว้ใจ หรือบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือ สามารถแนะนำได้อย่างถูกต้อง ขอให้คิดไตร่ตรองอย่างมีสติ อย่าให้อารมณ์ครอบงำ จนนำไปสู่การสูญเสียพรากบุคคลอันเป็นที่รักอย่างไม่มีวันกลับ และในส่วนของผู้ปกครอง หากลูกหลานมีอาการไม่ปกติ ส่อไปในทิศทางที่รุนแรง ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ อย่าปกปิดข้อมูล และขอให้ใช้โอกาสเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่ไทย มีวันหยุดยาวที่ครอบครัวจะได้ใช้เวลาร่วมกันกระชับความสัมพันธ์ตามวิถีไทยซึ่งตรงกับวันครอบครัว 14 เมษายนด้วย.-สำนักข่าวไทย