กรุงเทพฯ 27 ธ.ค. – นิด้ามองเศรษฐกิจปี 60 สดใส เติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3.5-4.0 รับภาครัฐอัดฉีดลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน-เร่งเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ดันเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นเคลื่อนไหวในกรอบร้อยละ 1.5-2.0 และส่งออกขยายตัวร้อยละ 1-2 ขณะที่ตลาดหุ้นไทยมีลุ้นได้เห็นดัชนี 1,600-1,650 จุด
นายมนตรี โสคติยานุรักษ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรปริญญาโทการจัดการภาครัฐและเอกชน (MPPM) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจปี 2560 ประเมินว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะอยู่ที่ร้อยละ 3.5-4.0 จากนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาครัฐทั้งการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณปี 2559 ที่มีงบลงทุนคงเหลือกว่าร้อยละ 33.6 หรือประมาณ 141,730 ล้านบาทและการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2560 ที่ขณะนี้มีการเบิกจ่ายไปแล้วกว่าร้อยละ 26.3 โดยในส่วนนี้เป็นการเบิกจ่ายงบลงทุนเพียงร้อยละ 6.4 เท่านั้น อย่างไรก็ตาม นโยบายภาครัฐที่เร่งอัดฉีดกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่มีหลายโครงการที่จะเห็นเป็นรูปธรรมในปี 2560 จะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้ด้วยดี ทำให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้และส่งผลต่อรายได้ของประชาชนเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันการเร่งรัดเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน โดยสนับสนุนการพัฒนายกระดับความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีให้กับภาคการผลิตและแสวงหาตลาดใหม่ให้กับภาคการส่งออกผ่านการเจรจาความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจและการค้าอย่างต่อเนื่องจะช่วยสนับสนุนต่อปัจจัยเชิงบวกของเศรษฐกิจไทย เนื่องจากคู่ค้าของไทยปี 2560 มีทิศทางเศรษฐกิจดีขึ้นและจะผลักดันอัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นมาเคลื่อนไหวในกรอบร้อยละ 1.5-2.0
“ปี 60 จะเป็นปีที่เศรษฐกิจไทยมีความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยมีการลงทุนภาครัฐเป็นพระเอกช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่หลายโครงการที่มีความชัดเจนและพร้อมเดินหน้าก่อสร้าง ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ภาคเอกชนตัดสินใจขยายการลงทุนเพิ่ม” นายมนตรี กล่าว
ส่วนแนวโน้มการส่งออกปี 2560 เชื่อว่ายังขยายตัวร้อยละ 1-2 โดยมีประเทศคู่ค้าที่สำคัญ ได้แก่ กลุ่มประเทศอาเซียนที่มีสัดส่วนการส่งออกสูงถึงร้อยละ 25.3 ของมูลค่าส่งออกทั้งหมด และมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากการสนับสนุนการลงทุนของภาครัฐและเอกชนของแต่ละประเทศในอาเซียน จึงคาดว่าปี 2560 จะเติบโตได้ร้อยละ 4.6 จากปี 2559 ที่ประเมินว่าเติบโตร้อยละ 4.5 ส่วนตลาดสหรัฐซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญที่มีสัดส่วนส่งออกกว่า ร้อยละ 11.4 มีแนวโน้มขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นบวกและส่งสัญญาณการเติบโตที่สดใส หลังจากได้ประธานาธิบดีคนใหม่เข้ามาขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลัง ขณะที่ตลาดจีน ซึ่งประเทศไทยมีสัดส่วนส่งออกร้อยละ 10.6 มีแนวโน้มชะลอตัว เนื่องจากการลงทุนของภาคเอกชนที่ลดลง ดังนั้น เศรษฐกิจโลกจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อทิศทางเศรษฐกิจจีน เนื่องจากจีนมีการส่งออกสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก หากเศรษฐกิจจีนยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีการส่งออกสินค้าจากไทยไปยังประเทศจีนก็ย่อมดีตามไปด้วย
ทั้งนี้ จากปัจจัยข้างต้นจะช่วยสนับสนุนความแข็งแกร่งของภาคตลาดเงินตลาดทุนไทยปี 2560 คาดว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับ 1,600-1,650 จุด และอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะทรงตัวร้อยละ 1.50 ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2560 เติบโตร้อยละ 3.5-4.0 ตามที่ประเมินไว้.-สำนักข่าวไทย