พหลโยธิน 21 ธ.ค. – น.ส.พิมลวรรณ มหัจฉริยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไตรมาส 4 ปี 2559 มีแนวโน้มส่งสัญญาณชะลอตัวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติหดตัวและชะลอการใช้จ่ายในภาคเอกชน แต่ยังมีแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปีทั้งช้อปช่วยชาติ เที่ยวช่วยชาติ และโครงการเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ การฟรีวีซ่า VOA และการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐที่คาดว่าจะส่งผลบวกต่อจีดีพีประมาณร้อยละ 0.2 คาดว่าจีดีพีปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 3.3
ขณะที่ปี 2560 ประเมินว่าการท่องเที่ยว การลงทุนภาครัฐ และการบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวอัตราชะลอลง โดยยังต้องอาศัยแรงผลักดันจากการส่งออกและการลงทุนภาคเอกชนเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ รวมถึงการจัดทำงบประมาณกลางปี 2560 ที่จะก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนกระจายสู่ท้องถิ่นมากขึ้น ก็เป็นปัจจัยบวกใหม่ที่คงต้องติดตาม โดยคาดว่าปี 2560 เศรษฐกิจโตร้อยละ 3.3 ขณะที่เศรษฐกิจโลกยังคงต้องติดตามการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ ท่ามกลางราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงเศรษฐกิจประเทศหลัก เช่น ยูโรโซน ญี่ปุ่น และจีน ส่วนเศรษฐกิจอาเซียนมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น แต่การส่งออกไปตลาดอาเซียนยังขยายตัวระดับต่ำ
ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ปี 2560 คาดว่าจะแตะระดับสูงสุดที่ ร้อยละ 3.01 ในไตรมาส 3/2560 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการที่คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวร้อยละ 3.5 ในปี 2561 ขณะที่สินเชื่อธนาคารพาณิชย์คาดว่าจะขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 4 และธนาคารพาณิชย์ยังรักษาระดับการแก้ไขหนี้ด้อยคุณภาพเฉลี่ยปี 2560-2561 ที่ไม่น้อยกว่าปี 2559 ประกอบกับรายได้เกษตรกรดีขึ้น โดยกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีขนาดกลางและขนาดเล็ก อาทิ ค้าส่งค้าปลีก ค้าวัสดุก่อสร้าง โรงแรม รีสอร์ท และธุรกิจด้านเกษตรบางประเภท ลูกค้าบุคคลรายย่อยและลูกค้าที่เคยปรับโครงสร้างหนี้ไปแล้วยังเป็นกลุ่มลูกค้าที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ขณะที่อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มขยับขึ้น เพราะธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ย ความต้องการลงทุนเพิ่มขึ้นจากภาครัฐ ประกอบกับทิศทางเงินเฟ้อทยอยขยับขึ้น
สำหรับหนี้ครัวเรือนจะทรงตัวต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 อยู่ที่ระดับร้อยละ 82 โดยผลสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทยพบว่าผู้บริโภคยังกังวลปัญหาหนี้และเพิ่มความระมัดระวังใช้จ่ายมากขึ้น ความกังวล 3 อันดับแรก คือ แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของค่าครองชีพ และสินค้าแพงขึ้น อันดับ 2 ความไม่แน่นอนด้านรายได้ครัวเรือน และอันดับสุดท้ายความสามารถในการชำระหนี้
นอกจากนี้ ราคาข้าวยังต้องได้รับแรงกดดันด้านราคา คาดว่ารัฐบาลจะมีมาตรการระยะสั้น เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านราคา ควบคู่กับการผลักดันมาตรการระยะกลางและระยะยาว เพื่อสร้างความยั่งยืนของข้าวไทย ขณะที่มูลค่าส่งออกรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในปี 2560 จากความต้องการของตลาดโอเชียเนีย อเมริกาเหนือ และเอเชีย โดยยอดขายรถยนต์น่าจะฟื้นตัวปี 2560 หลังจากหดตัว 4 ปีติดต่อกัน กลุ่มที่คาดว่าจะขายดีน่าจะเป็นรถปิคอัพ รถบรรทุก และรถเอ็มพีวี.-สำนักข่าวไทย