“ชัชชาติ” ลงพื้นที่โรงขยะอ่อนนุช

กรุงเทพฯ 11 เม.ย.- “ชัชชาติ” ลงพื้นที่ดูการจัดการขยะ “โรงกำจัดขยะอ่อนนุช” กระทบชุมชน ชี้ต้องเร่งแก้ทั้งระบบ พร้อมวางผังเมืองใหม่ รับโพลมาแรงยังเป็นที่ 1 แต่ไม่ประมาท ชี้เคยมีโพลมาแรง แหกโค้งพลิกแพ้มาแล้ว 2 ครั้ง


นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่า กทม. อิสระ ลงพื้นที่เขตประเวศ – เขตวังทองหลาง – เขตบางซื่อ โดยเริ่มจากการลงพื้นที่ดูการจัดการขยะของโรงกำจัดขยะอ่อนนุช และผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบ พร้อมระบุว่า แต่ละวันมีขยะ เข้ามาประมาณวันละ 4,000 ตัน ภายในมีทั้งการนำขยะติดเชื้อ ขยะฝังกลบ ขยะทำปุ๋ย การบำบัดน้ำเสียที่อาจก่อให้เกิดความรำคาญ และผลกระทบกับชุมชนโดยรอบ โดยเฉพาะเรื่องกลิ่นที่ค่อนข้างรุนแรง จึงเป็นเรื่องที่ต้องดูแลเร่งด่วน เพื่อบรรเทาปัญหาประชาชน แต่ต้องดูทั้งระบบ ว่าจุดไหนมีความเสี่ยง จุดไหนที่ต้องปรับปรุง หรือจะทำอย่างไรให้ขยะเหล่านี้นำกลับมาใช้ประโยชน์ให้มากขึ้นได้หรือไม่

ส่วนการแก้ปัญหาเรื่องผังเมือง เนื่องจากขณะนี้มีการขยายชุมชนเพิ่มมากขึ้นนั้น นายชัชชาติ กล่าวว่า กทม. จะต้องดูแลจัดการปัญหานี้ เพราะเป็นคนอนุญาตให้สามารถจัดตั้งเมืองหรือชุมชนได้ แต่จะอ้างว่าโรงงานขยะอยู่มาก่อนไม่ได้ หรือหากจะไม่ให้ตั้งชุมชนจะต้องกำหนดให้ชัดเจนว่าบริเวณไหนไม่ให้มีที่อยู่อาศัย


ขณะที่การเดินหน้านโนบายลดผลกระทบจากปัญหาขยะ ซึ่งกระทบกับเจ้าหน้าที่ กทม. โดยตรง จะส่งผลกระทบกับคะแนนเสียงหรือไม่ นายชัชชาติ มองว่า เจ้าหน้าที่ กทม. ทุกคนจะต้องทำตามนโนบายอยู่แล้ว และเชื่อว่าทุกคนจะทำตาม หากถือประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง หากคนไหนตั้งใจทำงานก็คงไม่เดือดร้อน

ส่วนผลสำรวจความคิดเห็นของ “นิดาโพล” ที่ยังมีคะแนนนำมาเป็นอันดับ 1 นั้น นายชัชชาติระบุว่า คงเป็นกำลังใจ แต่ยึดมั่นมากไม่ได้ พร้อมตั้งข้อสังเกตกรณีที่ประชาชนกว่าร้อยละ 10 ที่ไม่ตัดสินใจ เช่นเดียวกับ “ซูเปอร์โพล” ที่สำรวจพบประชาชนเกือบร้อยละ 50 ยังไม่ตัดสินใจเลือกใคร ซึ่งถือว่าเยอะ สะท้อนถึงความไม่แน่นอน แต่ไม่กังวล ยังเดินหน้าให้ดีที่สุด ซึ่งต้องดูวินาทีสุดท้าย เพราะสุดท้ายขึ้นอยู่กับประชาชนจะตัดสินใจ และส่วนตัวไม่ได้มุ่งกับโพล ยังลงพื้นที่ตามปกติ เพราะยังมีจุดอ่อนในเรื่องการสื่อสารให้กับคนที่เข้าไม่ถึงโซเชียลมีเดีย ซึ่งยังต้องทำงานให้หนักขึ้น ต้องลงพื้นที่ให้มาก พร้อมมองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญ อยากให้ทุกคนไปใช้สิทธิให้ถึง 100%

ส่วนผลสำรวจของ “ซุปเปอร์โพล” กว่าร้อยละ 80 ระบุว่า ประชาชนมองว่าคนที่คะแนนำมาตลอดอาจพลิกได้ นายชัชชาติ ยอมรับเป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้กับการเลือกตั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา กับโพลมาแรง แหกโค้งทุกคน แต่ส่วนตัวมองว่าผลโพลนำดีกว่าโพลตาม แต่ย้ำว่า ยังลงพื้นที่ต่อไป จะทำให้เต็มที่มากที่สุด


นายชัชชาติ ยังระบุถึงข้อกังวล ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ที่ลงพื้นที่อย่างหนัก หลายคนมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19 โดยยอมรับว่า ถือเป็นเรื่องจริงที่จะต้องเจอความเสี่ยงไม่น้อยกว่าประชาชน เวลาลงพื้นที่ได้ป้องกันตัวเอง แต่หากต้องติดเชื้อจริง ต้องปรับแผนหาเสียงผ่านทางออนไลน์แทน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง