ศบค.ให้เล่นน้ำสงกรานต์ตามประเพณีในพื้นที่ควบคุม

ทำเนียบ 18 มี.ค.- ศบค.ให้จัดสงกรานต์เล่นน้ำตามประเพณีในพื้นที่ควบคุม แต่ห้ามประแป้งและปาร์ตี้โฟม ยังปิดสถานบันเทิง พร้อมปรับระดับพื้นที่ควบคุม และต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อีก 2 เดือน


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ว่าที่ประชุมมีมติปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ โดยพื้นที่ควบคุมจาก 44 จังหวัด เป็น 20 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูง จาก 25 จังหวัด เป็น 47 จังหวัด พื้นที่นำร่องท่องเที่ยวจาก 8 จังหวัด เป็น 10 จังหวัด ซึ่งทุกพื้นที่ยังคงปิดสถานบริการและสถานบันเทิง แต่หากปรับเป็นร้านอาหารก็สามารถดำเนินการได้ พร้อมทั้งมติขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นคราวที่ 17 ตั้งแต่  1 เมษายนถึง 31 พฤษภาคม เพื่อใช้ประโยชน์ในการควบคุมโรคอย่างเต็มที่

ที่ประชุม ศบค. มีมติเห็นชอบให้ปรับมาตรการการเปิดรับผู้เดินเข้าประเทศแบบ Test & Go ซึ่งได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว ไม่ต้องแสดงผลตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR ในช่วง 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางเข้าประเทศ แต่หลังจากเดินทางเข้ามาแล้วยังคงให้ตรวจ RT-PCR ในวันแรก จากนั้นในวันที่ 5 ให้ตรวจแบบ ATK ด้วยตัวเองแล้วแจ้งผลผ่านแอปพลิเคชัน พร้อมกันนี้ ศบค.ยังเตรียมพิจารณาปรับลดวงเงินประกันของนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยในระยะต่อไป  เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวในจังหวะเวลาที่เหมาะสม


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ศบค.มีมติให้สามารถจัดงานเทศกาลสงกรานต์ได้ โดยสถานที่จัดงานสงกรานต์ต้องอยู่ในพื้นที่ควบคุมจำกัด อนุญาตให้เล่นน้ำ และจัดกิจกรรมตามประเพณี เช่น รดน้ำดำหัว สรงน้ำพระ การละเล่น การแสดงทางวัฒนธรรม โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการ Covid Free Setting ห้ามประแป้ง ปาร์ตี้โฟม และห้ามจำหน่ายและบริโภคแอลกอฮอล์ในพื้นที่จัดงาน

พร้อมทั้งได้กำหนดมาตรการป้องกันโควิด-19 โดยการเตรียมตัวก่อนร่วมงาน ประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา และกลุ่ม 608 ต้องได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ ขณะเดินทางกลับห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และต้องประเมินความเสี่ยงของตนเอง หากพบว่ามีอาการ หรือมีความเสี่ยง ขอให้หลีกเลี่ยงเข้าร่วมงาน หรือตรวจ ATK ก่อนเดินทางหรือก่อนร่วมงานภายใน 72 ชั่วโมง

ส่วนพื้นที่สาธารณะไม่มีการควบคุม เช่น ท้องถนน ห้ามเล่นน้ำ ประแป้ง และปาร์ตี้โฟมเด็ดขาด ส่วนกิจกรรมในครอบครัว เลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มเป็นเวลานาน


สำหรับหลังกลับจากสงกรานต์ให้สังเกตอาการตนเอง 7 วัน โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการป่วยรุนแรง และผู้ที่ไปพบปะคนจำนวนมาก หากพบว่ามีอาการสงสัยว่าติดเชื้อให้มีการตรวจ ATK และบางสถานสามารถพิจารณาให้ WFH ให้เป็นไปตามความเหมาะสม นอกจากนี้ ผอ.ศบค.ได้เน้นย้ำให้ฝ่ายปกครองและฝ่ายความมั่นคง ร่วมทำงานกับฝ่ายสาธารณสุขอย่างเข้มงวดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อให้สามารถผ่านเทศกาลนี้ไปด้วยความเรียบร้อย หากใครกระทำผิดให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว

นายกฯสิงคโปร์เยือนไทย

นายกฯ ต้อนรับนายกฯ สิงคโปร์ ร่วมเปิดศักราชความสัมพันธ์ 60 ปี

“แพทองธาร” นายกฯ ต้อนรับนายกฯ สิงค์โปร์ อย่างสมเกียรติ พร้อมแถลงข่าวร่วมเปิดศักราชความสัมพันธ์ 60 ปี ไทย-สิงคโปร์ ผลักดันการลงทุนสีเขียว เศรษฐกิจดิจิทัล เชื่อมโยงอาเซียน มุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและมั่งคั่งร่วมกัน