ทำเนียบ 18 มี.ค.- “หมออุดม” ขอความร่วมมือสงกรานต์ต้องไม่ให้ตัวเลขติดเชื้อพุ่งสูง หวั่นสถานการณ์หนักลากถึงสิ้นปี เป็นโรคประจำถิ่นยาก
นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวก่อนการประชุม ถึงการผ่อนคลายมาตรการช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่าก็จำเป็นที่จะมีการผ่อนคลาย ให้สามารถดำเนินกิจกรรมได้ตามปกติ แต่ประชาชนยังต้องระมัดระวังตนเอง เพราะยังมีการแพร่ระบาดอยู่ ซึ่งวันนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังคงสูง และมีผู้เสียชีวิตถึง 80 ราย แม้ส่วนใหญ่อาการจะไม่รุนแรง แต่ไม่อยากให้กลับไปเหมือนสงกรานต์ปีที่แล้ว ที่ไม่มีการล็อกดาวน์ และพบว่าตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อสูงขึ้นมาก ดังนั้นจึงต้องกดตัวเลขผู้ติดเชื้อไม่ให้สูงขึ้นมาก ทางนี้มีการคาดการณ์ว่าหากตัวเลขยังทรงตัวอยู่ในระดับนี้ เมื่อถึงกลางปีตัวเลขน่าจะลงมาแตะที่หลักพันต้นๆ ซึ่งก็จะถือว่าเป็นปกติ แต่หากตัวเลขสูงขึ้นมาก สถานการณ์จะลากยาวไปถึงสิ้นปีอย่างแน่นอน ดังนั้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับประชาชน เพราะทั้งรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขทำงานอย่างเต็มที่แล้ว แต่ทั้งนี้เชื่อว่าตัวเลขผู้ติดเชื้ออาจสูงขึ้นไปถึง 3 หมื่นราย และตัวเลขผู้เสียชีวิตไม่อยากให้กลายเป็นตัวเลขสามหลัก ซึ่งถือว่าเยอะเกินไป
“ตอนนี้มาถึงทางแยกว่าจะให้โควิดบ้านเราสิ้นสุดที่กลางปีตามที่ทำนายหรือไม่ แต่ปัจจัยที่จะมาทำให้เปลี่ยนไปได้คือช่วงสงกรานต์ และถ้ากดตัวเลขไม่อยู่ และถ้าขึ้นไปสูงจะลากยาวถึงสิ้นปีและพวกเราจะลำบาก อึดอัดไปไหนก็ไม่ได้ เศรษฐกิจก็ไม่เดิน ตอนนี้อยู่ที่ประชาชนต้องให้ความร่วมมือ ซึ่งเราได้ทำกันอย่างเต็มที่แล้ว” นพ.อุดม กล่าว
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนว่าก่อนเทศกาลสงกรานต์ ให้ประชาชนฉีดวัคซีนเข็ม 3 เนื่องจากเป็นปัจจัยสำคัญ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และลูกหลานที่จะไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ต้องฉีดวัคซีนก่อนช่วงสงกรานต์ 2 สัปดาห์ เพื่อให้ภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น และตรวจ ATK ก่อนเดินทาง และควรจะกักตัวก่อนเดินทางประมาณ 7 วัน เพื่อจะได้ไม่ต้องรับเชื้อโดยไม่รู้ตัวและปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด สำหรับการเปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์นั้น นพ.อุดม กล่าวว่า อยากให้เปิดสถานบันเทิง แต่ถือเป็นสถานที่เสี่ยงสูงสุด ส่วนตัวอยากให้ผ่านช่วงสงกรานต์ไปก่อน แล้วค่อยพิจารณาอีกครั้ง เพราะต้องการให้ตัวเลขคงที่ก่อน ทั้งนี้เชื่อว่าถ้าวันนี้ควบคุมให้ดี ช่วงเดือนกรกฎาคมจะเปลี่ยนเป็นโรคประจำถิ่น เหมือนไข้หวัดธรรมดาได้.-สำนักข่าวไทย