ทำเนียบ 15 มี.ค.- ครม.อนุมัติให้ สธ. เปลี่ยนแปลงการจัดชื้อเวชภัณฑ์ยา จากโมลนูพิราเวียร์ เป็นฟาวิพิราเวียร์และเรมเดซิเวียร์ เพื่อสอดคล้องกับแนวทางเวชปฏิบัติและสถานการณ์โควิด-19
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการจัดหาเวชภัณฑ์ยาและขยายระยะเวลาดำเนินการโครงการแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระยะการระบาดระลอกเมษายน 2564 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ตามที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอ โ€จโ€จโดยเป็นการเปลี่ยนแปลงรายการจัดซื้อเวชภัณฑ์ยาจากยา Molnupiravir (โมลนูพิราเวียร์) ตามโครงการแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่ฯ 50,000 โดส เป็นยา Favipiravir(ฟาวิพิราเวียร์) จำนวน 17,065,457 เม็ด และยา Remdesivir(เรมเดซิเวียร์) จำนวน 5,166 Vial(ขวด) โ€จโ€จทั้งนี้ เนื่องจากแนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย ดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโควิด-19 กำหนดให้ยา Favipiravir เป็นยาหลักที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ทั้งที่ไม่มีอาการปอดอักเสบหรือมีอาการปอดอักเสบเล็กน้อย โดยมีอัตราการใช้ยาร้อยละ 87 ของผู้ป่วยที่ติดเชื้อทั้งหมด และสำหรับยา Remdesivir ใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง แต่มีข้อห้ามในการใช้ยา Favipiravir โดยมีอัตราการใช้ยาร้อยละ 2 ของผู้ป่วยติดเชื้อทั้งหมด พร้อมทั้ง ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณในการดำเนินโครงการ และ ขยายระยะเวลาการดำเนินการตามโครงการ จากเดิมระยะเวลาดำเนินการต.ค.-ธ.ค. 2564 เป็น ต.ค.2564-ก.ย. 2565
“กระทรวงสาธารณสุขเห็นว่าการแพร่ระบาดของโควิด19 ยังคงมีความต่อเนื่อง จึงมีความจำเป็นต้องสำรองยาดังกล่าวไว้ให้เพียงพอสำหรับรักษาผู้ป่วย รวมถึงมีความจำเป็นต้องปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณในการดำเนินโครงการปรับระยะเวลาการดำเนินโครงการเพื่อให้กระทรวงสาธารณสุขสามารถจัดหาเวชภัณฑ์ยาเพื่อดูแลดูแลประชาชนได้ตามแผนงานและสอดคล้องกับเวชปฏิบัติในปัจจุบัน” น.ส.ไตรศุลี กล่าว.-สำนักข่าวไทย